เอเจนซีส์ - มาร์กาเร็ต คีแนน (Margaret Keenan) คุณย่าชาวอังกฤษวัย 90 ปี กลายเป็นบุคคลแรกของโลกที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท ไฟเซอร์ เกิดขึ้นหลังอังกฤษกลายเป็นชาติตะวันตกชาติแรกที่เริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชน นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ชี้ วัคซีนจะเริ่มทำให้เห็นอย่างช้าๆ ในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
CNN สื่อสหรัฐฯรายงานวันนี้ (8 ธ.ค.) ว่า การเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ถูกผลิตขึ้นร่วมกันระหว่างบริษัทยาสหรัฐฯชื่อดัง ไฟเซอร์ และบริษัทยาเยอรมัน ไบโอเอ็นเทค (Pfizer/BioNTech) ได้เริ่มเกิดขึ้นในเวลา 06.31 น. ตามเวลาท้องถิ่นอังกฤษในวันอังคาร (8) ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยในโคเวนทรี (Pfizer/BioNTech) หลังจากลอนดอนสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ทำการอนุมัติ
และทำให้ มาร์กาเร็ต คีแนน (Margaret Keenan) คุณย่าชาวอังกฤษวัย 90 ปี กลายเป็นบุคคลแรกของโลกที่ได้สัมผัสกับวัคซีนต้านโควิด-19 ของไฟเซอร์ไป โดยเธอได้รับการฉีดขนาด 2 โดส
คีแนนซึ่งจะมีอายุครบ 91 ปี ในสัปดาห์หน้าแสดงความรู้สึกว่า เธอรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับวัคซีนเป็นคนแรกในครั้งนี้
“มันเป็นของขวัญวันเกิดล่วงหน้าที่พิเศษอย่างที่สุดเท่าที่ดิฉันสามารถขอได้ เพราะมันหมายความว่า ดิฉันจะสามารถมองไปข้างหน้าเพื่อที่จะใช้เวลาร่วมกับครอบครัวและเพื่อนๆ ในช่วงปีใหม่หลังจากที่ต้องอยู่ตามลำพังมาตลอดเกือบทั้งปี” คีแนนกล่าวผ่านแถลงการณ์ที่ออกมาจากสำนักงานระบบประกันสุขภาพแห่งชาติอังกฤษ NHS
คีแนนยังได้เปิดเผยต่อกับสื่ออังกฤษว่า เป็นการฉีดที่เป็นไปได้ด้วยดี และเธอไม่รู้สึกตื่นกลัวแม้แต่น้อย พร้อมกับกล่าวว่า “มันช่างเป็นสิ่งที่วิเศษจริงๆ”
“นี่ถือเป็นสิ่งที่ดีดังนั้นดิฉันจึงมีความรู้สึกยินดีที่ได้รับมัน เพราะมันเป็นโรคที่ร้ายกาจมากดังนั้นพวกเราต้องกำจัดมัน”
และคุณย่าชาวอังกฤษยังฝากคำแนะนำไปยังคนอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติที่จะได้รับวัคซีนว่า อย่าลังเลที่จะไม่ฉีด “ดิฉันจะพูดว่าขอให้เดินหน่ารับมัน” และ “หากว่าดิฉันทำได้ พวกคุณก็สามารถทำได้เช่นกัน”
CNN รายงานว่า คุณปู่ชาวอังกฤษวัย 81 ปี วิลเลียม เชคสเปียร์ (William Shakespere) ที่บังเอิญชื่อพ้องกับนักเขียนชื่อดังชาวอังกฤษ เป็นผู้ที่เข้ารับวัคซีนไฟเซอร์เป็นคนที่ 2 เขาเข้ารับการฉีดที่โรงพยาบาลเดียวกันกับคีแนน โดยมีภาพงานศิลปะหลานตัวน้อยเป็นกำลังใจระหว่างรับการฉีด
ส่วนที่กรุงลอนดอนพบว่า จอร์จ ไดยเออร์ (George Dyer) กลายเป็นชาวลอนดอนคนแรกที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ที่ศูนย์บริการทางการแพทย์ครอยดอน (Croydon Health Services) ขณะที่ในไอร์แลนด์เหนือนางพยาบาลที่ชื่อว่า โจแอนนา สโลน (Joanna Sloan) กลายเป็นผู้รับวัคซีนโควิด-19
สื่อสหรัฐฯชี้ว่า เนื่องมาจากข้อจำกัดของวัคซีนไฟเซอร์ที่จำเป็นต้องถูกจัดเก็บภายใต้อุณหภูมิต่ำที่ -70 องศาเซลเซียส ได้กลายเป็นความท้าทายในการขนส่งและการแพร่กระจายไปยังจุดต่างๆ ส่งผลทำให้โครงการแจกวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนของอังกฤษจำเป็นต้องเกิดขึ้นอย่างช้าๆ โดยให้กับกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มเจ้าหน้าที่การแพทย์เป็นลำดับแรก
