“ประยุทธ์” ประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงใน กทม. มีผลตั้งแต่เที่ยงวันที่ 22 ต.ค. ด้านตำรวจมั่นใจใช้ กม.ปกติคุมม็อบได้ รัฐสภาแบ่งเวลา 4 ฝ่าย ถกหาทางออกประเทศ “ฝ่ายค้าน” แบะท่าอาจไม่ร่วมประชุม
วานนี้ (22 ต.ค.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ เรื่อง ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ประกาศ ข้อกำหนด และคำสั่งที่เกี่ยวข้อง โดยสาระสำคัญในการยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ กทม. ลงวันที่ 15 ต.ค.63 และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 16 ต.ค.63 ที่เดิมประกาศไว้จนถึงวันที่ 13 พ.ย.63 พร้อมทั้งบรรดาข้อกำหนด ประกาศ และคำสั่ง ที่ออกตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) อันเนื่องจากได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ กทม.ดังกล่าวเป็นอันสิ้นสุดลง ตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.63 เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ตร.เชื่อ กม.ปกติเอาอยู่
ด้าน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ส่วนหนึ่งมาจากการที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นผู้ประเมินสถานการณ์เสนอต่อนายกฯ โดยเห็นว่าสถานการณ์ได้คลี่คลายลงแล้ว หลังจากนี้ตำรวจจะกลับไปใช้กฎหมายปกติดูแลการชุมนุม อาทิพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การชุมนุมสาธารณะฯ, พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อควบคุมสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และกฎหมายอาญา ส่วนการจัดกำลังดูแลการชุมนุม ยังคงให้กองร้อยควบคุมฝูงชน ปฏิบัติหน้าที่ดูแลสถานการณ์ในพื้นที่ กทม.
“ชวน” ถก 4 ฝ่ายแบ่งเวลาจ้อ
อีกด้าน ที่อาคารรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานประชุม 4 ฝ่าย ประกอบด้วย ครม., ส.ส.รัฐบาล, ส.ส.ฝ่ายค้าน และ ส.ว. เพื่อกำหนดประเด็น และกรอบเวลาในการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ วันที่ 26-27 ตุลาคมเพื่อหาทางออกให้ประเทศจากสถานการณ์ชุมนุมของประชาชน เพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ภายหลังการประชุม นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมการสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) แถลงว่า ได้แบ่งการกรอบเวลาอภิปรายเป็น 4 กลุ่ม รวม 23 ชั่วโมง ได้แก่ ฝ่ายค้านได้ 8 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาล ส.ว.และครม.ได้ฝ่ายละ 5 ชั่วโมง และแบ่งเวลาให้ประธานรัฐสภาอีก 1-2 ชั่วโมง การประชุมในวันที่ 26 ต.ค. เริ่มเวลา 09:30 -22:00 น. ส่วนวันที่ 2 จะอภิปรายต่อจนครบเวลาที่เหลืออยู่ หวังว่า ในญัตติของรัฐบาลที่เสนอให้เปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญครั้งนี้จะเป็นทางออกทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงบ้าง
“ฝ่ายค้าน” อาจไม่ร่วมวงถก
ด้าน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ฝ่ายค้านเห็นเนื้อหาในญัตติที่ฝ่ายรัฐบาลขอเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญแล้ว กังวลว่า จะขัดข้อบังคับการประชุมหรือไม่ หากจะมีการพูดถึงเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ และการประชุมครั้งนี้ จะตอบสนองความคาดหวังของสังคมในการหาทางออกให้ประเทศได้จริงหรือไม่ ถ้าพิจารณาแล้วไม่ใช่ทางออก ฝ่ายค้านอาจจะพิจารณาทบทวนไม่เข้าร่วมการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ หรือถ้าจะเข้าร่วมประชุมจะเป็นในลักษณะใด เพราะประเทศไทยไม่เคยมีญัตติในลักษณะนี้มาก่อน โดยพรรคร่วมฝ่ายค้านจะหารือกันในวันที่ 22 ต.ค. เพื่อหาข้อสรุปในเรื่องดังกล่าว แต่ฝ่ายค้านจะพยายามทำงานร่วมกับรัฐบาล และ ส.ว. เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของสังคมให้มากที่สุด
