คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
ยังสร้างกระแสได้อย่างต่อเนื่องสำหรับ “ดาน่า ไวท์” ประธานจอมสีสันแห่งรายการศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานค่ายใหญ่ของโลก “อัลติเมต ไฟติ้ง แชมเปี้ยนชิป” ที่ออกข่าวต่อเนื่องสำหรับรายการ UFC 249 เป็นกระแสฮือฮาไปทั้งวงการขณะนี้
โดยหลังจากโดนเบรกไม่ให้จัดในช่วงกลางเดือนเมษายน เพราะสถานการณ์การระบาดของโรค “โควิด-19” ในอเมริกาและทั่วโลกยังสาหัสอยู่ ทางดาน่า ไวท์ ก็ยังยืนยันพร้อมเดินหน้าระเบิดศึก UFC 249 ทันทีที่มีโอกาส และพอผู้ว่าการรัฐฟลอริด้าเปิดทางโดยมีคำวินิจฉัยว่ารายการกีฬาต่อสู้ ถือเป็นธุรกิจที่สำคัญและจำเป็น ก็ทำให้ป๋าไวท์เคลียร์เส้นทางและประกาศพร้อมระเบิดศึกนี้ทันทีในวันที่ 9 พฤษภาคม ที่สังเวียนวายสตาร์ เม็มโมเรียล ในเมืองแจ๊คสันวิลล์ ฟลอริด้า แถมยังวางโปรแกรมต่อเนื่องอีก 2 ศึกในวันที่ 13 และ 16 พฤษภาคมต่อไปเลย
ซึ่งเดิมทีนั้นวันที่ 9 พฤษภาคม ทาง UFC ได้วางโปรแกรมรายการ UFC 250 เอาไว้ โดยคู่เอกจะเป็นไฟต์ของ “นางสิงห์บราซิล” อมันด้า นูเนซ ที่ครองตำแหน่งแชมป์ใน 2 พิกัดน้ำหนัก จะขึ้นป้องกันเข็มขัดในรุ่นเฟเธอร์เวทกับนักสู้สาวชาวแคนาดา เฟลิเซีย สเปนเซอร์ ที่เป็นอดีตแชมป์ในรุ่นเดียวกันในค่าย “อินวิคต้า เอฟ ซี” อยู่ด้วย แต่ด้วยสถานการณ์โรคระบาด “โควิด-19” นี้ ทำให้ “นางสิงห์บราซิล” ประกาศว่าจะยังไม่ขึ้นสังเวียนจนกว่าสถานการณ์ทั้งหลายจะดีขึ้น
เลยเป็นช่องว่างให้ “ดาน่า ไวท์” เอาศึก UFC 249 มาลงในสัปดาห์นี้ได้พอดี เรียกว่าทุกอย่างลงตัว คู่เอกในรายการก็จะเป็นศึกชิงเข็มขัดแชมป์ “เฉพาะกาล” ในรุ่นไลท์เวท ระหว่าง โทนี่ เฟอร์กูสัน กับ จัสติน เก๊ดเช่ ตามเดิม ก็น่าเห็นใจนักสู้ทั้งสองรายที่ต้องเร่งทำน้ำหนักกันใหม่อีกรอบ หลังจากรอบที่แล้วทำน้ำหนักกันมาดีๆ แต่ต้องเลื่อนรายการออกไปก่อนวันกำหนดจัดแค่ไม่กี่วัน ก็น่าคิดว่านักสู้ทั้งคู่จะอยู่ในสภาพที่พร้อมจริงแค่ไหนในสถานการณ์แบบนี้ ส่วนคู่รองทางดาน่า ไวท์ ก็ไปดึง เฮนรี่ เซจูโด้ มาป้องกันเข็มขัดแชมป์ในรุ่นแบนตั้มเวทกับอดีตแชมป์เก่าอย่าง โดมินิค ครูซ ซึ่งร้างสังเวียนมา 3 ปีเศษจากอาการบาดเจ็บ แต่แฟนๆ ยังจำฝีไม้ลายมือได้ดีอยู่ ถือว่าเป็นไฟต์ที่น่าดูอีกไฟต์หนึ่ง
เรียกว่าแฟนๆ ก็ตั้งตารอไฟต์นี้กัน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ไม่มีอะไรมาสร้างความบันเทิงได้ในขณะเก็บตัวกันอย่างนี้ งานนี้ป๋าดาน่า ไวท์ อ่านเกมขาดน่าจะโกยเงินจากการขายเพย์-เพอร์-วิว สะดือปลิ้น แม้ว่าไฟต์นี้จะต้องจัดในสนามปิดไม่สามารถขายตั๋วให้แฟนๆ เข้ามาเชียร์ในสังเวียนได้ก็ตาม แต่ก็ต้องลุ้นกันอยู่ดีว่าสุดท้ายแล้วสถานการณ์ต่างๆ จะเป็นอย่างไรเมื่อใกล้วันจัดเข้ามาจริงๆ เพราะรัฐฟลอริด้านั้นก็เป็นจำเลยสังคมอยู่ไม่น้อยในการที่เป็นแหล่งแรกๆ ที่เกิดการระบาดขนานใหญ่จากปาร์ตี้ “สปริง เบรก” ของบรรดานักศึกษาทั้งหลาย ทั้งๆ ที่โรค “โควิด-19” นี้กำลังเริ่มระบาด
ตอนนี้ตัวเลขดูเหมือนดีขึ้น แต่ในสถานการณ์ภาพรวมที่มีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากมายทุกวัน ก็มีคำถามว่าชุดตรวจโรค และเครื่องมือต่างๆ ควรจะนำไปใช้ในสถานการณ์ที่จำเป็น แทนที่จะเอามาใช้ในกิจกรรมแบบนี้ จะดีกว่ามั้ย ก็เรียกว่าเป็นประเด็นถกเถียงกันใหญ่โตจนมีเรื่องประท้วงกันไปทั่วอเมริกาตอนนี้ งานนี้ป๋าไวท์ถือว่าทุ่มเดิมพันสุดตัว ถ้าผลออกมาดี ไม่มีใครติดเชื้อไปจากรายการนี้ ป๋าไวท์ก็จะเป็น “ฮีโร่” ที่กล้าเดินหน้าเพื่ออเมริกันชนให้กลับเข้าสู่วิถีชีวิตปกติได้ แต่ถ้ามีเหตุระบาดเพิ่มขึ้นจากรายการนี้ ป๋าไวท์ต้องเป็นจำเลยสังคมชนิดไม่มีที่ยืน ก็ตามดูกันต่อไปว่าจะออกหน้าไหนกันแน่ ถ้ารายการนี้ได้ระเบิดขึ้นจริงๆ
