ประธาน ส.อ.ท.โต้ผู้ว่าการแบงก์ชาติ ยืนยันผู้ส่งออก-นำเข้า ไม่ใช่ต้นเหตุสำคัญเก็งกำไรค่าเงิน ชี้ปัจจัยกระทบหลัก ยังมีอีกหลายปัจจัย ทั้งดอลลาร์อ่อนค่า และภาวะเศรษฐกิจโลก ธปท.สามารถนำมาประเมินทิศทางได้
วันนี้ (18 ม.ค.) นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ปฏิเสธกรณีที่ นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ออกมาให้สัมภาษณ์กล่าวหาผู้ส่งออกและผู้นำเข้าภายในประเทศ มีการเก็งกำไรค่าเงินบาท และเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้ค่าเงินบาทแข็งนั้น
“การที่ผู้ว่าการ ธปท.มองว่า การที่ผู้ประกอบการเทขายดอลลาร์สหรัฐฯในตลาด เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากการส่งออกและนำเข้าสินค้า ทำให้รัฐบาลไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้นั้น เป็นสิ่งที่กล่าวหากันจนเกินความเป็นจริง ทำให้ประชาชนเข้าใจว่า ผู้ส่งออกและผู้นำเข้าเป็นต้นเหตุทำเงินบาทแข็ง แต่ความจริงเราเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น”
นายสันติ ระบุว่า การแข็งค่าของเงินบาทในขณะนี้ สามารถประเมินได้จากหลายปัจจัย อาทิ ภาวะเศรษฐกิจโลก การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งไม่ได้เกิดจากผู้นำเข้าและผู้ส่งออกภายในประเทศเพียงอย่างเดียว
นายสันติ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ภาคเอกชนมีความเป็นห่วงปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจในปีนี้ มาจากเรื่องของราคาน้ำมันสูงขึ้น และยังมีปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐชะลอตัวลง ปัญหาค่าครองชีพภายในประเทศสูงขึ้น ที่จะต้องมีการดูแลอย่างใกล้ชิดและเหมาะสม
ทั้งนี้ ในการประชุมร่วมกับรัฐบาล วานนี้ นายสันติ กล่าวว่า ภาคเอกชนไม่ได้มีการหารือกันถึงเรื่องค่าเงินบาทที่แข็งค่าอยู่ในขณะนี้ เพราะทางนายกรัฐมนตรี มีเวลาน้อยเนื่องจากมีภารกิจต่อ แต่นายกรัฐมนตรี บอกว่า ได้กำชับให้ ธปท.และกระทรวงการคลัง ดูแลเรื่องค่าบาทอย่างใกล้ชิดแล้ว