คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
ช่วงเช้ามืดวันที่ 16 ธันวาคม แฟนๆ บาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) โดยเฉพาะของ มิลวอคกี บัคส์ น่าจะรับทราบข่าว ยานนิส อันเตโตคุมโป ซูเปอร์สตาร์ของแฟรนไชส์ สะบัดน้ำหมึกต่อสัญญา 5 ปี มูลค่า 228 ล้านเหรียญ (ราว 6,850 ล้านบาท) ยุติข่าวลือและความกังวลว่า ฟอร์เวิร์ดชาวกรีซ จะย้ายแบบฟรีเอเจนต์ ก่อนเปิดฉากฤดูกาลปกติ 2021-22 อย่างเป็นทางการ ประมาณ 1 สัปดาห์ข้างหน้า
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีแก่กองเชียร์ “เจ้ากวาง” หากลองพิจารณาการเสริมขุมกำลังต่างๆ ช่วงออฟซีซันที่ผ่านมา เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีอะไรฮือฮา เนื่องจาก ซาลารี แคป ค่อนข้างจำกัด คว้ามาแค่ จรู ฮอลิเดย์ การ์ดจ่าย จาก นิว ออร์ลีนส์ เพลิแกนส์ ต่างทำให้ใครๆ อ้าปากค้าง แล้วอุทานขึ้นว่า “ใครฟระ??” แน่นอนว่าเข้าสู่ซีซันใหม่ มิลวอคกี ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นอกเสียจาก ยานนิส ยังรับหน้าที่ “เดอะ แบก” เช่นเดิม
เอาเถอะ!! มันอาจเป็นความของ “กรีก ฟรีก” ซึ่งอวยเมืองมิลวอคกี เปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2 ทั้งๆ แม้ตัวจะเกิดที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ แถมเพื่อนๆ ยังวิงวอน ด้วยการมอบปากกาเป็นของขวัญวันเกิดครบ 26 ปี บริบูรณ์ หลังเข้าแคมป์เก็บตัววันแรก เสมือนสร้างความกดดัน “อย่าทอดทิ้งพวกเรา” วิงวอนกันขนาดนี้ ลองดึงเช็ง หรือจบด้วยการย้ายทีม คงถูกด่าว่า เป็นคนทิ้งเพื่อนแน่ๆ
ผู้เล่นระดับรางวัล MVP 2 สมัย รับประกันคุณภาพ มีสิทธิ์เข้าสู่ตลาดฟรีเอเจนต์ทั้งที แม้ว่าจะเกิดขึ้นปี 2021 ย่อมถูกหลายๆ ทีมรุมตอม เหมือนกรณี พอล ป็อกบา มิดฟิลด์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยังไม่ยอมเซ็นสัญญาระยะยาว และเหลืออ็อปชัน 12 เดือน แตกต่างกันตรงที่ ยานนิส ไม่ได้มีเอเยนต์ปากเสีย โดยมี ไมอามี ฮีต รองแชมป์เก่า และ ดัลลัส มาเวอริกส์
เริ่มด้วยผู้ปราชัยรายแรก แพท ไรลีย์ ประธาน ไมอามี เคยประสบความสำเร็จ ตามแผนสร้าง “ซูเปอร์ ทีม” ดึง เลอบรอน เจมส์ กับ คริส บอช มาประสานงาน ดีเวย์น เหว็ด เมื่อปี 2010 พวกเขาเพิ่งผ่านซีรีส์รอบชิงชนะเลิศ NBA มาหมาดๆ จับ แบม อเดบาโย เซ็นเตอร์ดีกรี ออล-สตาร์ เซ็นต่อจากสัญญารุกกีเดิม 5 ปี 163 ล้านเหรียญ (ราว 4,900 ล้านบาท)
เทียบกับซีซันที่แล้ว ซึ่งยืดเยื้อเนื่องจาก โควิด-19 ระบาด ไมอามี เข้าเพลย์ออฟในฐานะทีมอันดับ 5 สายตะวันออก โค่น อินเดียนา เพเซอร์ส, มิลวอคกี และ บอสตัน เซลติกส์ ครองแชมป์สายตะวันออก ก่อนพ่าย แอลเอ เลเกอร์ส รอบชิงชนะเลิศ 2-4 เกม ดังนั้นด้วยขุมกำลังอย่าง อเดบาโย, จิมมี บัตเลอร์ และ 2 มือปืน ดันแคน โรบินสัน กับ ไทเลอร์ เฮอร์โร ก็ยังจัดอยู่ระดับลุ้นแชมป์ หากเซ็น ยานนิส ขึ้นมาจริงๆ ต้องเรียกว่า ติดจรวด มากกว่าติดปีก
ขณะที่ฟากตะวันตก ดัลลัส มีพร้อมทั้ง ซาลารี แคป, ลูกา ดอนซิช ดาวรุ่งเปี่ยมพรสวรรค์ และแรงดึงดูดผู้เล่นทวีปยุโรป หลังจาก เดิร์ก โนวิตซ์กี สร้างชื่อมาตลอด 21 ซีซัน ยุคปัจจุบันทั้ง ดอนซิช กับ “ยูนิคอร์น” คริสแท็ปส์ พอร์ซิงกิส คือ เสาหลักของแฟรนไชส์ระยะยาว เพียงแต่การขับเคี่ยวสายตะวันตก เปรียบเสมือน พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลนี้ ซึ่งการลุ้นแชมป์ยังดูเปิดกว้าง หากมี ยานนิส เติมเต็มเป็น “บิ๊ก 3 แห่งยุโรป” ก็น่าจะเขย่าขวัญ เลอบรอน เจมส์ กับ แอนโธนี เดวิส ได้ไม่มากก็น้อย
สงครามแย่งชิง ยานนิส สิ้นสุดลงตั้งแต่ยังไม่เริ่ม ผู้ชนะนอกเหนือจาก บัคส์ ก็คือ ครอบครัวของเขาเอง เริ่มต้นด้วยการต่อสู้ความยากจน ที่ประเทศกรีซ ก้าวสู่ซูเปอร์สตาร์ของ NBA มีเงินก้อนโตกองอยู่ตรงหน้า ไม่ว่า บัคส์ จะยกระดับถึงแชมป์หรือไม่ อย่างน้อยอาจมีสำนักพิมพ์สักแห่ง หรือค่ายภาพยนตร์ดังๆ จำหน่ายหนังสือ หรือถ่ายทำชีวประวัติเร็วๆ นี้ ปัจจุบัน ยานนิส กับแฟนสาว มีลูกชายด้วยกัน 1 คน แถมยังมี ธานาซิส พี่ชาย อยู่ร่วมทีมเดียวกัน และ คอสตาส น้องชาย อยู่กับ เลเกอร์ส จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการเงินอีกต่อไป