อดีตขุนคลังเตือนรัฐบาลใหม่เตรียมตัวเผชิญผลกระทบวิกฤตเศรษฐกิจโลก มิ.ย.นี้ คาดบาทแข็งทะลุ 31 แนะคงมาตรการ 30% รับมือดอลลาร์ผันผวน ส่วนเก้าอี้ขุนคลังคนใหม่ “วีรพงษ์ รามางกูร” เหมาะสมที่สุด แก้ปัญหาได้หลักแหลม ส่วนคววามเห็นต่างคลัง-แบงก์ชาติมีได้ แต่ไม่ควรขัดแย้งกัน
วันนี้ (18 ม.ค.) ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกมาแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์เศรษฐกิจที่รัฐบาลชุดใหม่ต้องเผชิญอย่างรุนแรงในปี 2551 เนื่องจากตลอด 1 ปีที่ผ่านมารัฐบาลไม่มีการกระตุ้นการลงทุนโครงการใหม่ๆ แต่ที่ยังสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปได้เนื่องจากความเชื่อมั่นนักลงทุนในอดีต พร้อมแนะนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ต้องมีความรู้รอบด้านกล้าคิดกล้าตัดสินใจอย่างจริงจัง
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ระบุว่า ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาลชุดใหม่ ควรต้องเป็นคนที่มีความรู้ มีความสามารถในการแก้ปัญหาโดยเฉพาะปัญหาสินเชื่อด้อยมาตรฐาน หรือ ซับไพรม์ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยหลังเดือน มิ.ย.นี้ พร้อมยืนยัน มาตรการกันสำรองร้อยละ 30 ช่วยแก้บาทแข็งได้ โดยเชื่อว่าหากไม่ประกาศใช้อัตราแลกเปลี่ยนอาจจะทะลุแตะ 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และอาจเกิดวิกฤตเศรษฐกิจเร็วกว่านี้
นอกจากนี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธรยังสนับสนุนกระแสข่าวที่มีการทาบทาม ดร.วีรพงษ์ รามางกูร เข้ามาดำรงตำแน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในรัฐบาลชุดใหม่ โดยกล่าวชื่นชมว่าเป็นบุคคลที่มีความสามารถในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างหลักแหลม พร้อมปฏิเสธว่ายังไม่มีผู้มาทาบทามให้ตนรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในรัฐบาลใหม่แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ยังระบุเพิ่มเติมว่า การทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระรวงการคลังกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย อาจมีความเห็นต่างกันได้แต่ไม่ควรขัดแย้งกัน ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนปัจจุบันเป็นผู้มีความสามารถในการทำงาน