ศึกใหญ่ในเดือนตุลาคม / ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์

คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”

ช่วงนี้วงการมวยและศิลปะการต่อสู้ทั้งหลายเริ่มมีข่าวคราวศึกใหญ่ๆ มากขึ้น แม้ว่าจะยังต้องจัดแบบ “สนามปิด” ไม่สามารถให้แฟนๆ เข้ามาชมในสนามได้ก็ตาม คนในวงการก็เชื่อกันว่าปลายๆ ปี น่าจะมีลุ้นได้จัดรายการโดยให้แฟนๆ เข้ามาชมในสนามได้ ตอนนี้เลยเริ่มมีข่าวศึกใหญ่ๆ ในช่วงปลายปีออกมาหลายรายการ อย่างเดือนตุลาคมนี้มีรายการที่ต้องส่งข่าวให้แฟนมวยทั้งหลายเตรียมติดตามไว้ก่อนเลย

เริ่มจากวงการ MMA ก่อน โดยรายการศิลปะการต่อสู้แบบผสมค่ายใหญ่ของโลกอย่าง UFC เปิดโปรแกรมออกมาแล้วว่า “พญาอินทรี” คาบิบ นูร์มาโกเมดอฟ เจ้าของเข็มขัดแชมป์ในรุ่นไลท์เวท จะหวนคืนสังเวียนกรงแปดเหลี่ยม เพื่อพบกับ “แชมป์เฉพาะกาล” จัสติน เก๊ดจี้ ในรายการ UFC 254 ในวันที่ 24 ตุลาคม แน่นอน แต่สังเวียนของรายการนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าจะไปจัดกันที่ไหน คงต้องดูก่อนว่าสถานการณ์การระบาดของโรค “โควิด-19” ในสหรัฐอเมริกาจะดีพอจะจัดกันได้หรือยัง จะได้จัดแบบมีผู้ชมในสนามไหม หรือยังจะต้องมาจัดที่ “ไฟต์ ไอส์แลนด์” ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กันไปก่อน

คู่นี้ถือว่าสมน้ำสมเนื้อน่าดูมาก เพราะ “พญาอินทรี” นั้นถือว่าไร้เทียมทานในรุ่นนี้ แต่ร้างสังเวียนมาตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว และไฟต์ก่อนหน้านั้นก็ตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2018 เรียกว่าเมื่อถึงวันสู้ จะเป็นแค่ไฟต์ที่สามในรอบ 24 เดือนเลยทีเดียว แถมยังเพิ่งเสียคุณพ่อซึ่งเป็นโค้ชผู้ปลุกปั้นมาด้วยโรค “โควิด-19” เมื่อเดือนก่อนนี้เอง ความพร้อมจะแค่ไหนต้องติดตาม ส่วนจัสติน เก๊ดจี้นั้นเพิ่งโชว์ฟอร์มสวยหรูไล่อัดโทนี่ เฟอร์กูสัน ในรายการ UFC 249 เมื่อเดือนพฤษภาคมนี้เอง แย่งตำแหน่งแชมป์ “เฉพาะกาล” ในรุ่นนี้มาได้ เลยได้สิทธิ์มาฟัดกับคาบิบในรายการนี้

สำหรับวงการมวยโลก ก็มีไฟต์ใหญ่ให้แฟนๆ รอชมในเดือนตุลาคมเหมือนกัน งานนี้เป็นศึก “รวบแชมป์” ในรุ่นไลท์เวท ระหว่าง “ไฮ-เทค” วาซีล โลมาเชนโก้ ยอดมวยยูเครนเจ้าของสถิติชก 15 ชนะ 14 (น็อก 10) แพ้ 1 และครอบครองเข็มขัดโลกในรุ่นไลท์เวทของ WBA (Super), WBC, WBO และเดอะ ริง ได้คิวพบกับเจ้าของแชมป์โลกของ IBF ตีโอฟิโม โลเปซ นักชกอเมริกันเชื้อสายฮอนดูรัสเจ้าของสถิติอันตรายชนะรวด 15 ไฟต์ น็อก 12 เรียกว่าไม่เบาเลยทีเดียว

คู่นี้มีคิวพบกันมาตั้งแต่เดือนเมษาที่ผ่านมา แต่ด้วยสถานการณ์การระบาดของโรค “โควิด-19” ทำให้ต้องเจอ “โรคเลื่อน” มาเรื่อยๆ จนพอนัดเจอกันในเดือนกันยายน ก็กลายเป็นติดปัญหาเรื่องค่าตัว เพราะจะต้องจัดชกแบบไร้คนดู ขายตั๋วไม่ได้ ทำให้ค่าย “ท็อปแร้งค์” ที่เป็นผู้จัดศึกนี้ต้องยอมรับว่ารายได้จะน้อยกว่าที่ควรจะเป็นเยอะเลย ต้องลุ้นขายเพย์-เพอร์-วิว อย่างเดียว เลยต้องเจรจาค่าตัวกันละเอียดนิดนึง สุดท้ายเจ้า “ไฮ-เทค” ยอมลดค่าตัวลง 2.5 แสนเหรียญ รับที่ 3.25 ล้านเหรียญสำหรับไฟต์นี้ จากที่ค่าตัวปกติ 3.5 ล้านเหรียญ ท็อปแร้งค์เลยไปเพิ่มค่าตัวให้โลเปซอีก 3 แสนเหรียญได้เป็น 1.5 ล้านแทนที่จะแค่ 1.2 ล้าน ทั้งคู่เลยตกลงกันได้ ล่าสุดคู่นี้ตั้งเป้าเจอกัน 17 ตุลาคม ที่สังเวียนเอ็มจีเอ็มแกรนด์ ในลาสเวกัส แต่คงต้องวางมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ระบาดกันให้ดีๆ ก่อน แฟนมวยชาวไทยต้องลุ้นว่าจะมีการถ่ายทอดสดให้ได้ชมหรือไม่ แต่ถึงจะไม่มี อย่างน้อยแฟนมวยก็มีศึกใหญ่ๆ ให้ติดตามกันแล้วในเดือนตุลาคมนี้