“ม็อบใหญ่” ประกาศพัก 1 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวกลุ่มราษฎร หลังจากที่เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ได้นัดการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และเคลื่อนไปที่ทำเนียบรัฐบาล ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ผ่านตัวแทนของรัฐบาล เพื่อให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง โดยขีดเส้นตายภายใน 3 วัน
ขณะที่วานนี้ (22 ต.ค.) แกนนำกลุ่มราษฎรได้แจ้งสื่อมวลชนว่า วันนี้ม็อบใหญ่พักการชุมนุม 1วัน ไม่มีการนัดรวมกลุ่ม ส่วนในวันที่ 23 ต.ค. ทางแกนนำและแนวจะร่วมประเมินสถานการณ์กันใหม่ว่า จะมีการนัดชุมนุมหลักหรือไม่ เช่นเดียวกับ เพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม - United Front of Thammasat and Demonstration และเพจเยาวชนปลดแอก - Free YOUTH ซึ่งเป็นเครือข่ายสำคัญของกลุ่มราษฎร ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับรวมตัวกันชุมนุมแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามยังมีแนวร่วมกลุ่มราษฎรยังมีความเคลื่อนไหวชุมนุมกันในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ อาทิ บริเวณท่าน้ำปากเกร็ด จ.นนทบุรี และที่ จ.อุดรธานี เป็นต้น ซึ่งที่ จ.อุดรธานี ได้มีการจัดกิจกรรม “กฐินราษฎร์ตลาดหลวง” โดยในขบวนพบว่ามีการเขียนข้อความ REPUBLIC OF THAILAND บนธงชาติไทยด้วย
ป้อง "บิ๊กตู่" ไม่ต้องลาออก
ทางด้าน นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมให้นายกฯ ลาออกภายใน 3 วันนั้น ยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐ มีจุดยืนอย่างแน่วแน่ที่นายกฯไม่ต้องลาออก เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด ที่ผ่านมาก็บริหารบ้านเมืองราบรื่น ตั้งใจให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง เมื่อนายกฯไม่มีความผิดก็ไม่มีบทกำหนดใดในรัฐธรรมนูญให้นายกฯลาออก
“เสื้อเหลือง” จัดกิจกรรมหลายจุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันมีประชาชนสวมเสื้อสีเหลืองร่วมจัดกิจกรรมแสดงจุดยืนปกป้องสถาบันพระมหากษัริย์หลายจุดทั่วประเทศ อาทิ ที่หน้าศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ ได้มีการจัดกิจกรรมรวมพลังพิทักษ์ราชัน นำโดย พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ นำประชาชนร่วมกิจกรรม
โดยชูพระบรมฉายาลักษณ์ โบกธงชาติ ธงรัชกาล พร้อมร้องเพลงชาติไทย และเปล่งเสียงทรงพระเจริญ เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงความภักดีต่อสถาบันฯ ก่อนจะแยกย้ายกันหลังจบกิจกรรม
ที่ จ.นครราชสีมา กลุ่มคนโคราชปกป้องสถาบัน พร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลือง รวมตัวกันที่บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ ๕ สนามหน้าศาลากลาง จ.นครราชสีมา จากนั้นได้เดินรณรงค์แสดงความสำนึกรักในสถาบัน พร้อมถือป้ายข้อความ “รวมใจภักดิ์ พิทักษ์สถาบัน, รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญๆๆ” เป็นระยะ ไปตามถนนราชดำเนิน มายังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) โดยมี อดีตพระพุทธอิสระ มาร่วมกิจกรรม
ที่ลานศิลปวัฒนธรรม (หน้าศาลากลางจังหวัดปัตตานี) อ.เมือง จ.ปัตตานี ประชาชนชาวปัตตานีก็ได้จัดกิจกรรม “รวมพลคนปัตตานี ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” โดยนายพิทักษ์ ก่อเกียรติพิทักษ์ นายกเทศมนตรีเมืองปัตตานี ได้กล่าวนำพลังพลังมวลชน ประกาศเจตนารมณ์ในการปกป้อง “สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” เพื่อแสดงออกถึงความและเทิดทูนไว้ ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ จากนั้นนายกเทศมนตรีเมืองปัตตานี เป็นตัวแทนประชาชน ยื่นหนังสือ “ปกป้องสถาบัน” ให้กับนายสมนึก พรหมเขียว รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เสร็จแล้ว ได้ร่วมร้องเพลงชาติไทย เพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงสดุดีจอมราชา อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย ก่อนแยกย้ายสลายตัวไป
ส.ว.เตือนระวังอำนาจนอก กม.