เมย์ พาร์สันส์ (May Parsons) นางพยาบาลผู้ที่ทำหน้าที่ประเดิมฉีดให้กับอาสาสมัครเป็นเข็มแรกในอังกฤษออกมาเปิดใจว่า เธอรู้สึกเป็นเกียรติที่มีส่วนร่วมในโครงการนี้ โดยกล่าวว่า
“ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่สาหัสสำหรับพวกเราทุกคนที่ทำงานให้กับ NHS แต่ในเวลานี้มีความรู้สึกเหมือนได้เห็นแสงสว่างจากปลายอุโมงค์”
ด้านนายกรัฐมนตรีอังกฤษ บอริส จอห์นสัน ได้แถลงในเช้าวันอังคาร (8) ว่า “วัคซีนจะเริ่มทำให้เห็นอย่างช้าๆ ในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่” และเสริมว่า “มันเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับประชาชนที่ต้องเข้าใจว่าเชื้อไวรัสยังคงแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่ของประเทศ โดยตัวอย่างเช่น มันแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นในกรุงลอนดอน”
ทั้งนี้ เขาได้เดินทางไปเยี่ยมที่ศูนย์วัคซีนโควิด-19 NHS ที่กรุงลอนดอน
จอห์นสันยังชี้ต่อว่า อังกฤษประสบความสำเร็จในการทำให้การระบาดลดลงซึ่งต้องขอขอบคุณต่อมาตรการต่างๆ รวมไปถึงมาตรการล็อกดาวน์ในเดือนพฤศจิกายน
“และดังนั้นสารของผมก็คือ มันเป็นเรื่องที่วิเศษมากที่ได้เห็นวัคซีนออกมาสำเร็จ มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่ได้เห็นการฉีดครั้งยิ่งใหญ่ที่แขนสำหรับทั้งประเทศ แต่เรายังไม่สามารถเสี่ยงที่จะผ่อนคลายมาตรการลงได้”
และชี้ต่อไปถึงประชาชนชาวอังกฤษที่ยังคงลังเลใจว่า “ผมจะบอกกับผู้คนที่ยังคงหวาดกลัวว่า ไม่ควรเลย พวกคุณได้เห็นผู้คนรับการฉีดวัคซีนเช้านี้แล้ว ผู้คนจำนวนมากจะเริ่มทะยอยเข้ารับมันในไม่กี่วันหรือสัปดาห์หลังจากนี้ และนั่นไม่เป็นสิ่งที่ต้องควรกังวล”
จอห์นสันยังถูกถามว่า เขาจะได้รับวัคซีนไฟเซอร์ด้วยหรือไม่ ทำให้นายกฯอังกฤษตอบกลับมาว่า ตัวเขาไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงเพราะเขาเคยมีไวรัส
CNN รายงานเพิ่มเติมว่า อังกฤษได้สั่งซื้อวัคซีนไฟเซอร์จำนวนทั้งหมด 40 ล้านโดส แต่ทว่าจะมีแค่ 800,000 โดส เท่านั้นที่จะมีสำหรับเฟสแรกที่ได้เริ่มการฉีดในวันนี้ (8)
เป็นเพราะวัคซีนต้องการ 2 โดสสำหรับการฉีดที่ห่างกัน 3 สัปดาห์ ทำให้อังกฤษในท้ายที่สุดจะมีวัคซีนเพียงพอสำหรับ 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมด นอกจากนี้ อังกฤษยังสั่งวัคซีนโมเดอร์นาจำนวน 7 ล้านโดส ที่จะถูกรับการอนุมัติสำหรับการใช้ฉุกเฉินในอีกไม่กี่สัปดาห์หน้า
เฟสแรกของการแจกวัคซีนโควิด-19 จะเกิดขึ้นเฉพาะที่โรงพยาบาล ส่วนทั้งเวลส์และสกอตแลนด์จำเป็นต้องแจ้งว่าจะจัดให้สถานที่ใดสำหรับการแจกวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งคีแนนที่ได้รับวัคซีนเป็นคนแรกในอังกฤษและคนอื่นๆ ยังคงต้องกลับมารับโดสที่ 2 ในอีก 3-4 สัปดาห์หน้า และหลังจากระยะเวลา 7-10 วันหลังได้รับโดสที่ 2 แล้วผู้เข้ารับการฉีดจะได้รับภูมิคุ้มกันต้านไวรัสโควิด-19 แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าภูมิคุ้มกันจะมีระยะเวลานานเท่าใด แต่บริษัท ไฟเซอร์ เคยออกมาประกาศว่า วัคซีนโควิด-19 ของตัวเองมีประสิทธิภาพในการป้องกันได้ราว 95%