“โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” แชมป์โลก ONE มวยไทย และคิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) จากเกาะอังกฤษ แง้มแผนอนาคตพร้อมเดินหน้าตามล่าความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยอาจหวนคืนสู่รุ่นฟลายเวตเพื่อฉกเข็มขัดของ “ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9 แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต (125-135) อีกรอบ
แต่ก่อนอื่นตนต้องขอโฟกัสกับภารกิจป้องกันบัลลังก์มวยไทยจาก “ซุปเปอร์เล็ก” เสียก่อน ในคู่เอกศึก ONE 168 ที่จะถ่ายทอดสดจาก บอล อารีนา เมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับช่วง 07.00 น. ของเช้าวันเสาร์ที่ 7 ก.ย.67 ตามเวลาไทย
โดยครั้งนี้ถือเป็นการเปิดศึกภาคสองของทั้งคู่ หลังจากที่ “ซุปเปอร์เล็ก” เคยบุกไปเอาชนะทีเคโอ “แฮ็กเกอร์ตี” ถึงถิ่น ในการแข่งขันมวยไทยที่ประเทศอังกฤษเมื่อปี 2561 แต่การโคจรมาเจอกันในรอบนี้ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม เมื่อต่างฝ่ายมีแชมป์โลก ONE พาดบ่า การันตีความยอดเยี่ยม
ไฟต์ล่าสุดในศึก ONE Fight Night 19 เมื่อ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา “แฮ็กเกอร์ตี” เอาชนะทีเคโอยกสาม “ฟิลิปเป โลโบ” จากบราซิล ป้องกันเข็มขัดมวยไทยครั้งแรกได้อย่างสวยงาม พร้อมยืดสถิติชนะรวด 6 ไฟต์หลังสุดใน ONE โดยตอนนี้เจ้าตัวพร้อมเต็มที่แล้วกับการพิสูจน์ฝีมือกับผู้ท้าชิงรายที่สองสุดอันตรายอย่าง “ซุปเปอร์เล็ก”
“นี่เป็นโอกาสที่ผมจะได้สู้กับหนึ่งในนักชกปอนด์ต่อปอนด์ที่ดีที่สุดในโลก ผมเชื่อว่าเขาเป็นหนึ่งในนักมวยไทยที่ดีที่สุด ผมตื่นเต้นแทนแฟน ๆ ที่จะได้เห็นผมสู้กับ ซุปเปอร์เล็ก มันจะเป็นการชกที่สนุก ดุเดือด ผมรู้สึกว่ามีหลายคนอยากให้การชกครั้งนี้เกิดขึ้น ซึ่งรวมถึงตัวผมด้วย”
“สไตล์การชกของเราคล้ายคลึงกัน คือมีความดุดัน และหวังจะเอาชนะน็อกอีกฝ่ายให้ได้ ตอนนี้เราทั้งคู่อยู่ในระดับที่สูสีกันมาก เขาเป็นนักมวยที่เก่งที่สุดในรุ่นฟลายเวต ส่วนผมเก่งที่สุดในรุ่นแบนตัมเวต ก็สมควรแล้วที่ให้เราสองคนมาเจอกัน และดูว่าใครเก่งที่สุด”
งานนี้ “แฮ็กเกอร์ตี” รู้ตัวดีว่าต้องเจอกับงานยากอย่างแน่นอน เพราะ “ซุปเปอร์เล็ก” ก็กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มที่ร้อนแรงด้วยสถิติชนะ 10 ไฟต์ติด โดยตนพร้อมศึกษาคู่ชกและวางแผนมาสู้มาแบบรอบด้าน
“ผมเชื่อมั่นในตัวของ คริสเตียน โนลส์ โค้ชของผม เขาติดตามผลงานของ ซุปเปอร์เล็ก อยู่เรื่อย ๆ และนำสิ่งที่ศึกษามาปรับใช้ในการฝึกซ้อม เรารู้ว่าจุดอ่อนและจุดแข็งของเขาคืออะไร ผมจะไม่เผยไต๋มากเกินไป เขาชอบโจมตีทางฝั่งขวา นั่นคือจุดเด่นที่ดีที่สุดของเขา ซึ่งมีทั้งลูกเตะและลูกศอก เราเตรียมหลายอย่างไว้รับมือเขาแล้วในวันที่ 7 ก.ย.นี้”
อย่างไรก็ตาม แม้ “แฮ็กเกอร์ตี” จะให้เกียรติและนับถือฝีมือของผู้ท้าชิงชาวไทยมากแค่ไหน เขาก็ยังมีความมั่นใจมากกว่าจะรักษาเข็มขัดเส้นนี้ให้อยู่กับตัวเองต่อไปได้ ถ้าหากตนสามารถชกได้ตามมาตรฐานของตัวเองที่เคยทำเอาไว้
“ผมรู้ว่าตัวเองต้องทำอะไร ผมรู้ว่าตัวเองมีความสามารถมากแค่ไหน ผมทุ่มเทฝึกซ้อมเต็มที่ โค้ชเชื่อมั่นในตัวผม ดังนั้น ตราบใดที่ผมทุ่มเทเต็มที่ ผมก็เชื่อว่าไม่มีใครหยุดผมได้”
นอกจากนั้น “แฮ็กเกอร์ตี” ยังแสดงถึงความกระหายในความสำเร็จอย่างเต็มที่ โดยแง้มแผนว่าตนพร้อมกลับไปชกในรุ่นฟลายเวตที่คุ้นเคยอีกครั้ง เพื่อนำเข็มขัดแชมป์โลกอีกเส้นเข้าไปประดับตู้โชว์ของตัวเอง
“ผมคิดถึงเรื่องการได้กลับมาชกในรุ่นฟลายเวตอยู่เสมอ พ่อของผมจะคอยบอกอยู่เสมอว่าผมสามารถทำได้ และใครจะไปรู้ ถ้าเกิดผมเอาชนะ ซุปเปอร์เล็ก ได้ในไฟต์นี้ ผมก็อาจจะลดลงไปชกในรุ่นฟลายเวต และท้าชิงเข็มขัดจากเขาก็ได้”