xs
xsm
sm
md
lg

“1/2 Splash Brothers” We ก็ยัง Belive / MVP

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP

ปี 2563 กำลังจะสิ้นสุดลงราวไม่กี่ชั่วโมง ทว่าปาร์ตีเฉลิมฉลองต้อนรับปีใหม่ 2564 น่าจะดูเงียบเหงาลงเล็กน้อย หลังเกิด โควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งมีจุดกำเนิดอยู่ที่จังหวัดใกล้ๆ กรุงเทพมหานครนี่เอง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ความสามารถของบุคลากรทางการแพทย์ กับ ความร่วมแรงร่วมใจของคนไทย คงจะช่วยให้ฝ่าฟันวิกฤติเหล่านี้ไปได้ เหมือนช่วงต้นปีที่ผ่านมา

เข้าสู่วันสิ้นปีแบบนี้ ใครๆ มักจะรวบรวมสุดไฮไลท์เด่นประจำปีมามัดรวมกัน แต่จะให้ทำเช่นนั้นได้อย่างไร เมื่อ บาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ฤดูกาล 2020-21 เริ่มแข่งขันไปราวๆ สัปดาห์ที่แล้ว (23 ธ.ค.) นับเป็นเวลาที่เพจต่างๆ เกี่ยวกับกีฬายัดห่วงดูคึกคักทีเดียว และสิ่งที่สังเกตเห็นมา ก็ยังคงมีกระแสเหน็บแนม โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส หลังเปิดซีซันด้วยสถิติแพ้ 2 เกมรวด แต่ก็ต้องยอมรับว่า พวกเขาเจอทีมระดับเต็งแชมป์อย่าง บรูกลิน เน็ตส์ กับ มิลวอคกี บัคส์

จริงๆ ผมเองก็ไม่ได้เป็นกองเชียร์ วอร์ริเออร์ส สาบานได้ เพราะผมเริ่มดูบาสเกตบอล ตรงกับช่วง 2 แชมป์สุดท้ายของ ชิคาโก บูลล์ส และ ไมเคิล จอร์แดน ซึ่งเปรียบเสมือนแรงบันดาลใจแก่นักบาสฯ ตามสวนรถไฟ ตลอดจนนักบาสฯ อาชีพ อยากสวมหมายเลข 23 ทั้งนั้น ยกเว้นทีมชาติ ซึ่งคุณสวมได้แค่เบอร์ 4-15 เท่านั้น

ย้อนเวลาไปไม่นาน จำได้ว่าเคยเขียนเกี่ยวกับชุดแข่งย้อนยุค “We Believe” ของ วอร์ริเออร์ส สมัยสร้างปาฏิหาริย์เขี่ย ดัลลัส มาเวอริกส์ นำโดย เดิร์ก โนวิตซ์กี ตกรอบแรก เพลย์ออฟ สายตะวันตก ทั้งที่วัดพลังกันตำแหน่งต่อตำแหน่ง แทบจะสู้กันไม่ได้ แน่นอนว่าสำหรับซีซันนี้ โกลเดน สเตท จะกลับสู่การลุ้นแชมป์กับ แอลเอ เลเกอร์ส เหมือนบางทีมที่ตกรอบ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก แล้วกระโดดขึ้นรองจ่าฝูงแบบเหลือเชื่อ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือที่แฟนๆ บางคน อยากให้ปลดใจแทบขาด

สถานการณ์ตอนนี้ การทวงแชมป์ของ โกลเดน สเตท อาจดูยากขึ้นเยอะ เนื่องจากคู่หู “สแปลช บราเธอร์ส” เหลือแค่ครึ่งเดียว เคลย์ ธอมป์สัน เพิ่งจะกลับมาจากอาการเจ็บเอ็นเข่า พักยาวทั้งฤดูกาล 2019-20 ดูเหมือนว่าจะคืนสนามอย่างเต็มสูบ จู่ๆ พอกลับเข้า เทรนนิง แคมป์ (หากจำไม่ผิด) ก็ดันซวยซ้ำซ้อน บาดเจ็บเอ็นร้อยหวาย พักยาวๆ อีก 1 ฤดูกาล ทอดทิ้ง สตีเฟน เคอร์รี แบกทีมตามยถากรรม

ความสำคัญของ ธอมป์สัน คือ จุดที่ใครๆ ถูกลืมเลือน เวลาที่มีซูเปอร์สตาร์อย่าง เคอร์รี กับ เควิน ดูแรนท์ ซึ่งทั้งคู่มีดีกรีผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) อุปมาอุปไมยเหมือนสาวก “เดอะ ค็อป” ชื่นชม เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ก, อลิสสัน เบ็คเกอร์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แอนดี โรเบิร์ตสัน หรือ ซาดิโอ มาเน ปานจะแหกก้นดม แต่ก็ไมได้เห็นหัว จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีม หรือ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม สักเท่าไร

ธอมป์สัน เป็นอ็อปชันหนึ่งของเกมรุก การขาดหายไปของเขา เท่ากับว่า วอร์ริเออร์ส ได้สูญเสียมือปืนชัวร์สุดอันดับ 2 ของทีม และคู่แข่งไม่สามารถดูแล เคอร์รี อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องแคร์ว่า ธอมป์สัน จะรอรับบอลอยู่จุดไหน ส่วนการป้องกัน เรตติงเกมรับของ วอร์ริเออร์ส ร่วงมาอันดับ 26 ของลีก เทียบกับฤดูกาลที่มี เคลย์ พวกเขาอยู่อันดับ 11 ของลีก

ซีซันนี้ของ วอร์ริเออร์ส จะจบอย่างไร คำตอบอยู่ที่ เคอร์รี จะต้องเล่นได้เหมือน เจมส์ ฮาร์เดน สมัยคว้า MVP เมื่อปี 2018 โดดเด่นทั้งการทำสกอร์และแอสซิสต์ บวกกับเหล่า Supporting Cast อาทิ เดรย์มอนด์ กรีน, แอนดรูว์ วิกกินส์ ดราฟต์เบอร์ 1 ปี 2014 และ เจมส์ ไวส์แมน รุกกีดราฟต์เบอร์ 2 แม้ว่าพวกเขาจะไม่ดูดีขนาดจะทวงแชมป์ อย่างน้อยก็ยังเป็นทีมเพลย์ออฟที่บรรดาตัวเต็งไม่อยากเจอ
กำลังโหลดความคิดเห็น