ตลท. เตรียมตั้งคณะอนุกรรมการใหม่อีก 1 ชุด ภายในเดือนม.ค.นี้ หวังเพิ่มจำนวนนักลงทุนในตลาดมากขึ้น พร้อมเลือกบอสตัน คอนซัลติ้ง ศึกษาแปรรูปตลาดหลักทรัพย์ "ปกรณ์" ปลื้มผลงานคณะอนุฯสรรหา บจ. มีบริษัทแห่ยื่นความจำนงเข้าจดทะเบียนภายในปีนี้ 107 บริษัท คาดระดมทุนได้จริง 50 บริษัท ดันมาร์เกตแคปเพิ่ม 1 แสนล้านบาท ด้านภัทรียา เผยหากภาวะตลาดเอื้อเชื่อมี บจ.เข้าเทรดมากกว่า 37 บริษัท
นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯอยู่ระหว่างการจัดตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาอีก 1 ชุด เพื่อทำหน้าที่ในการเพิ่มจำนวนนักลงทุนเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯมากขึ้น ซึ่งคณะอนุกรรมการนี้จะประกอบด้วยตัวแทนจากอุตสาหกรรมต่างๆ และกองทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนสถาบันจากปัจจุบันที่มี 11-12%
ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถตั้งคณะอนุกรรมการดังกล่าวได้ภายในเดือนมกราคมนี้ และปีนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯก็จะไปนำเสนอข้อมูล(โรดโชว์)ต่างประเทศ เช่น ประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง เพื่อให้นักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น เพื่อเพิ่มการซื้อขายให้มีเสถียรภาพ
สำหรับ การตั้งคณะอนุกรรมการสรรหาบริษัทจดทะเบียน เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในปี 2551 ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี นั้น มีบริษัทที่ยื่นความจำนงในการเข้าจดทะเบียน 107 บริษัท แบ่งเป็น บริษัทที่แปลงสภาพเป็นบริษัทจำกัด (มหาชน)แล้วแล้ว 19 บริษัท ส่วนอีก 88 บริษัท นั้นยังไม่ได้มีการแปลงสภาพ ซึ่งจะต้องมีการดำเนินการแปลงสภาพและยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่าจะมีบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ประมาณ 50% ของบริษัทที่ยื่นความจำนงที่มี 107 บริษัท โดยถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายมากในการที่จะผลักดันให้บริษัทเข้ามาจดทะเบียน ในตลาดทุนได้จริง ซึ่งจะทำให้มูลค่าตลาดรวม(มาร์เกตแคป)เพิ่มขึ้น 1 แสนล้านบาท โดยการที่มีบริษัทยื่นขอความจำนงได้ถึง 107 บริษัทนั้น รู้สึกพอใจมาก หลังจากที่ได้จัดตั้งคณะอนุกรรมการฯเพียง 3 เดือน
นายปกรณ์ กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯได้เลือกบอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป เป็นที่ปรึกษาในการศึกษาทิศทางการดำเนินงาน และการแปรรูปตลาดหลักทรัพย์ฯเป็นบริษัทจำกัด จากนี้ก็จะมีการนัดหารือกัน โดยคาดว่ากลางปีนี้ ผลการศึกษาจะเสร็จและจะได้เห็นทิศทางในอนาคตของตลาดหลักทรัพย์ที่จะดำเนินการต่อไป
"ในปีนี้ตลท.มีแผนงานหลายเรื่องที่ต้องดำเนินการ ซึ่ง 3 ประเด็นหลักๆ คือ การเพิ่มสินค้าใหม่ การเพิ่มจำนวนบจ. เพิ่มจำนวนนักลงทุนในตลาดมากขึ้น และเรื่องทิศทางในอนาคตของตลาดหลักทรัพย์เรื่องการแปรรูปตลาดหลักทรัพย์" นายปกรณ์ กล่าว
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯกล่าวว่า ในปีนี้จะมีบริษัทขนาดใหญ่ที่จะเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะมีมูลค่าระดมทุน 10,000 ล้านบาท และ มาร์เกตแคป 10,000 ล้านบาท และตลาดหลักทรัพย์ฯตั้งเป้าบริษัทเข้าระดมทุนทั้งสิ้น 37 บริษัท แบ่งเป็น เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 25 บริษัท และตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) 12 บริษัท ซึ่งหากภาวะตลาดเอื้อในการระดมทุนก็จะมีบริษัทเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯมากกว่าที่ได้ตั้งเป้าไว้
นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯอยู่ระหว่างการจัดตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาอีก 1 ชุด เพื่อทำหน้าที่ในการเพิ่มจำนวนนักลงทุนเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯมากขึ้น ซึ่งคณะอนุกรรมการนี้จะประกอบด้วยตัวแทนจากอุตสาหกรรมต่างๆ และกองทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนสถาบันจากปัจจุบันที่มี 11-12%
ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถตั้งคณะอนุกรรมการดังกล่าวได้ภายในเดือนมกราคมนี้ และปีนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯก็จะไปนำเสนอข้อมูล(โรดโชว์)ต่างประเทศ เช่น ประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง เพื่อให้นักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น เพื่อเพิ่มการซื้อขายให้มีเสถียรภาพ
สำหรับ การตั้งคณะอนุกรรมการสรรหาบริษัทจดทะเบียน เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในปี 2551 ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี นั้น มีบริษัทที่ยื่นความจำนงในการเข้าจดทะเบียน 107 บริษัท แบ่งเป็น บริษัทที่แปลงสภาพเป็นบริษัทจำกัด (มหาชน)แล้วแล้ว 19 บริษัท ส่วนอีก 88 บริษัท นั้นยังไม่ได้มีการแปลงสภาพ ซึ่งจะต้องมีการดำเนินการแปลงสภาพและยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่าจะมีบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ประมาณ 50% ของบริษัทที่ยื่นความจำนงที่มี 107 บริษัท โดยถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายมากในการที่จะผลักดันให้บริษัทเข้ามาจดทะเบียน ในตลาดทุนได้จริง ซึ่งจะทำให้มูลค่าตลาดรวม(มาร์เกตแคป)เพิ่มขึ้น 1 แสนล้านบาท โดยการที่มีบริษัทยื่นขอความจำนงได้ถึง 107 บริษัทนั้น รู้สึกพอใจมาก หลังจากที่ได้จัดตั้งคณะอนุกรรมการฯเพียง 3 เดือน
นายปกรณ์ กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯได้เลือกบอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป เป็นที่ปรึกษาในการศึกษาทิศทางการดำเนินงาน และการแปรรูปตลาดหลักทรัพย์ฯเป็นบริษัทจำกัด จากนี้ก็จะมีการนัดหารือกัน โดยคาดว่ากลางปีนี้ ผลการศึกษาจะเสร็จและจะได้เห็นทิศทางในอนาคตของตลาดหลักทรัพย์ที่จะดำเนินการต่อไป
"ในปีนี้ตลท.มีแผนงานหลายเรื่องที่ต้องดำเนินการ ซึ่ง 3 ประเด็นหลักๆ คือ การเพิ่มสินค้าใหม่ การเพิ่มจำนวนบจ. เพิ่มจำนวนนักลงทุนในตลาดมากขึ้น และเรื่องทิศทางในอนาคตของตลาดหลักทรัพย์เรื่องการแปรรูปตลาดหลักทรัพย์" นายปกรณ์ กล่าว
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯกล่าวว่า ในปีนี้จะมีบริษัทขนาดใหญ่ที่จะเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะมีมูลค่าระดมทุน 10,000 ล้านบาท และ มาร์เกตแคป 10,000 ล้านบาท และตลาดหลักทรัพย์ฯตั้งเป้าบริษัทเข้าระดมทุนทั้งสิ้น 37 บริษัท แบ่งเป็น เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 25 บริษัท และตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) 12 บริษัท ซึ่งหากภาวะตลาดเอื้อในการระดมทุนก็จะมีบริษัทเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯมากกว่าที่ได้ตั้งเป้าไว้