วันเดียวกัน ที่หน้าอาคารสุขประพฤติ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา นำคณะ ส.ว., ข้าราชการ และประชาชน แสดงจุดยืนในการปกป้องพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นสถาบันหลักสำคัญของชาติ พร้อมกล่าวปฏิญาณ ตนร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงสดุดีจอมราชา
นายพรเพชร กล่าวถึงข้อเรียกร้องของกลุ่มคณะราษฎร ที่ยื่นคำขาดให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่งภายใน 3 วัน ว่า การออกจากตำแหน่งใดๆ มีขั้นตอนปฏิบัติตามกฎหมาย หากนำข้อเรียกร้องของกลุ่มคนมาดำเนินการ อาจเปิดช่องให้ใช้อำนาจนอกกฎหมาย และนำไปสู่การรัฐประหารได้
วานนี้ (22 ต.ค.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ เรื่อง ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ประกาศ ข้อกำหนด และคำสั่งที่เกี่ยวข้อง โดยสาระสำคัญในการยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ กทม. ลงวันที่ 15 ต.ค.63 และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 16 ต.ค.63 ที่เดิมประกาศไว้จนถึงวันที่ 13 พ.ย.63 พร้อมทั้งบรรดาข้อกำหนด ประกาศ และคำสั่ง ที่ออกตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) อันเนื่องจากได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ กทม.ดังกล่าวเป็นอันสิ้นสุดลง ตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.63 เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ตร.เชื่อ กม.ปกติเอาอยู่
ด้าน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ส่วนหนึ่งมาจากการที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นผู้ประเมินสถานการณ์เสนอต่อนายกฯ โดยเห็นว่าสถานการณ์ได้คลี่คลายลงแล้ว หลังจากนี้ตำรวจจะกลับไปใช้กฎหมายปกติดูแลการชุมนุม อาทิพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การชุมนุมสาธารณะฯ, พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อควบคุมสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และกฎหมายอาญา ส่วนการจัดกำลังดูแลการชุมนุม ยังคงให้กองร้อยควบคุมฝูงชน ปฏิบัติหน้าที่ดูแลสถานการณ์ในพื้นที่ กทม.
“ชวน” ถก 4 ฝ่ายแบ่งเวลาจ้อ
อีกด้าน ที่อาคารรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานประชุม 4 ฝ่าย ประกอบด้วย ครม., ส.ส.รัฐบาล, ส.ส.ฝ่ายค้าน และ ส.ว. เพื่อกำหนดประเด็น และกรอบเวลาในการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ วันที่ 26-27 ตุลาคมเพื่อหาทางออกให้ประเทศจากสถานการณ์ชุมนุมของประชาชน เพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ภายหลังการประชุม นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมการสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) แถลงว่า ได้แบ่งการกรอบเวลาอภิปรายเป็น 4 กลุ่ม รวม 23 ชั่วโมง ได้แก่ ฝ่ายค้านได้ 8 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาล ส.ว.และครม.ได้ฝ่ายละ 5 ชั่วโมง และแบ่งเวลาให้ประธานรัฐสภาอีก 1-2 ชั่วโมง การประชุมในวันที่ 26 ต.ค. เริ่มเวลา 09:30 -22:00 น. ส่วนวันที่ 2 จะอภิปรายต่อจนครบเวลาที่เหลืออยู่ หวังว่า ในญัตติของรัฐบาลที่เสนอให้เปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญครั้งนี้จะเป็นทางออกทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงบ้าง
“ฝ่ายค้าน” อาจไม่ร่วมวงถก
ด้าน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ฝ่ายค้านเห็นเนื้อหาในญัตติที่ฝ่ายรัฐบาลขอเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญแล้ว กังวลว่า จะขัดข้อบังคับการประชุมหรือไม่ หากจะมีการพูดถึงเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ และการประชุมครั้งนี้ จะตอบสนองความคาดหวังของสังคมในการหาทางออกให้ประเทศได้จริงหรือไม่ ถ้าพิจารณาแล้วไม่ใช่ทางออก ฝ่ายค้านอาจจะพิจารณาทบทวนไม่เข้าร่วมการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ หรือถ้าจะเข้าร่วมประชุมจะเป็นในลักษณะใด เพราะประเทศไทยไม่เคยมีญัตติในลักษณะนี้มาก่อน โดยพรรคร่วมฝ่ายค้านจะหารือกันในวันที่ 22 ต.ค. เพื่อหาข้อสรุปในเรื่องดังกล่าว แต่ฝ่ายค้านจะพยายามทำงานร่วมกับรัฐบาล และ ส.ว. เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของสังคมให้มากที่สุด
“ม็อบใหญ่” ประกาศพัก 1 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวกลุ่มราษฎร หลังจากที่เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ได้นัดการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และเคลื่อนไปที่ทำเนียบรัฐบาล ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ผ่านตัวแทนของรัฐบาล เพื่อให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง โดยขีดเส้นตายภายใน 3 วัน
