คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ขอส่งท้ายด้วยบทสรุปของศึกมวยกรงรายการใหญ่ “UFC 249” ที่ทางดาน่า ไวท์ ประธานขาลุยของ UFC มุ่งมั่นจะระเบิดศึกให้ได้ตามแผนเดิม คือวันเสาร์ที่จะถึงนี้ (18 เมษายน) ทั้งๆ ที่สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ยังรุนแรงและไม่มีทีท่าว่าจะควบคุมได้แต่อย่างใด โดยหลังจากส่งต้นฉบับของเมื่อสัปดาห์ที่แล้วไปก็มีสถานการณ์พลิกผันกันหลายรอบอุตลุดไปหมด
เริ่มจากทางดาน่า ไวท์ออกมาประกาศเปลี่ยนตัวคู่เอก ถอด “พญาอินทรี” คาบิบ นูร์มาโกเมดอฟ ที่ติดปัญหาด้านการเดินทางมายังสหรัฐอเมริกา เปลี่ยนเอานักสู้ฝีมือดีชาวอเมริกันอีกคน จัสติน เก๊ดจี้ มาพบกับโทนี่ เฟอร์กูสัน แทน และยกให้เป็นการชิงแชมป์ “เฉพาะกาล” ของรุ่นไลท์เวทแทน ซึ่งแม้ทางคาบิบนั้นจะยืนยันว่าพร้อมเดินทางมาด้วยเครื่องบินส่วนตัว ซึ่งทางรัสเซียอนุญาตให้บินออกได้ แต่ก็จะติดปัญหาว่าเมื่อมาถึงสหรัฐอเมริกาแล้วก็จะต้องแยกตัวอีก 14 วันก่อน ซึ่งน่าจะมีปัญหากับการฝึกซ้อม และการโปรโมทรายการนี้อย่างแน่นอน ซึ่งทางแฟนๆ รายการ UFC ก็ยอมรับได้กับการดึงเอาจัสติน เก๊ดจี้ มาขึ้นเป็นมวยแทนครั้งนี้
ส่วนคู่รองในรายการ ป๋าไวท์ก็ประกาศยืนยันว่ายอดฝีมือสาว โรส นามาจูนาส อดีตเจ้าของเข็มขัดแชมป์รุ่นสตรอว์เวทหญิง จะขึ้น “ล้างตา” กับเจสซิก้า อันดราเด้ ซึ่งเอาชนะนามาจูนาสแย่งแชมป์ไปได้ ก่อนจะไปพ่ายให้กับนักสู้สาวจีน จางเว่ยหลีเสียตำแหน่งไป งานนี้ถือเป็นการ “ตัดเชือก” เอาผู้ชนะไปชิงเข็มขัดจากจางเว่ยหลีคืน ซึ่งแฟนๆ รายการมวยกรงดูคู่มวยในรายการแล้วก็ทึ่งว่าดาน่า ไวท์สามารถประกบคู่มวยได้น่าดูมาก เตรียมจ่ายเงินซื้อ “เพย์-เพอร์-วิว” ดูแน่นอน UFC เตรียมโกยเงินมหาศาล ส่วนสังเวียนจัดนั้นทางประธาน UFC ก็ไปเจรจากับโรงแรม ทาชิ พาเลซ ในลีมัวร์ คาลิฟอร์เนีย เพื่อระเบิดศึกนี้ โดยโรงแรมที่ว่านี้อยู่ในเขตคุ้มครองอินเดียนแดง ซึ่งไม่ตกอยู่ในการบังคับใช้กฎหมายของรัฐคาลิฟอร์เนีย ซึ่งห้ามจัดกิจกรรมใดๆ และห้ามชุมนุมไปแล้ว แต่ในลีมัวร์นี้ห้ามไม่ได้ ทางดาน่า ไวท์ ก็เตรียมเปิดศึก UFC 249 ที่นี่
สถานการณ์มาพลิกผันอีกรอบ เพราะนักสู้สาว โรส นามาจูนาส มีญาติใกล้ชิดที่ถึงแก่กรรมจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ทำให้สภาพจิตใจไม่พร้อมที่จะขึ้นสู้ ต้องขอถอนตัว ทางดาน่า ไวท์ ต้องปรับรายการอีกรอบ และสุดท้ายหลังจากมีเสียงคัดค้านดังกระหึ่มจากทุกฝ่าย ว่าไม่เหมาะสมที่จะจัดรายการในช่วงเวลานี้ ทางดาน่า ไวท์ ก็ยอมถอย หลังจากทางดิสนี่ย์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของค่าย UFC โดย “คนในตำแหน่งสูงที่สุดเท่าที่จะมีในดิสนี่ย์” ตามคำบอกของป๋าไวท์ โทรมาบอกว่าให้เลื่อนไปก่อนเถอะ รวมทั้งโทรทัศน์ช่อง อีเอสพีเอ็น พลัส ซึ่งรับหน้าเสื่อในการถ่ายทอดสด ก็ให้ “คนในตำแหน่งสูงที่สุดเท่าที่จะมีในอีเอสพีเอ็น” ตามคำบอกของป๋าไวท์อีกเช่นกัน โทรมาบอกให้เลื่อนไปก่อน ทางดาน่า ไวท์ จึงต้องยอมถอยในที่สุด จบ “มหากาพย์” ของศึก UFC 249 ไปก่อน
มองมุมนึงก็ต้องชื่นชมดาน่า ไวท์ ที่ลุยดะและพยายามแก้ไขสถานการณ์ทุกทางเพื่อทำสิ่งที่ตัวเองเชื่อมั่นให้สำเร็จ ด้วยหวังผลดีในด้านกำลังใจและด้านเศรษฐกิจ แต่มอมอีกมุมก็น่าคิดว่าแกได้พิจารณาให้น้ำหนักกับผลกระทบต่อสังคมโดยรวมมากน้อยแค่ไหน ในสถานการณ์ที่ในอเมริกามีคนตายวันละเป็นพันๆ คนและติดไวรัสนี้วันละหลายหมื่นคน รอดูว่าเมื่อการระบาดของโรค “โควิด-19” ลดลงจนควบคุมได้และมีความปลอดภัยเพียงพอ ดาน่า ไวท์ จะเดินหน้าศึกนี้ต่อไปยังไง
