รัฐบาลชมแบงก์ชาติบริหารเงินทุนสำรองเยี่ยม สามารถรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่ามากกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค ช่วยลดภาระต้นทุนการแทรกแซงค่าเงินได้ดี เผยพอใจเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ 87,000 ล้านดอลลาร์ และสัญญาซื้อขายเงินตราสกุลต่างประเทศ 19,000 ล้านดอลลาร์
นายโชติชัย สุวรรณาภรณ์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภาระทางการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในขณะนี้มีทุนสำรองระหว่าประเทศและสัญญาซื้อขายเงินตราสกุลต่างประเทศในระดับที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดย ณ สิ้นปี 2550 เงินทุนสำรองระหว่างประเทศคิดเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐทั้งสิ้นจำนวน 87,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และสัญญาซื้อขายเงินตราสกุลต่างประเทศอีกประมาณ 19,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ทุนสำรองของประเทศมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 107,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยในปี 2550 ที่ผ่านมาเงินทุนที่ไหลเข้าสู่ประเทศไทยมีปริมาณที่มากส่งผลให้เงินทุนสำรองเพิ่มขึ้นจากต้นปีถึงปลายปีสูงถึง 50% แต่ธปท.สามารถบริหารจัดการเงินทุนสำรองดังกล่าวได้เป็นอย่างดี โดยอาศัยเครื่องมือในการบริหารจัดการตามขอบเขตที่กฎหมายกำหนด ส่งผลให้เสถียรภาพค่าเงินบาทอยู่ในระดับที่มั่นคงและมีการแข็งค่าใกล้เคียงกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค
“ถือว่าที่ผ่านมาแบงก์ชาติสามารถบริหารจัดการทุนสำรองระหว่างประเทศได้ดี เพราะหากมีเงินไหลเข้ามาในปริมาณมหาศาลเช่นนี้แต่ไม่สามารถบริหารจัดการได้จะส่งผลให้เกิดต้นทุนที่สูงและเป็นภาระต่อสังคมมาก วิธีการแทรกแซงของแบงก์ชาติถือว่าได้ผลดีและการนำเงินทุนสำรองไปลงทุนถือว่าให้ผลตอบแทนที่ดีด้วยเช่นกัน” นายโชติชัยกล่าว
นายโชติชัย สุวรรณาภรณ์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภาระทางการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในขณะนี้มีทุนสำรองระหว่าประเทศและสัญญาซื้อขายเงินตราสกุลต่างประเทศในระดับที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดย ณ สิ้นปี 2550 เงินทุนสำรองระหว่างประเทศคิดเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐทั้งสิ้นจำนวน 87,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และสัญญาซื้อขายเงินตราสกุลต่างประเทศอีกประมาณ 19,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ทุนสำรองของประเทศมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 107,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยในปี 2550 ที่ผ่านมาเงินทุนที่ไหลเข้าสู่ประเทศไทยมีปริมาณที่มากส่งผลให้เงินทุนสำรองเพิ่มขึ้นจากต้นปีถึงปลายปีสูงถึง 50% แต่ธปท.สามารถบริหารจัดการเงินทุนสำรองดังกล่าวได้เป็นอย่างดี โดยอาศัยเครื่องมือในการบริหารจัดการตามขอบเขตที่กฎหมายกำหนด ส่งผลให้เสถียรภาพค่าเงินบาทอยู่ในระดับที่มั่นคงและมีการแข็งค่าใกล้เคียงกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค
“ถือว่าที่ผ่านมาแบงก์ชาติสามารถบริหารจัดการทุนสำรองระหว่างประเทศได้ดี เพราะหากมีเงินไหลเข้ามาในปริมาณมหาศาลเช่นนี้แต่ไม่สามารถบริหารจัดการได้จะส่งผลให้เกิดต้นทุนที่สูงและเป็นภาระต่อสังคมมาก วิธีการแทรกแซงของแบงก์ชาติถือว่าได้ผลดีและการนำเงินทุนสำรองไปลงทุนถือว่าให้ผลตอบแทนที่ดีด้วยเช่นกัน” นายโชติชัยกล่าว
