xs
xsm
sm
md
lg

ยังต้องดูกันต่อสำหรับ UFC 249 / ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”

ผ่านไปแล้วสำหรับรายการศึกศิลปะการต่อสู้แบบผสมรายการใหญ่ UFC 249 ที่ประธานจอมสีสันของ UFC อย่าง “ดาน่า ไวท์” เดินหน้าเต็มตัวเพื่อระเบิดศึกนี้ให้ได้ แม้คู่เอกจะต้องเป็นการดัน “มวยแทน” อย่างจัสติน เก๊ดจี้ มาพบกับโทนี่ เฟอร์กูสัน เพื่อชิงแชมป์ “เฉพาะกาล” ในรุ่นไลท์เวท ในขณะที่แชมป์ตัวจริงอย่าง “พญาอินทรี” คาบิบ นูร์มาโกเมดอฟเดินทางมาขึ้นสังเวียนไม่ได้จากสถานการณ์โรคระบาด “โควิด-19” ก็ตาม

ซึ่งนักสู้ทั้งคู่ก็ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง ออกมาใส่กันไม่ยั้งตลอดช่วงระยะเวลาเกือบๆ 5 ยกของการต่อสู้ โดยทั้งคู่เน้นการยืนสู้กันมากกว่า โทนี่ เฟอร์กูสัน ที่ครองสถิติชนะติดต่อกันมากที่สุดในรุ่นไลท์เวท ด้วยชัยชนะ 12 ไฟต์รวดก่อนหน้านี้ เป็นฝ่ายเดินเข้าหาด้วยศักดิ์ศรี และเหวี่ยงอัปเปอร์คัทขวาส่งจัสติน เก๊ดจี้ร่วงลงไปก่อนในท้ายยก 2 แต่ระฆังหมดยกพอดี พอยก 3-4 มวยแทนอย่างเก๊ดจี้ออกอาวุธหนักๆ ได้หลายดอก จนโทนี่ เฟอร์กูสันคิ้วขวาแตก และโหนกแก้มซ้ายบวมแตก แถมโดนเตะจนขาซ้ายลาก พอยก 5 จัสติน เก๊ดจี้ ก็ออกมา “ปิดจ๊อบ” ไล่ยำโทนี่ เฟอร์กูสันเกือบทั้งยกจนกรรมการทนดูไม่ได้ยุติการต่อสู้ไปในที่สุด จบสถิติชนะรวดของโทนี่ เฟอร์กูสันไป ส่วนจัสติน เก๊ดจี้ ก็คว้าเข็มขัด “เฉพาะกาล” มาครองสำเร็จ

พอผลเป็นแบบนี้ความหวังของแฟนๆ ที่จะได้เห็นไฟต์ระหว่างโทนี่ เฟอร์กูสัน กับ “พญาอินทรี” คาบิบ นูร์มาโกเมดอฟ ก็ต้องแห้วไปตามระเบียบ หลังจากคู่นี้แคล้วคลาดกันมา 4 ครั้งแล้ว ทางด้านจัสติน เก๊ดจี้ ก็ประกาศทวงสิทธิ์ขอพบกับ “พญาอินทรี” ในไฟต์ต่อไปทันที คาบิบนั้นหลังจากถูกโทนี่ เฟอร์กูสัน เยาะเย้ยว่าหนี ก็ออกมาทวิตคำเดียวสั้นๆ “ไม่มีอะไรจะพูด” และตามมาด้วยการแสดงความยินดีกับเก๊ดจี้ ดูทรงแล้วศึก “คาบิบ-เก๊ดจี้” ก็น่าจะเกิดขึ้นได้ในไม่ช้าเหมือนกัน

ที่ต้องติดตามกันต่อไปก็คือสถานการณ์การระบาดของโรค “โควิด-19” ว่าจะมีผลอะไรจากรายการนี้หรือไม่ เพราะเอาจริงๆ รายการนี้ทาง “ดาน่า ไวท์” ก็เรียกว่าฝืนสุดตัวเพื่อจะดันรายการนี้ให้เกิดให้ได้ แต่จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็ต้องบอกว่าเสี่ยงไม่น้อย เพราะในวันชั่งน้ำหนัก มีนักสู้รายหนึ่งคือโรนัลโด้ ซูซ่า กับพี่เลี้ยง 2 คน มีผลตรวจเชื่อไวรัสโคโรน่าออกมาเป็นบวก จนไฟต์กับอูไรย่า ฮอลล์ ต้องยกเลิกไป โดยนักสู้รายนี้มีคนในครอบครัวที่ติดเชื้อ และพอเดินทางมาถึงสังเวียนก็แจ้งกับผู้จัดทันที แต่ก่อนผลจะออกมาก็ยังใช้ชีวิตในโรงแรมตามปกติ แถมยังไปชั่งน้ำหนักด้วย แม้จะคาดหน้ากากก็ตาม

ส่วนตอนชั่งน้ำหนักทางดาน่า ไวท์ ก็ไม่ได้คาดหน้ากาก และทำ “ฟิสต์ ปั๊ม” คือกำหมัดสัมผัสกับหมัดของนักสู้ทุกราย รวมทั้งซูซ่าที่ “คาดว่า” จะมีเชื้อไวรัสโคโรน่าในตัวด้วย บนเวที โจ โรแกน ผู้ประกาศชื่อดัง ก็ขึ้นไปสัมภาษณ์นักสู้ทุกราย จับมือกับนักสู้ทุกราย กอดกับนักสู้จำนวนมาก เรียกว่าไม่ได้รักษาระยะห่างอย่างที่ควรจะเป็น ก็คงเป็นอย่างข่าวที่เราเห็นกันอยู่ว่าชาวอเมริกันไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการคาดหน้ากาก และการรักษาระยะห่าง ก็ต้องดูกันต่อไปว่าจะมีผลอะไรกับการระบาดของโรคบ้างหรือไม่ ถ้าไม่มีก็ดีไป และดาน่า ไวท์ ก็คงโฆษณาได้เต็มที่ถึงความสำเร็จในครั้งนี้ แต่ถ้าเกิดการระบาดขนานใหญ่เพราะศึกนี้ทางป๋าไวท์ก็คงรู้ว่าจะโดนถล่มแค่ไหน
กำลังโหลดความคิดเห็น