“นาโอยะ อิโนอุเอะ” กำเนิดอสูรกายมวยโลก จากดินแดนปลาดิบ

ไม่เพียงแต่กีฬาฟุตบอลที่มีนักเตะญี่ปุ่นพาเหรดไปค้าแข้งในยุโรปและเอเชีย วงการหมัดมวยระดับโลก ก็มีกำปั้นเลือดซามูไร สลับสับเปลี่ยนกันออกไปสร้างชื่อคว้าแชมป์โลกเป็นระยะ ทว่าชั่วโมงนี้ไม่มีใครร้อนแรงเกินกว่า “อสูรกาย” ตนหนึ่งแห่งคานากาวะ ที่กลายเป็นความภาคภูมิใจของประเทศชาติด้วยการครองเข็มขัดแชมป์โลก 2 เส้น และประกาศกร้าวขอขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของโลกในอนาคต

ศึกมวยสากลชิงเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นแบนตัมเวทของสมาคมมวยโลก (WBA) กับสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ที่ผ่านมา นาโอยะ อิโนอุเอะ กำปั้นหนุ่มผู้ถือครองเข็มขัดทั้งสองเส้น เดินขึ้นสังเวียนศักดิ์สิทธิ์ของวงการมวยโลก เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ เซ็นเตอร์ สหรัฐอเมริกา เผชิญหน้า เจสัน มาโลนีย์ ผู้ท้าชิงจากออสเตรเลีย ที่หมายมั่นกระชากเข็มขัดจากอีกฝ่ายมาเป็นของตัวเองแบบรวดเดียว

ทว่าตลอดการชก อิโนอุเอะ ฟอร์มเหนือกว่าเห็นได้ชัด เดินสาวหมัดเข้าชายโครงและใบหน้าของ มาโลนีย์ จะแจ้ง ก่อนที่ยก 7 จะปิดบัญชีด้วยการยิงหมัดขวาเข้าเต็มหน้า ส่งอีกฝ่ายลงไปกอง และได้รับการชูมือขึ้นฟ้าชนะน็อค TKO ป้องกันเข็มขัดทั้งสองเส้นไว้ได้อย่างงดงาม

“ผมมีความสุขมากกับหมัดสุดท้ายที่ปล่อยออกไป เพราะตลอดการชก มาโลนีย์ ป้องกันได้ดีมากจนทะลวงแทบไม่เข้าเลย” อิโนอุเอะ เปิดใจหลังเข็มขัดยังไม่หายไปในคืนวันฮัลโลวีน


นักมวยหนุ่มวัย 27 ปี ยื่นนามบัตรตัวเองให้โลกรู้จักเป็นที่เรียบร้อยจากไฟต์ล่าสุด ทว่ามองย้อนกลับไป การสวมบทบาทนักมวยอาชีพอาจเป็นเรื่องของโชคชะตาฟ้าลิขิต เพราะที่จริง อิโนอุเอะ ไม่ได้ตั้งใจจะชกมวยอาชีพตั้งแต่แรก ทว่าได้รับการปลูกฝังจากคุณพ่อที่เป็นอดีตนักมวยสมัครเล่น และผลักดันอย่างเต็มที่ทำให้ อิโนอุเอะ ที่ค้นพบพรสวรรค์ด้านหมัดมวยตอนประถมโดยบังเอิญ ใส่เกียร์เดินหน้าบนเส้นทางนี้

อิโนอุเอะ ขึ้นชกรายการสมัครเล่น เก็บคู่ต่อสู้จนมีสถิติชนะ 75 ไฟต์ ผลงานเด่นคือเหรียญทองแดง เอเชียน ยูธ แชมเปียนชิพ ที่อิหร่าน ปี 2010 กับเหรียญทอง เพรสซิเดนท์ คัพ ที่อินโดนีเซีย ปี 2011 แม้ระหว่างทางจะไม่ประสบความสำเร็จในระดับชิงแชมป์โลกอย่าง ไอบ้า ยูธ เวิลด์ แชมเปียนชิพ ที่อาเซอร์ไบจาน ซึ่งหยุดที่รอบ 8 คน หรือไม่ผ่านคัดเลือกโอลิมปิก ปี 2012 จนมีเสียงวิจารณ์ว่า “เก่งไม่จริง” แต่นักมวยหนุ่มดาวรุ่งไม่สนใจ เบนเข็มไปลุยอาชีพเต็มตัว

ไฟต์เปิดตัวของหนุ่มกำปั้นหนักคือเจอกับ ไครสัน โอมาเยา นักชกชาวฟิลิปปินส์ ปี 2012 และการดวลก็สิ้นสุดที่ยกสี่เมื่อ อิโนอุเอะ สอยอัปเปอร์คัทซ้ายเข้าเต็มหน้าจน โอมาเยา ทรุดตัวหน้าทิ่มพื้น ชนะน็อกตั้งแต่เปิดตัว จากนั้นก็ไล่เก็บศพนักชกรายอื่นต่อเนื่อง โดยระหว่างทางปราบนักชกไทยถึง 3 คนนั่นคือ เงาพระจันทร์ ชูวัฒนะ, สามารถเล็ก ก่อเกียรติยิม และ เพชรบางบอน ก่อเกียรติยิม และทุกคนแพ้น็อกทั้งสิ้น


