“สส.ปั๋น” ชิตวัน ชินอนุวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เชียงราย เขต 1 พรรคประชาชน ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ค “สส.ปั๋น - ชิตวัน ชินอนุวัฒน์” ถึงประเด็นดราม่าในช่วงที่ผ่านมาของวงการกีฬาไทยที่เกิดขึ้นแบบจัดเต็ม พร้อมชี้ว่าทุกปัญหาและเรื่องดราม่าที่เกิดขึ้น เป็นผลมาจากการบริหารงานที่ไร้ประสิทธิภาพของหน่วยงานที่รับผิดชอบ ซึ่งตนเองในฐานะที่อยู่กับวงการกีฬามาอย่างยาวนาน และยังทำหน้าที่ประธานอนุกรรมาธิการพิจารณาปัญหาและอุปสรรคที่เกี่ยวข้องกับวงการกีฬา ไม่สามารถนิ่งเฉยกับเรื่องเหล่านี้ได้ และพร้อมจะผลักดันเรื่องทั้งหมดนี้เข้าสู่การพิจารณาของกรรมาธิการฯ และสภาผู้แทนราษฎรอย่างเร่งด่วน เพื่อหาทางออกที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืน
สำหรับโพสต์ดังกล่าวของ “สส.ปั๋น“ ระบุว่า
ถึงพี่น้องประชาชนและนักกีฬาทุกคน
วิกฤตศรัทธาวงการกีฬาไทย! ถึงเวลา "ผ่าตัดใหญ่" ก่อนความฝันซีเกมส์จะพัง!
ผม ชิตวัน ชินอนุวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เชียงราย เขต 1 พรรคประชาชน ในฐานะผู้ที่คลุกคลีในวงการกีฬามายาวนานกว่า 12 ปี ทั้งในฐานะผู้อำนวยการสโมสรฟุตบอล และปัจจุบันคือรองประธานคนที่ 2 กรรมาธิการกีฬา รวมถึงประธานอนุกรรมาธิการพิจารณาปัญหาและอุปสรรคที่เกี่ยวข้องกับวงการกีฬา
ผมขอใช้พื้นที่นี้ส่งเสียงดัง ๆ ถึงปัญหาที่กัดกินขวัญและกำลังใจของนักกีฬาไทยชุดซีเกมส์และวงการกีฬา
โดยรวม ที่กำลังเข้าขั้น "วิกฤตศรัทธา"
ปัญหาซีเกมส์: ภาระที่นักกีฬาต้องแบก!
การเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพหรือการส่งนักกีฬาไปแข่งขันมหกรรมกีฬาที่สำคัญอย่างซีเกมส์ ไม่ควรมีปัญหา
พื้นฐานที่บั่นทอนจิตใจนักกีฬาเช่นนี้!
เบี้ยเลี้ยงล่าช้า: เงินปากท้องที่ถูกมองข้าม!
นักกีฬาต้องทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างหนัก แต่กลับต้องมาแบกรับความเครียดเรื่องเงินเบี้ยเลี้ยงที่ ค้างจ่ายยาวนานถึง 4-5 เดือน หลายสมาคมต้อง "สำรองจ่าย" หรือผู้บริหารต้อง "กู้เงิน" มาช่วยเหลือนักกีฬา นี่คือการบริหารที่ไร้ประสิทธิภาพและไม่เป็นมืออาชีพ! เป็นเรื่องที่น่าเศร้าอย่างยิ่งที่ยุคนี้ยังต้องมาเจอเรื่องพื้นฐานเช่นนี้
การประชาสัมพันธ์ วิกฤตความน่าเชื่อถือ ซีเกมส์ใกล้เข้ามา แต่การโปรโมท การสร้างกระแสเพื่อสร้าง
ความรู้สึกเป็นเจ้าภาพร่วมและขวัญกำลังใจให้ทัพนักกีฬากลับ ล่าช้า จนน่าตกใจ!แม้กระทั่ง โลโก้ ที่เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นเจ้าภาพร่วมยังเพิ่งจะเสร็จ หรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างกระชั้นชิด สะท้อนถึงการบริหารจัดการที่ไร้ทิศทาง
ความไม่โปร่งใสในสมาคมกีฬา: มะเร็งร้ายที่ต้องกำจัด!
