ผู้ว่าการแบงก์ชาติ เชื่อเงินเฟ้อยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นอีก หลังรัฐคุมสถานการณ์ไม่อยู่ ราคาน้ำมันในประเทศ-ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ยังคงปรับขึ้นราคาไม่หยุด ส่วนค่าเงินบาทอ่อน เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อเงินดอลลาร์ และยังไม่พบการเก็งกำไร
วันนี้ (13 พ.ค.) นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงานสัมมนา The Thailand Investment Forum โดยระบุถึงปัญหาเงินเฟ้อที่กำลังเกิดขึ้นค่อนข้างรุนแรงในสภาวะปัจจุบัน โดยยอมรับว่า ไตรมาสแรกและปีนี้เงินเฟ้อทั่วไปของไทยปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากราคาน้ำมันและสินค้าอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้น แต่เงินเฟ้อพื้นฐานของไทยจะยังไม่สูงขึ้นมาก และเชื่อว่า เงินเฟ้อของโลกยังไม่ถึงจุดสูงสุด
ธปท.ยังต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิด เพราะราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งก็ต้องติดตามและประเมินกันต่อไป
อย่างไรก็ตาม มองว่า เศรษฐกิจของไทยปีนี้ยังเติบโตได้ เนื่องจากไตรมาสแรกเศรษฐกิจของไทยเติบโตกว่า 6% ซึ่งมาจากการบริโภคภายในประเทศซึ่งเติบโตดี รวมถึงการส่งออกที่เติบโตดี อีกทั้งความชัดเจนในโครงการเมกะโปรเจ็กที่ช่วยกระตุ้นการลงทุนต่อไปได้
สำหรับค่าเงินบาทที่ปรับตัวอ่อนค่าลงมาในช่วงนี้ เป็นผลมาจากการซื้อดอลลาร์ของต่างชาติ แต่ยังไม่พบว่ามีแรงขายเงินบาทออกมาจากผู้ส่งออก และไม่มีปัจจัยในประเทศที่มีผลต่อค่าเงินบาท ซึ่งธปท.ได้ติดตามอย่างใกล้ชิดและคาดว่าจะเป็นการอ่อนค่าระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทเป็นไปในทิศทางของตลาด ซึ่งธปท.ดูแลไม่ให้ค่าเงินบาทเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมองว่าค่าเงินบาทในระดับปัจจุบันยังไม่ถือว่าผันผวน ซึ่งถ้าเป็นเรื่องการเก็งกำไร ธปท.ก็ดูแลอยู่ ส่วนเรื่องการออกพันธบัตรของธปท.จำนวน 2.5 ล้านล้านบาท เป็นการออกตามกำหนดการปกติไม่เกี่ยวข้องกับการดูแลค่าเงินบาท