อิโนอุเอะ ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นนักมวยหมัดหนัก ถนัดต่อยแบบซ้ายนำ ขวาตาม เพราะเมื่อไหร่ที่ขึ้นชก จุดจบของอีกฝ่ายคือถูกน็อกหรือโดนต่อยจนต้องยอมแพ้ นับตั้งแต่เริ่มเดบิวต์ ปี 2012-2019 เจ้าของสมญา “อสูรกาย” น็อกคู่ต่อสู้ไปทั้งสิ้น 15 ไฟต์ เข็มขัดแชมป์โลกแบนตัมเวทของ IBF เส้นแรกที่ได้ก็มาจากไล่ยำ เอ็มมานูเอล โรดริเกซ แห่งเปอร์โต ริโก้ ทั้งหมัดซ้ายเข้าหน้า และตุ๊ยลำตัว ลงไปกองพื้น 2 ครั้งจนทนพิษหมัดไม่ไหวขอยอมแพ้

ช่วงเวลาสำคัญคือการเจอกับ โนนิโต้ โดแนร์ แชมป์โลก WBA ของฟิลิปปินส์ เดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว แม้จะได้ชกต่อหน้าแฟนมวยญี่ปุ่นที่ตะโกนเชียร์ “นาโอยะ!! นาโอยะ!!” กระหึ่ม ไซตามะ ซูเปอร์ อารีน่า แต่เป็นไฟต์ที่ อิโนอุเอะ สะบักสะบอมพอสมควร ถูกผู้มาเยือนชกจนมีแผลแตก สุดท้ายครบ 12 ยก อิโนอุเอะ ที่ต่อยเก็บคะแนนตุนไว้ได้เยอะกว่า ชนะคะแนนและกระชากเข็มขัดเส้นที่สองมาจนได้ พร้อมกับขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของประเทศ

“ผมไม่รู้เลยว่าอะไรที่ทำให้ผมแข็งแกร่งเพียงนี้ พูดความจริงก็คือไม่คิดว่าจะชกมวยอย่างจริงจังด้วยซ้ำ แต่สิ่งหนึ่งที่ยึดถือคือไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องดีที่สุด ฝึกซ้อมให้หนัก และเป็นที่ 1 ให้ได้” อิโนอุเอะ ให้สัมภาษณ์สื่อหลังจบไฟต์สร้างชื่อดังกล่าว จนได้โอกาสเซ็นสัญญากับ ท็อป แรงค์ โปรโมเตอร์มวยระดับโลกที่มี บ๊อบ อารัม ผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการกุมบังเหียนอยู่ ที่พร้อมผลักดันกำปั้นแห่งคานากาวะ ขึ้นเป็นซูเปอร์สตาร์ในอนาคต


หลังจบไฟต์ที่น็อก เจสัน มาโลนีย์ ในคืนวันฮาโลวีน บ๊อบ อารัม ที่ดูผลงานนักมวยในสังกัดอยู่ขอบสนาม ประทับใจฝีมือนักชกแดนปลาดิบคนนี้ยิ่ง ก่อนกางแผนต่อไปไว้เรียบร้อยนั่นคือเจอกับ จอห์น รีล คาซิเมโร่ เจ้าของเข็มขัดรุ่นแบนตัมเวทของฝั่งองค์กรมวยโลก (WBO) ชาวฟิลิปปินส์ ในเดือนกุมภาพันธ์ หรือ มีนาคม ปี 2021 โดยทั้งสองอยู่ในระหว่างเจรจาเรื่องสัญญา ค่าตัว และส่วนแบ่งถ่ายทอดสด ตามประสาธุรกิจมวยโลก

อันที่จริง อิโนอุเอะ ควรจะได้เจอกับ คาซิเมโร่ ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่โชคร้ายที่ต้องเลื่อนไปเพราะการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกาแบบไม่ทันตั้งตัว จึงต้องหาคู่ต่อสู้คนอื่นมาซ้อมมือ กระนั้นคาดว่าทั้งสองจะได้เจอกันแน่ในปีหน้า และเมื่อดูจากโปรไฟล์การชก อสูรกายแห่งแดนปลาดิบ เหนือกว่าชัดเจนเพราะชกมา 20 ไฟต์ ไม่เคยแพ้ใครเลย น็อก 17 ครั้ง ชนะคะแนนแค่ 3 ครั้งเท่านั้น

“ผมไม่ได้ชกมวยเพื่อทำร้ายคู่ต่อสู้ แค่อยากแสดงความสามารถบนสังเวียนให้แฟนมวยเห็น และทิ้งเครื่องหมายการค้าของตัวเองให้ทุกคนจดจำ” อิโนอุเอะ ผู้ประกาศมั่นว่าจะขอเป็นเบอร์ 1 ของโลกให้ได้ในอนาคต บอกสื่ออย่างมั่นใจ