ขณะที่วานนี้ (22 ต.ค.) แกนนำกลุ่มราษฎรได้แจ้งสื่อมวลชนว่า วันนี้ม็อบใหญ่พักการชุมนุม 1วัน ไม่มีการนัดรวมกลุ่ม ส่วนในวันที่ 23 ต.ค. ทางแกนนำและแนวจะร่วมประเมินสถานการณ์กันใหม่ว่า จะมีการนัดชุมนุมหลักหรือไม่ เช่นเดียวกับ เพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม - United Front of Thammasat and Demonstration และเพจเยาวชนปลดแอก - Free YOUTH ซึ่งเป็นเครือข่ายสำคัญของกลุ่มราษฎร ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับรวมตัวกันชุมนุมแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามยังมีแนวร่วมกลุ่มราษฎรยังมีความเคลื่อนไหวชุมนุมกันในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ อาทิ บริเวณท่าน้ำปากเกร็ด จ.นนทบุรี และที่ จ.อุดรธานี เป็นต้น ซึ่งที่ จ.อุดรธานี ได้มีการจัดกิจกรรม “กฐินราษฎร์ตลาดหลวง” โดยในขบวนพบว่ามีการเขียนข้อความ REPUBLIC OF THAILAND บนธงชาติไทยด้วย
ป้อง "บิ๊กตู่" ไม่ต้องลาออก
ทางด้าน นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมให้นายกฯ ลาออกภายใน 3 วันนั้น ยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐ มีจุดยืนอย่างแน่วแน่ที่นายกฯไม่ต้องลาออก เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด ที่ผ่านมาก็บริหารบ้านเมืองราบรื่น ตั้งใจให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง เมื่อนายกฯไม่มีความผิดก็ไม่มีบทกำหนดใดในรัฐธรรมนูญให้นายกฯลาออก
“เสื้อเหลือง” จัดกิจกรรมหลายจุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันมีประชาชนสวมเสื้อสีเหลืองร่วมจัดกิจกรรมแสดงจุดยืนปกป้องสถาบันพระมหากษัริย์หลายจุดทั่วประเทศ อาทิ ที่หน้าศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ ได้มีการจัดกิจกรรมรวมพลังพิทักษ์ราชัน นำโดย พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ นำประชาชนร่วมกิจกรรม
โดยชูพระบรมฉายาลักษณ์ โบกธงชาติ ธงรัชกาล พร้อมร้องเพลงชาติไทย และเปล่งเสียงทรงพระเจริญ เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงความภักดีต่อสถาบันฯ ก่อนจะแยกย้ายกันหลังจบกิจกรรม
ที่ จ.นครราชสีมา กลุ่มคนโคราชปกป้องสถาบัน พร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลือง รวมตัวกันที่บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ ๕ สนามหน้าศาลากลาง จ.นครราชสีมา จากนั้นได้เดินรณรงค์แสดงความสำนึกรักในสถาบัน พร้อมถือป้ายข้อความ “รวมใจภักดิ์ พิทักษ์สถาบัน, รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญๆๆ” เป็นระยะ ไปตามถนนราชดำเนิน มายังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) โดยมี อดีตพระพุทธอิสระ มาร่วมกิจกรรม
ที่ลานศิลปวัฒนธรรม (หน้าศาลากลางจังหวัดปัตตานี) อ.เมือง จ.ปัตตานี ประชาชนชาวปัตตานีก็ได้จัดกิจกรรม “รวมพลคนปัตตานี ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” โดยนายพิทักษ์ ก่อเกียรติพิทักษ์ นายกเทศมนตรีเมืองปัตตานี ได้กล่าวนำพลังพลังมวลชน ประกาศเจตนารมณ์ในการปกป้อง “สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” เพื่อแสดงออกถึงความและเทิดทูนไว้ ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ จากนั้นนายกเทศมนตรีเมืองปัตตานี เป็นตัวแทนประชาชน ยื่นหนังสือ “ปกป้องสถาบัน” ให้กับนายสมนึก พรหมเขียว รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เสร็จแล้ว ได้ร่วมร้องเพลงชาติไทย เพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงสดุดีจอมราชา อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย ก่อนแยกย้ายสลายตัวไป
ส.ว.เตือนระวังอำนาจนอก กม.
วันเดียวกัน ที่หน้าอาคารสุขประพฤติ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา นำคณะ ส.ว., ข้าราชการ และประชาชน แสดงจุดยืนในการปกป้องพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นสถาบันหลักสำคัญของชาติ พร้อมกล่าวปฏิญาณ ตนร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงสดุดีจอมราชา
นายพรเพชร กล่าวถึงข้อเรียกร้องของกลุ่มคณะราษฎร ที่ยื่นคำขาดให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่งภายใน 3 วัน ว่า การออกจากตำแหน่งใดๆ มีขั้นตอนปฏิบัติตามกฎหมาย หากนำข้อเรียกร้องของกลุ่มคนมาดำเนินการ อาจเปิดช่องให้ใช้อำนาจนอกกฎหมาย และนำไปสู่การรัฐประหารได้