คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
ผ่านพ้นไปอีกรายการสำหรับศึกศิลปะการต่อสู้แบบผสมค่ายใหญ่ของโลก อัลติเมต ไฟต์ติ้ง แชมเปี้ยนชิป ที่ระเบิดศึก UFC 250 ที่สังเวียนเอเป็กซ์ เซ็นเตอร์ ในลาส เวกัส เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ตรงกับบ้านเราสายๆ วันอาทิตย์ที่ 7 ที่ผ่านมานี้ เป็นรายการแรกที่กลับมาบรรเลงกันในลาส เวกัส หลังจาก “ปิดเมือง” ไปสองเดือนในช่วงที่เกิดการระบาดของโรค “โควิด-19” อย่างหนักในสหรัฐอเมริกา
ก่อนหน้านี้ทาง UFC ได้เปิดศึกไปแล้ว 3 รายการที่แจ๊คสันวิลล์ ในฟลอริด้า ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเป็นการจัดรายการแบบ “สนามปิด” ไม่มีการขายตั๋วเข้าชม มีแต่การถ่ายทอดสดให้แฟนๆ ได้ติดตามกัน และมีมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้รายการที่จัดเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อไวรัสโคโรน่าตัวแสบเพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่งที่ผ่านมาก็ดูเหมือนจะได้ผล เพราะไม่มีข่าวนักสู้หรือผู้เกี่ยวข้องเกิดการติดเชื้อจากการจัดรายการเหล่านี้แต่อย่างใด
ในรายการนี้ก็ปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโดยเคร่งครัด คู่เอกของรายการเป็นการขึ้นสังเวียนของ “นางสิงห์บราซิล” อมันด้า นูเนซ เพื่อป้องกันเข็มขัดแชมป์ในรุ่นเฟเธอร์เวท ที่เธอคว้ามาได้จากการต่อยนักสู้สาวร่างยักษ์อย่าง คริส ไซบอร์ก ร่วงแค่ยกแรก เมื่อปลายปี 2018 ซึ่งทำให้เธอกลายเป็นแชมป์ 2 รุ่นในช่วงเวลาเดียวกันอย่างยิ่งใหญ่ เพราะเธอเป็นเจ้าของเข็มขัดแชมป์ในรุ่นแบนตั้มเวทอยู่แล้ว จากนั้น “นางสิงห์บราซิล” รายนี้ก็ป้องกันแชมป์ในรุ่นแบนตั้มเวทมาอีก 2 ไฟต์ในปี 2019 ก่อนจะได้คิวป้องกันแชมป์ในรุ่นเฟเธอร์เวทนี้เป็นครั้งแรกในรายการนี้
ฝั่งผู้ท้าชิงเป็นนักสู้สาวแคนาดา เฟลิเชีย สเปนเซอร์ ที่เคยเป็นแชมป์ในรุ่นเดียวกันนี้ของค่ายอินวิคต้า เอฟซี มาแล้ว และเคยสู้กับคริส ไซบอร์ก ได้อย่างสูสีในรายการของ UFC ก่อนที่คริส ไซบอร์ก จะหมดสัญญากับ UFC และย้ายไปค่ายเบลลาตอร์แทน แต่ในการพบกับ “นางสิงห์บราซิล” นี้ เฟลิเชีย สเปนเซอร์ สู้ไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง โดนอมันด้า นูเนซ ประเคนอาวุธเข้าใส่ชนิดปิดป้องไม่ไหว จะพยายามเข้าหาลากลงมาสู้ในเกมบนพื้นที่เธอถนัดในฐานะบราซิลเลี่ยน ยิวยิตสูสายดำ ก็โดนอาวุธของนูเนซกระเด็นกระดอนไปมา สุดท้ายครบ 5 ยกพ่ายคะแนนไปอย่างบอบช้ำมีแผลแตกและรอยปูดโปนบนใบหน้าเต็มไปหมด “นางสิงห์บราซิล” ป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้ และสร้างสถิติเป็นนักสู้รายแรกที่เป็นแชมป์ 2 รุ่นในเวลาเดียวกัน และสามารถป้องกันแชมป์ได้ทั้ง 2 รุ่นด้วย ที่ผ่านมามีนักสู้ชายอย่าง “จอมเกรียน” คอนเนอร์ แม็คเกรเกอร์ ที่เป็นแชมป์ 2 รุ่น แต่พอไปคว้าแชมป์ในรุ่นไลท์เวทได้ ก็ไม่ได้ป้องกันตำแหน่งในรุ่นเฟเธอร์เวทเลยจนถูกปลดจากตำแหน่งไป
เรียกว่าตอนนี้ “นางสิงห์บราซิล” รายนี้ยิ่งใหญ่จริงๆ นักสู้ชั้นดีในรุ่นแบนตั้มเวท เธอก็เก็บมาหมดแล้ว ส่วนรุ่นเฟเธอร์เวทนั้นก็ต้องยอมรับว่าทาง UFC ก่อนหน้านี้ไม่ได้โปรโมทอะไรจริงจัง ไม่มีตัวดีๆ มากนัก ตอนนี้มองไปแล้วไม่มีตัวสู้เอาเสียเลย ถ้าจะลุ้นก็คงต้องดูว่าวาเลนติน่า เชฟเชนโก้ แชมป์ในรุ่นฟลายเวทของ UFC ที่ป้องกันเข็มขัดมาได้แล้ว 4 ครั้ง และเคยโลดแล่นอยู่ในรุ่นแบนตั้มเวท เอาชนะนักสู้ดีๆ อย่าง “ลูกสาวนักเทศน์” ฮอลลี่ โฮล์ม หรือซาร่า คอฟแมน มาแล้ว จะยอมทำน้ำหนักขึ้นมาเจอกันมั้ย ทั้งคู่เคยเจอกันมา 2 ไฟต์แล้วและเชฟเชนโก้พ่ายไปทั้ง 2 ไฟต์ แต่ก็เป็นการพ่ายคะแนนแบบสูสี ตอนนี้ต้องยอมรับว่าในบรรดานักสู้สาวด้วยกันแล้ว “นางสิงห์บราซิล” อมันด้า นูเนซ ถือว่าไร้เทียมทานสุดๆ