นอกจากปัญหาภาพรวมแล้ว หลายสมาคมกีฬาชั้นนำของประเทศ ก็เต็มไปด้วยปัญหาความไม่โปร่งใสและขาดธรรมาภิบาลอย่างรุนแรง
สมาคมตะกร้อ, แบดมินตัน, ยิงเป้าบิน เปตอง และอีกหลายสมาคม ปัญหาเรื่อง การบริหารงานที่ไม่โปร่งใส ข้อกล่าวหาเรื่องการ หักหัวคิว เงินรางวัลอัดฉีด การบริหารที่เอื้อประโยชน์พวกพ้อง และการเลือกปฏิบัติต่อนักกีฬา นักกีฬา ต้องออกมาสู้กับ "ระบบที่ล้มเหลว" ด้วยตัวเอง! นี่คือการส่งสัญญาณเตือนภัยที่ดังที่สุดว่า ระบบสมาคมกีฬาไทย "กำลังป่วยหนัก"
กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ (NSDF): "งบประมาณมหาศาล" แต่ "ขาดการตรวจสอบ"
กองทุนฯ ที่มีงบประมาณมหาศาลเพื่อใช้ในการพัฒนากีฬา แต่กลับถูกตั้งคำถามอย่างต่อเนื่องถึงความไม่โปร่งใสในการใช้จ่าย รวมถึงความขัดแย้งระหว่างผู้บริหาร
ไร้ KPI ชี้วัดที่เป็นรูปธรรม: มีการร้องเรียนเรื่องการใช้จ่ายเงินผิดประเภท แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ขาดตัวชี้วัด (KPI) ที่ชัดเจนและเป็นไปตามหลักสากล ในการประเมินผลงานของสมาคมและโครงการต่าง ๆ ปัญหาการบริหารจัดการเงิน ต้นตอของการจ่ายเบี้ยเลี้ยงล่าช้าส่วนหนึ่งมาจาก ความไม่พร้อมทางการเงิน และ การบริหารจัดการงบประมาณที่ไม่เป็นไปตามแผน
“หยุดทำให้ความฝันของนักกีฬาไทยต้องพัง
เพราะ "ระบบที่ไร้ประสิทธิภาพ"!
ผมขอเรียกร้องไปยังผู้มีอำนาจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าผ่าตัดใหญ่ โดยทันที ดังนี้ครับ
1. เร่งรัดจ่ายเบี้ยเลี้ยงโดยทันที รองนายกที่กำกับ ดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ต้องแก้ไขปัญหางบประมาณที่ติดขัดให้จบโดยเร็ว เพื่อเรียกขวัญและกำลังใจนักกีฬา!
2. ติดตามนโยบาย "Quick Win" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ประกาศนโยบายปฏิรูปกองทุนฯ และการตั้ง "คณะอนุกรรมการตรวจสอบเรื่องร้องทุกข์" แล้ว นโยบายเหล่านี้ต้องถูกผลักดันอย่างจริงจังและวัดผลได้ภายใน 100 วัน ไม่ใช่แค่การแถลงข่าวแล้วจบไป!
3. ผ่าตัดใหญ่สมาคมกีฬาที่มีปัญหา กกท. ต้อง ใช้กลไกทางกฎหมายเข้าไปตรวจสอบความโปร่งใสในสมาคมกีฬาที่มีปัญหา โดยเฉพาะเรื่อง "การหักหัวคิว" และ "การเลือกตั้งที่ไม่ชอบมาพากล" และต้องมีบทลงโทษที่เด็ดขาด
"วันนี้...ประเทศไทยคือ หนึ่งในประเทศที่ทุ่มงบประมาณด้านกีฬามากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ไม่ว่าจะผ่านกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ หรืองบประมาณจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
คำถามที่ผมต้องถามแทนพี่น้องประชาชนและนักกีฬาทุกคนคือ: เมื่อเม็ดเงินระดับโลกถูกนำมาใช้ แต่ผลลัพธ์และการบริหารจัดการกลับอยู่ในระดับ 'โลกที่สาม' แบบนี้...เงินภาษีของประชาชน 'คุ้มค่า' แล้วจริงหรือ?!"
ผมยืนยันว่า จะนำเรื่องทั้งหมดนี้เข้าสู่การพิจารณาของกรรมาธิการฯ และสภาผู้แทนราษฎรอย่างเร่งด่วนที่สุด เพื่อหาทางออกที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืน นักกีฬาของเราต้องถูกปฏิบัติอย่างสมศักดิ์ศรี ของตัวแทนประเทศชาติ!
สส.ปั๋น ชิตวัน ชินอนุวัฒน์
เชียงรายเขต 1 พรรคประชาชน


