xs
xsm
sm
md
lg

กระดูก...เสี่ยงหัก...รักษาอย่างไร? / พลโทนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คอลัมน์ “Golf Healing” โดย “พลโทนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกประจำโรงพยาบาลพระมงกุฎ และ โรงพยาบาลรามคำแหง มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยมากกว่า 30 ปี somsak_doctor@hotmail.com”

‘สวัสดีครับเฮีย’ พี่หมอเอ่ยทักทายคุณชูสง่า ขณะนั่งจิบกาแฟเช้าอย่างสบายอารมณ์ ‘กาแฟสักแก้ไม๊ หมอ’ ‘ขอบคุณครับ...เออ! ผลการตรวจมวลกระดูกของเฮีย ออกแล้วนะครับ ปรากฏว่ากระดูกบาง...แต่ดีกว่าผลเทียบกับปีก่อนนิดหน่อย...แต่ เอ๊ะ เสียงเหมือนใครกระทืบพื้น ตึงตังอยู่ในห้องโน่นน่ะครับ’ ‘อ๋อ...ไอ้เก่งมันเดินสวนสนามน่ะ...มันบอกว่าต้องออกกำลังแบบให้มีแรงกระแทก แคลเซียมจึงเข้ากระดูก...ปล่อยให้มันช้าไปก่อน’

‘ทำอย่างไรดี เมื่อไปตรวจความหนาแน่นของกระดูกแล้วพบว่า กระดูกบางลง’

โรคกระดูกพรุน คือ ภาวะที่มีเนื้อกระดูกบางตัวลง เนื่องจากมีการสร้างกระดูก น้อยกว่าการทำลายกระดูกทำให้เสี่ยงต่อ ภาวะกระดูกหัก หรือยุบตัวได้ง่ายโดยเฉพาะบริเวณกระดูกสันหลัง กระดูกสะโพก และกระดูกข้อมือ พบมากในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะสตรีที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป

เมื่อเป็นโรคกระดูกพรุนจะทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่นปวดหลัง กระดูกสันหลังยุบตัวลง หลังค่อม ตัวเตี้ยลง กระดูก แขนขา เปราะและหักง่าย บางรายเสี่ยงมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกข้อมือ กระดูกสะโพก กระดูกสันหลัง ทำให้พิการจนเดินไม่ได้ ดังนั้นเพื่อป้องกันการเกิดภาวะกระดูกพรุน เรามีวิธีบำรุงรักษากระดูกให้แข็งแรงมาฝาก

1) รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง และรับประทาร แคลเซียมเสริม

ผู้ใหญ่อายุต่ำกว่า 50 ปีต้องการแคลเซียมวันละ 1,000 มิลลิกรัม อายุมากกว่า 50 ปี ต้องการแคลเซียมวันละ 1,200 มิลลิกรัม แหล่งที่มาแคลเซียมได้จาก อาหารหลายประเภท เช่น นมโยเกิร์ต ชีส ปลาตัวเล็กตัวน้อย ถั่ว กุ้งแห้ง กระปิ ผักคะน้า ใบยอ ดอกแค เต้าหู้แข็ง ถั่วแดง และงาดำ โดยทั่วไปการรับประทานอาหารไทย จะได้รับแคลเซียม ประมาณ 400-500 มิลลิกรัมต่อวัน หรือน้อยกว่าครึ่งหนึ่งที่ร่างกายควรได้รับ จึงควรดื่มนมเสริม แต่หากไม่ได้รับแคลเซียมจากอาหารอย่างเพียงพอ แนะนำให้รับประทานแคลเซียม ชนิดเม็ด ซึ่งมีหลักการเลือก ผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียมดังนี้

1.ดูตัวยาสำคัญ ทีมีอยู่ในผลิตภัณฑ์ ว่ามีวิตามินอื่นผสมหรือไม่ เพราะหากผสมวิตามินซีหรือวิตามินดีมากเกินไปอย่าทำให้เกิดอันตราย

2.ดูว่าใน 1 เม็ด ให้อนุมูลแคลเซียมเท่าไหร่ เพราะร่างกายต้องการแคลเซียมอย่างน้อยวันละ 800 มิลลิกรัม

3.ดูว่าผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียมอยู่ในรูปแบบใด เนื่องจาก แคลเซียมละลายน้ำจะถูกดูดซึมได้ยาก ดังนั้นควรใช้ผลิตภัณฑ์ เสริมแคลเซียแบบเม็ดฟู เพราะละลายและดูดซึมได้มากกว่าแบบธรรมดา

4.ต้องดูว่าแคลเซียมในผลิตภัณฑ์ เป็นเกลืออะไร เพราะแต่ละชนิดควรดูดซึมต่างกันในสภาวะกระดูกใน
กระเพาะต่างกัน เช่น แคลเซียมคาร์บอเนต จะดูดซึมน้อยลงในผู้ที่มีกรดในกระเพาะน้อย.

2) ออกกำลังกายแบบ ลงน้ำหนัก (weight bearing exercise) อย่างสม่ำเสมอ เช่นเดินไกล วิ่งเยาะๆ รำมวยจีน เต้นรำ การออกกำลังกายชนิดนี้ทำให้แคลเซียมเข้ากระดูกดี ทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น

3) หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง ที่ทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน เช่น ชา กาแฟ ยาที่มีสเตียรอยด์ผสม

4) ปรึกษาแพทย์ เมื่อมีข้อสงสัย เพื่อให้คำแนะนำที่เหมาะสม ส่งตรวจมวลกระดูก เมื่อมีปัจจัยเสี่ยงและให้การรักษา เมื่อตรวจพบภาวะโรคกระดูกพรุน

สรุปได้ว่า การเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง สามารถทำได้ทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนอายุ 30 ปี เป็นการป้องกัน การเกิดโรคกระดูกพรุนที่ดีที่สุด และที่สำคัญคือการออกกำลังกายแต่พอเหมาะและรับประทานอาหารอย่างเหมาะสมจะช่วยให้มีสุขภาพดีไปอีกนาน


กำลังโหลดความคิดเห็น