บล.สินเอเชีย เบนเข็มเป็นที่ปรึกษาบริษัทระดมทุนเข้า mai หลังภาพรวมตลาดนี้สดใสเพราะได้รับความสนใจจากนักลงทุนสูง เผยมีงานที่ปรึกษาควบรวมกิจการ 1-2 แห่ง ที่อยู่ระหว่างเจรจา
นางจุฬาภรณ์ นำชัยศิริ กรรมการผู้จัดการวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) สินเอเซีย จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้มีงานที่ปรึกษานำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ จำนวน 4 บริษัท มูลค่าระดมทุนรวม 800 ล้านบาท ซึ่งบริษัทหันมาเน้นงานด้านนี้มากขึ้น เพราะภาพรวมของตลาดเอ็ม เอ ไอ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่ม เนื่องจากอัตราส่วนราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น (พีอี) อยู่ในระดับสูง 11-12 เท่า ขณะที่ก่อนหน้านี้ บริษัทเน้นงานของบริษัทที่มีขนาดใหญ่เป็นหลัก
ทั้งนี้ บริษัทที่จะเข้ามาระดมทุนได้ยื่นแบบแสดงรายการขอเข้ามาระดมทุนต่อ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว และคาดจะเข้าระดมทุนได้ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป ขณะที่ภาพรวมไอพีโอในปีนี้ จะมีบริษัทระดมทุนเพิ่มสูงกว่าปี 50 แต่มูลค่าการระดมทุนอาจต่ำเมื่อเทียบกับปีก่อน
นอกจากนี้ สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยเอื้อให้กับบริษัทจดทะเบียนซึ่งหมดลงในปี 50 มีผลกระทบให้บริษัทหลายแห่งเลื่อนการระดมทุนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะขาดแรงจูงใจ รวมถึงมีความกังวลต่อสภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นที่มีความไม่แน่นอน และต้องถูกควบคุมข้อมูลต่าง ๆ อย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงมีผลกระทบต่อรายได้มีอัตราการเติบโตไม่ได้ตามเป้าหมาย
" จากการไปพบกับผู้บริหาร 10 บริษัท มีจำนวน 5 บริษัทที่เลื่อนเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้น เพราะปัจจัยดังกล่าว และแนวโน้มเศรษฐกิจใรประเทศที่ชะลอ " นางจุฬาภรณ์กล่าว
อย่างไรก็ดี บริษัทมีงานที่ปรึกษาควบรวมกิจการ 1-2 แห่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจา แต่ยังหาข้อสรุปได้ยาก เพราะการควบรวมกิจการของบริษัทดังกล่าวมีการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างกัน แต่ต้องการควบรวมเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง และเพิ่มศักยภาพการขยายธุรกิจ
นางจุฬาภรณ์กล่าวว่า มีบริษัทต่างชาติหลายแห่งให้ความสนใจเข้ามาซื้อกิจการในไทยและร่วมเป็นพันธมิตรประกอบธุรกิจ ทั้งที่เป็นบริษัทในและนอกตลาด ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจสหรัฐฯ ที่ต้องการย้ายการลงทุนจากจีนเข้ามายังไทย ส่วนใหญ่เป็นภาคการผลิตต่างๆ และอสังหาริมทรัพย์
" เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง ส่งผลให้มีการเข้ามาลงทุนในภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้น แต่เม็ดเงินเข้ามาในไทยไม่สูงนัก เพราะยังมีมาตรการกันสำรอง30% ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการลงทุน และสถานการณ์การเมืองในประเทศ " นางจุฬาภรณ์
โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัทในปี 51 ว่าจากงานเป็นที่เป็นที่ปรึกษาในการการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และงานที่ปรึกษาการเงินด้านอื่น ๆ อย่างละ 50 %
นางจุฬาภรณ์ นำชัยศิริ กรรมการผู้จัดการวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) สินเอเซีย จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้มีงานที่ปรึกษานำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ จำนวน 4 บริษัท มูลค่าระดมทุนรวม 800 ล้านบาท ซึ่งบริษัทหันมาเน้นงานด้านนี้มากขึ้น เพราะภาพรวมของตลาดเอ็ม เอ ไอ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่ม เนื่องจากอัตราส่วนราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น (พีอี) อยู่ในระดับสูง 11-12 เท่า ขณะที่ก่อนหน้านี้ บริษัทเน้นงานของบริษัทที่มีขนาดใหญ่เป็นหลัก
ทั้งนี้ บริษัทที่จะเข้ามาระดมทุนได้ยื่นแบบแสดงรายการขอเข้ามาระดมทุนต่อ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว และคาดจะเข้าระดมทุนได้ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป ขณะที่ภาพรวมไอพีโอในปีนี้ จะมีบริษัทระดมทุนเพิ่มสูงกว่าปี 50 แต่มูลค่าการระดมทุนอาจต่ำเมื่อเทียบกับปีก่อน
นอกจากนี้ สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยเอื้อให้กับบริษัทจดทะเบียนซึ่งหมดลงในปี 50 มีผลกระทบให้บริษัทหลายแห่งเลื่อนการระดมทุนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะขาดแรงจูงใจ รวมถึงมีความกังวลต่อสภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นที่มีความไม่แน่นอน และต้องถูกควบคุมข้อมูลต่าง ๆ อย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงมีผลกระทบต่อรายได้มีอัตราการเติบโตไม่ได้ตามเป้าหมาย
" จากการไปพบกับผู้บริหาร 10 บริษัท มีจำนวน 5 บริษัทที่เลื่อนเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้น เพราะปัจจัยดังกล่าว และแนวโน้มเศรษฐกิจใรประเทศที่ชะลอ " นางจุฬาภรณ์กล่าว
อย่างไรก็ดี บริษัทมีงานที่ปรึกษาควบรวมกิจการ 1-2 แห่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจา แต่ยังหาข้อสรุปได้ยาก เพราะการควบรวมกิจการของบริษัทดังกล่าวมีการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างกัน แต่ต้องการควบรวมเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง และเพิ่มศักยภาพการขยายธุรกิจ
นางจุฬาภรณ์กล่าวว่า มีบริษัทต่างชาติหลายแห่งให้ความสนใจเข้ามาซื้อกิจการในไทยและร่วมเป็นพันธมิตรประกอบธุรกิจ ทั้งที่เป็นบริษัทในและนอกตลาด ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจสหรัฐฯ ที่ต้องการย้ายการลงทุนจากจีนเข้ามายังไทย ส่วนใหญ่เป็นภาคการผลิตต่างๆ และอสังหาริมทรัพย์
" เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง ส่งผลให้มีการเข้ามาลงทุนในภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้น แต่เม็ดเงินเข้ามาในไทยไม่สูงนัก เพราะยังมีมาตรการกันสำรอง30% ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการลงทุน และสถานการณ์การเมืองในประเทศ " นางจุฬาภรณ์
โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัทในปี 51 ว่าจากงานเป็นที่เป็นที่ปรึกษาในการการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และงานที่ปรึกษาการเงินด้านอื่น ๆ อย่างละ 50 %
