ปิ๊กมี่ ก่อเกียรติยิม อดีตแชมป์ "เงา" สหพันธ์มวยโลก WBF ครวญสภาพเศรษฐกิจกระทบชีวิต และครอบครัวรอวันตาย จำต้องหวนคืนสังเวียนอีกครั้ง เชื่อสภาพร่างกายยังไหว แม้วัย 39 ปี แต่ขอให้ได้ชกในพิกัด 115 ปอนด์ยังพอเป็นด่านสกัดรุ่นน้องดาวรุ่งได้แน่
ปิ๊กมี่ เพิ่งหวนคืนสังเวียนครั้งล่าสุด โดนล้วงลำตัวแพ้น็อก ธนันท์ชัย จรูญภักดิ์ ยก 4 ที่ เวิร์คพอยท์ สตูดิโอ เมื่อ 7 พ.ย.63 ที่ผ่านมา เจ้าตัวเผยหลังชกไฟต์ล่าสุดว่า การพ่ายแพ้ให้แก่ดาวรุ่งรุ่นน้องซึ่งอายุอ่อนกว่าถึง 19 ปีนั้น เป็นเพราะเรื้อสังเวียนไปนาน ซ้ำยังต้องรีดลดน้ำหนักในช่วงระยะเวลาอันสั้นเพื่อให้ได้ในพิกัด 112 ปอนด์ แต่หากตนได้มีเวลาเก็บตัวให้มากขึ้น และได้ชกในพิกัด 115 ปอนด์ขึ้นไป เชื่อมั่นด้วยกระดูกมวย ความเก๋าประสบการณ์ ยังพอจะเป็นด่านสกัดให้กับนักชกรุ่นน้องดาวรุ่งทั้งหลายได้อยู่
"ทุกวันนี้ ผมทำสวนอยู่ที่ชัยภูมิ การดำรงชีพอยู่ ก็คงเป็นที่ทราบกันดี ด้วยสภาพเศรษฐกิจแร้นแค้นในช่วงนี้ ยิ่งมีวิกฤตไวรัสโควิดด้วย นับว่ายากลำบากไม่น้อยครอบครัวรอวันอดตาย ผมจึงจำเป็นต้องหวนคืนสังเวียนกลับมาชกมวยอีกครั้ง แต่มั่นใจว่า ขอให้ได้มีระยะเวลาเตรียมตัว ยังสามารถจะกลับมาชกมวยได้อีกแม้จะอายุถึง 39 ปีแล้วก็ตาม"
"ไฟต์ล่าสุดผมได้ค่าตัว 5 หมื่นบาท ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ที่ให้โอกาส ซึ่งผมยังพร้อมจะคืนสังเวียนเป็นด่านวัดฝีมือให้กับมวยสร้างทุกค่าย ทุกสังกัด เรื่องค่าตัวนั้นคุยกันได้ สารภาพตามตรงว่า ผมมีความจำเป็นจริงๆที่ต้องกลับมาชกอีกครั้ง เพื่อหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว วอนแฟนๆอย่าด่าว่าผมเลย ผมเคยพยายามติดต่อกลับไปหาเสี่ยโก้ลูกพี่เก่า แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ทุกวันนี้ก็อยากขอบคุณที่ท่านได้เคยช่วยเหลือมา ปัจจุบันผมเป็นอิสระไม่มีสังกัดใด หากโปรโมชันทีมงานใดสนใจ ผมพร้อมชก หากเป็นพิกัด 115 ปอนด์ขึ้นไปจะยิ่งดี จึงฝากบอกต่อด้วยครับ"
ปิ๊กมี่ เคยเป็นมวยสร้างของ "เสี่ยโก้" ก่อเกียรติ พาณิชยารมณ์ ปัจจุบัน มีสถิติสากลอาชีพ ชนะ 61 แพ้ 12 เสมอ 2 ดีกรี อดีตแชมป์"เงา"สหพันธ์มวยโลก WBF ,อดีตแชมป์สภามวย แห่งเอเชีย WBC Asia เคยชิงแชมป์ สมาคมมวยโลก WBA รุ่นมินิมั่มเวต แพ้คะแนน ขวัญไทย ศิษญ์หมอเส็ง และไปชิงแชมป์โลก WBA เส้นเดิมอีกครั้ง ที่ โมนาโก แพ้น็อก เฮคกี้ บัสเลอร์ ยก 8 (พ.ศ.2557) ก่อนแขวนนวมในอีกสองปีต่อมา และเพิ่งหวนคืนสังเวียนไฟต์ล่าสุด เมื่อ 7 พ.ย.63 ที่ผ่านมา ด้วยความจำเป็นจากสภาพความเป็นอยู่อันแร้นแค้นในปัจจุบัน