คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
ตามธรรมเนียมก่อนทิปออฟ บาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) แต่ละซีซัน เราจะทราบผลสำรวจความเห็นของ ผู้จัดการทั่วไป ออกมาเรียกน้ำย่อยแฟนๆ เสียก่อน บางหัวข้ออาจจะไม่ได้เหนือความคาดหมายสักเท่าไร อาทิ แอลเอ เลเกอร์ส จะป้องกันแชมป์ไว้ได้ หรือ ยานนิส อันเตโตคุมโป ซูเปอร์สตาร์ มิลวอคกี บัคส์ จะคว้าผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) สมัยที่ 3 ติดต่อกัน
พออ่านมาเรื่อยๆ เกิดสะดุดอยู่ประเด็นหนึ่ง เกี่ยวกับการเซ็นสัญญาผู้เล่นที่น่าจะมีผลต่อทีมมากสุด หากจะเรียกกันแบบบ้านๆ คือ เสริมแล้วโดน ราวกับ ลิเวอร์พูล ทุ่มเงินคว้า เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ก ปราการหลัง กับ อลิสสัน เบ็คเกอร์ นายทวารบราซิเลียน พบว่าเสียงส่วนใหญ่ของ GM แต่ละทีม ลงคะแนนให้ คริส พอล การ์ดจ่ายจอมเก๋า ถูกเทรดจาก โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ ไป ฟีนิกซ์ ซันส์ สูงสุด 44 เปอร์เซ็นต์
จุดเริ่มต้นของการเทรด ต้องย้อนไปเดือนธันวาคม 2019 พอล ซึ่งเล่นให้ โอเคซี เอ่ยถึงผู้มาเยือน ซันส์ สถิติ ชนะ 11 แพ้ 16 “ฟีนิกซ์ เป็นทีมรู้สึกสนุกเวลานั่งดูพวกเขา” สาเหตุที่กล่าวเช่นนั้น สรุปได้ 2 ประการ ชื่นชม มอนตี วิลเลียมส์ เฮดโค้ช ซันส์ ซึ่งเคยเป็นเจ้านายเก่า สมัยอยู่ นิว ออร์ลีนส์ ฮอร์เน็ตส์ ราว 10 ปีก่อน และรับรู้ความเก่งกาจของขุมกำลังวัยหนุ่ม สุดท้ายลมได้พัดหวนนำ วิลเลียมส์ กับ พอล มาร่วมงานกันอีกครั้ง
ฟีนิกซ์ เริ่มส่งสัญญาณเป็นทีมๆ หนึ่งที่น่าจับตา ช่วงรีสตาร์ทฤดูกาล 2019-20 สถิติ ชนะ 26 แพ้ 39 ตามหลังพื้นที่เพลย์ออฟ 6 เกม เดวิน บูเกอร์ การ์ดแม่ทัพ ทำคะแนนดุจเครื่องจักร, เดออังเดร เอย์ตัน เซ็นเตอร์ดราฟต์เบอร์ 1 ปี 2018 แสดงพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง และเด็กหนุ่มอย่าง คาเมรอน จอห์นสัน กับ ไมคาล บริดจ์ส พากันแจ้งเกิด ทำให้ ซันส์ ชนะ 8 เกมรวด ที่ดิสนีย์ เวิลด์
บูเกอร์ วัย 24 ปี ซัดเฉลี่ย 26.6 แต้ม 6.5 แอสซิสต์ ยิงฟิลด์โกล 48.9 เปอร์เซ็นต์ 3 คะแนน 35.4 เปอร์เซ็นต์ และปิดสกอร์อย่างน้อย 30 แต้ม 5 จาก 8 เกม และ เอย์ตัน ช่วย 15 แต้ม 9.5 รีบาวน์ด นับตั้งแต่พ้นเบรก โควิด-19 เกือบพา ฟีนิกซ์ แย่งโควตาเพลย์ออฟเฮือกสุดท้าย ลองจินตนาการดูว่า หากมี “ซีพีทรี” เสริมเข้ามาอีกคน มันจะยิ่งสะเด่าแค่ไหน
ขอแวะนิดนึง หากยังจำกันได้ พอล เคยถูกพวกสำนักข่าวบน โซเชียล มีเดีย เชื่อมโยงว่า จะย้ายมาอยู่ เลเกอร์ส ถึงวันนี้เพิ่งจะถึงบางอ้อ พอล เหลือสัญญาเดิม 2 ปี มูลค่าแพงไม่ใช่เล่น 85 ล้านเหรียญ คิดแบบต่อปีก็ราว 40 ล้านเหรียญกว่าๆ เทียบกับงบ เลเกอร์ส คงเซ็นได้แค่พวกตัวเก๋าค่าแรงถูกๆ หรือกลุ่มล่าแหวนก่อนเลิก เพราะต้องทุ่มเงินเพื่อรั้ง แอนโธนี เดวิส คงไม่มีสิทธิ์เซ็น พอล มาได้แน่นอน
กลับมาเข้าเรื่อง ถึงตอนนี้ใครๆ ก็มองว่า พอล วัย 35 ปี แค่นักบาสฯ แก่ๆ ค่าเหนื่อยแพง หรือผ่านช่วงเวลารุ่งเรืองสุดขีดของอาชีพ เรียบร้อยแล้ว แต่อย่าลืมเสียว่า การ์ดจ่าย ออล-สตาร์ 10 สมัย แบก ธันเดอร์ ที่ดูไม่มีอะไร ติดอันดับ 5 ของสายตะวันตก ด้วยค่าเฉลี่ย 17.6 แต้ม 6.7 แอสซิสต์ นั่นอาจเป็นตัวแปรหนึ่งที่บ่งชี้ว่า ไม่ว่า พอล จะอยู่ทีมไหน ก็สามารถยกระดับทีมนั้นได้เสมอ
บทพิสูจน์นี้ไม่ต้องย้อนไปไหนไกล เอาแค่รอบชิงแชมป์สายตะวันตก ฤดูกาล 2017-18 พอล เกิดบาดเจ็บกล้ามเนื้อแฮมสตริง ช่วงท้ายเกมซึ่ง ร็อคเก็ตส์ ทีมอันดับ 1 ของคอนเฟอเรนซ์ ขึ้นนำซีรีส์ 3-2 เกม ส่งผลให้แพ้ โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส เกม 6 กับ 7 ตกรอบอย่างน่าเสียดาย แล้วถ้า เจมส์ ฮาร์เดน ที่ร่ำๆ จะขอเทรดอยู่ทุกวันนี้ เป็นเบอร์ 1 ของทีมจริง ทำไมช่วยอะไรไม่ได้เลยล่ะ
สารภาพเลยว่า คริส พอล เป็นการ์ดจ่ายคนหนึ่งที่ผมชื่นชอบแบบส่วนตัว การเล่นของเขาดูละม้ายคล้ายผู้เล่นหมายเลข 10 บนสนามฟุตบอล ครบเครื่องทั้งสร้างโอกาสชู้ตเอง, จ่ายบอลให้เพื่อน และมีประสบการณ์คุมจังหวะเกม ถือว่าเป็นจุดที่ทีมพลังหนุ่มแบบ ซันส์ ต้องการ และนั่นคือสาเหตุว่า ทำไม โรเบิร์ต ซาร์เวอร์ เจ้าของทีม ยอมลงทุน 2 ปี 85 ล้านเหรียญ กับการ์ดจ่ายแก่ๆ คนหนึ่ง แลกกับการกลับสู่เพลย์ออฟรอบ 10 ปี ของแฟรนไชส์