คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
เป็นที่ฮือฮาไปตามๆ กันเมื่อสภามวยโลกหรือ WBC โดยท่านประธานเมาริซิโอ สุไลมาน ประกาศก้องเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าทาง WBC เตรียมจัดตั้งรุ่นมวยโลกในพิกัดน้ำหนักใหม่ ซึ่งทางท่านประธานสุไลมานให้ชื่อว่า “บริดเจอร์เวท” หรือ Bridgerweight เพื่อเป็นเกียรติแก่เด็กชายบริดเจอร์ วอล์กเกอร์ เด็กอเมริกันวัย 6 ขวบ ที่เข้าขวางทางป้องกันน้องสาววัย 4 ขวบจากการถูกสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ดพุ่งเข้าขย้ำ และพยายามลากน้องสาวออกมาจนได้ ส่วนตัวเองโดนฟัดบริเวณใบหน้าและศีรษะจนต้องทำศัลยกรรมพลาสติกและเย็บไปร่วมๆ 90 เข็ม เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานี้เอง วีรกรรมความกล้าหาญรักน้องของพี่ชายคนนี้เป็นข่าวดังที่ได้รับการยกย่องชื่นชมไปทั่วโลก และทาง WBC เองก็มอบเข็มขัดแชมป์โลกเส้นพิเศษให้บริดเจอร์ พร้อมกับเอาชื่อมาตั้งเป็นพิกัดน้ำหนักมวยโลกรุ่นใหม่นี้ซะเลย
ซึ่งชื่อ “บริดเจอร์” นี้ความหมายก็เหมาะกับการเอามาตั้งชื่อพิกัดรุ่นใหม่นี้ซะด้วย คือหมายความว่าเป็นสะพานเชื่อม หรือปิดช่องว่าง เพราะพิกัดน้ำหนักใหม่นี้ ทาง WBC กำหนดให้อยู่ที่ระหว่าง 200-224 ปอนด์ เดิมทีนั้นพิกัดน้ำหนักที่ไม่เกิน 200 ปอนด์ คือรุ่นครุยเซอร์เวท และ 200 ปอนด์ขึ้นไป เป็นรุ่นเฮฟวี่เวท แต่ทางเมาริซิโอ สุไลมาน บอกว่า ปัจจุบันนักชกรุ่นเฮฟวี่เวทมีการปล่อยน้ำหนักตัวขึ้นไปเยอะมาก อย่างไทสัน ฟิวรี่ วันที่ต่อยดีออนเตย์ ไวล์เดอร์คาคอก ก็หนักถืง 273 ปอนด์ ส่วนไวล์เดอร์นั้นตอนคว้าเข็มขัดโลกของ WBC หนัก 219 ปอนด์ แต่วันที่พ่ายฟิวรี่นั้นก็ปล่อยน้ำหนักไปถึง 231 ปอนด์ แอนโธนี่ โจชัว ไฟต์ล้างตากับ แอนดี้ รุยซ์ จูเนียร์ ก็หนักถึง 238 ปอนด์ ส่วนรุยซ์นั้นปาเข้าไป 283 ปอนด์
ทางสุไลมาน และ WBC ก็เลยมองว่าการที่นักมวยรุ่นเฮฟวี่เวท ปล่อยน้ำหนักขึ้นไปมาก ทำให้นักชกรุ่นครุยเซอร์เวทที่จะทำน้ำหนักข้ามรุ่นขึ้นมา ต้องเสียเปรียบมาก อย่างโอเล็กซานเดอร์ อูซิค ราชารุ่นครุยเซอร์เวท แชมป์ทุกสถาบัน ที่ขึ้นมาชกในรุ่นเฮฟวี่เวทอยู่ตอนนี้ ไฟต์ล่าสุดที่เอาชนะดีเร็ก ชิโซร่า ได้นั้นหนักแค่ 217 ปอนด์ ส่วนชิโซร่าปาเข้าไป 255 ปอนด์ อันที่จริงก็เห็นได้ว่าอูซิคนั้นคล่องตัวและรวดเร็วกว่า แต่กูรูก็วิเคราะห์กันว่าถ้าอูซิคไปเจอไวล์เดอร์ โจชัว หรือฟิวรี่ ที่รวดเร็วกันทั้งนั้น น่าจะจบไม่สวย ทาง WBC เลยเปิดรุ่นใหม่นี้ขึ้นมาคั่นตรงกลางอีกที ตอนนี้ทาง WBC กำลังสอบถามนักมวยในรุ่นครุยเซอร์เวทและเฮฟวี่เวท ว่าใครจะสมัครใจเพิ่ม/ลดน้ำหนักมาชกในรุ่นนี้กันบ้าง และเตรียมประกาศอันดับในเดือนพฤศจิกายนนี้เลย แต่การจัดมวยมาเจอกันจริงๆ คงใช้เวลาอีกราวๆ 6 เดือน ระหว่างนี้ก็ชกรุ่นเดิมของตัวเองไปก่อน
งานนี้ WBC โดนกระหน่ำจากทั่วสารทิศ เพราะเดี๋ยวนี้แชมป์โลกก็มีจนจะเดินชนกันตายอยู่แล้ว ทั้งแชมป์ธรรมดา แชมป์เฉพาะกาล แชมป์ “ซูเปอร์” แชมป์เข็มขัดเงิน ฯลฯ ไหนจะแชมป์ภูมิภาคอีก ทาง WBC เองก็เพิ่งตั้งตำแหน่งแชมป์ “แฟรนไชส์” ซึ่งคล้ายๆ “ซูเปอร์แชมเปี้ยน” ของ WBA ทำให้แชมป์โลกมีมากขึ้นไปอีกแล้ว ยังจะมาเพิ่มรุ่นขึ้นมาอีก เลยโดนข้อหาตั้งรุ่นเพิ่มเพื่อหวังฟันเงินค่า “หัวคิว” เวลาโปรโมเตอร์ระเบิดศึกระดับ “แชมป์โลก” เท่านั้นเอง สถาบันอื่นตอนนี้ยังสงวนท่าทีรอดูอยู่ แฟนมวยอย่างเราก็คงเตรียมตัวงงกับแชมป์โลกคนใหม่ๆ ที่จะเพิ่มมาอีกหลายคนแน่นอน