ผจก.ตลาดหุ้น ชี้ภาวะตลาดหุ้นไทยทรุดหนักช่วงนี้ เกิดจาก 3 ประเด็นใหญ่ ทั้งกรณีท่อก๊าซ ปตท., ปัญหาความไม่สงบทางการเมือง และซับไพรม์ของสหรัฐฯ พร้อมระบุ พี/อี ของตลาดหุ้นตอนนี้ ปรับลดลงมาที่ 11.29 เท่า แนะจับตา 18 ม.ค.นี้ คาดใช้ภาพลักษณ์การเมืองปลุกบรรยากาศ ด้านผู้บริหาร ปตท.ยอมรับ ปัญหาราคาหุ้นทรุดหนัก หลุดระดับ 300 บาทไปแล้วนั้น เกิดจากปัจจัยต่างประเทศ ส่วนเรื่องท่อก๊าซเป็นประเด็นรอง
วันนี้ (16 ม.ค.) นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงภาวะตลาดหุ้นไทยที่กำลังทรุดหนักในช่วงนี้ เกิดจากปัจจัยกดดันทั้งภายในและภายนอก ทั้งปัญหาความไม่สงบทางการเมือง, การคำนวณค่าเช่าท่อส่งก๊าซของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT รวมทั้งปัจจัยภายนอก ได้แก่ ปัญหาสินเชื่อด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) และการถดถอยของเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง นอกจากนี้ยังมีแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติเข้ามากดดันด้วย
โดยเช้านี้ เปิดตลาดมาดัชนีร่วงทันทีกว่า 17 จุด หรือ -2.18% มาอยู่ที่ 762.78 จุด ตามตลาดหุ้นทั่วโลก ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากปัญหาซับไพรม์
“การที่ดัชนีปรับตัวลดลง เป็นเพราะปัจจัยภายนอกและภายในกดดัน ซึ่งเราคงจะต้องติดตามเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลในวันที่ 18 ม.ค.นี้ว่า จะออกมาในรูปแบบใด รวมถึงเรื่อง PTT ก็ยังเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนไม่กล้าเข้าลงทุน ซึ่งหาก 2 ปัจจัยนี้คลี่คลายก็น่าจะทำให้ภาพตลาดหุ้นดูดีขึ้น”
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจะเห็นว่า ยังมีแรงซื้อของนักลงทุนรายย่อยและกองทุนเข้ามา และการที่ดัชนีปรับลดลงถือเป็นจังหวะเข้ามาซื้อได้
นางภัทรียา กล่าวว่า ตั้งแต่ตลาดหุ้นไทยเปิดทำการซื้อขายในรอบปี 2551 เป็นต้นมา ดัชนีหุ้นไทยได้ปรับลดลงไปแล้วเกือบ 10% ส่งผลให้ค่า พี/อี ของตลาดหุ้นไทยปรับลดลงมาที่ 11.29 เท่า ซึ่งลดลงจากก่อนหน้านี้ที่มีค่าพี/อี 13-14 เท่า ดังนั้น ช่วงนี้จึงเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ลงทุนระยะยาว โดยเฉพาะการลงทุนผ่านกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ)
นางภัทรียา กล่าวอีกว่า ตอนนี้ราคาหุ้นไทยในตอนนี้ถือว่าค่อนข้างถูกแล้ว และน่าจะเป็นจังหวะดีสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่จะเข้าลงทุน ซึ่งตลาดหลักทรัพย์เองได้ให้ฝ่ายเอชอาร์(ฝ่ายบุคคล) จัดโปรแกรมที่ให้พนักงาน ซึ่งสนใจลงทุนผ่านกองทุนแอลทีเอฟในระยะยาว ได้มีโอกาสทยอยลงทุนแบบซื้อสะสม เพราะช่วงนี้ก็ถือเป็นจังหวะที่น่าจะเริ่มซื้อได้แล้ว
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.กล่าวยอมรับว่า กรณีราคาหุ้นของ ปตท.ที่ตกลงอย่างหนัก ในช่วงนี้ โดยล่าสุด ราคาหุ้นได้ลดต่ำกว่า 300 บาทต่อ 1 หุ้นแล้วนั้น เป็นผลจากตลาดโลกกังวลปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้หุ้นตกทั่วโลก ในขณะที่เมืองไทยก็ยังประสบปัญหาผลกระทบจากการเมืองภายในประเทศที่ยังไม่ชัดเจนด้วย ยิ่งส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติเกิดความไม่มั่นใจและเทขายหุ้นในไทยมากกว่าประเทศอื่นๆ พร้อมยอมรับว่า ราคาหุ้น ปตท.ยังเป็นผลมาจากกรณีค่าเช่าท่อก๊าซที่ยังมีความไม่ชัดเจน