คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
หวังเหวิดไปตามๆ กันสำหรับคนวงการมวยไทย เมื่อการประกาศ “คลายล็อก” รอบ 3 ยังไม่มี “มวยไทย” อยู่ในรายการ แต่ก็ต้องบอกว่าทาง ศบค. ก็ปฏิบัติในแนวทางเหมือนๆ กัน คือแม้จะคลายล็อกให้เล่นกีฬาหลายๆ ประเภทได้ แต่ก็ยังห้ามการแข่งขัน ห้ามการสัมผัสใกล้ชิดต่างๆ อยู่ ดังนั้นมวยซึ่งเป็นกีฬาสัมผัสใกล้ชิดมากๆ ก็ยังต้องรอไปก่อนจริงๆ
เพราะอย่างไรเสียประเด็นสำคัญที่สุดก็ยังต้องเป็นการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งความปลอดภัยของสังคมโดยรวม อย่างที่ได้คุยกันไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าการจะ “ปลดล็อก” ได้นั้น น่าจะต้องมีมาตรการป้องกันการติดต่อ หรือลดโอกาสของการแพร่ระบาดอีกรอบให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจเชื้อผู้ที่เกี่ยวข้องในการจัดการแข่งขันชกมวย ไม่ว่าจะเป็นนักมวยเอง พี่เลี้ยง โปรโมเตอร์ กรรมการบนเวที กรรมการให้คะแนน ฯลฯ ต้องมีการตรวจเชื้อให้มั่นใจว่าแต่ละคนไม่มีเชื้อ ไม่เป็นพาหะ เพื่อไม่ให้มีการติดต่อกัน และเมื่อตรวจแล้ว ก็ต้องมีการกักตัวไม่ให้มีโอกาสไปรับเชื้อจากไหนมา ดังนั้นต้องมีมาตรการกักตัวผู้เกี่ยวข้องทุกคนก่อนรายการชก ซึ่งในทางปฏิบัติในวงการมวยของเราน่าจะยังทำไม่ได้ทั้ง 2 ประการ
ลำพังการยอมจัดแบบ “สนามปิด” และการยืนยันว่าผู้เกี่ยวข้องจะใส่หน้ากาก และรักษาระยะห่างตามเกณฑ์ต่างๆ นั้น น่าจะยังไม่เพียงพอจริงๆ เรื่องการจัดแบบ “สนามปิด” นั้นก็มีความกังวลกันว่าบรรดาแฟนมวยและเซียนมวยจะมีการชุมนุมกันไปชมการถ่ายทอดสดด้วยกัน ซึ่งตรงนี้ก็ควบคุมลำบากแน่นอน และอาจเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดอีกได้ แบบนี้ก็ไม่แปลกที่วงการมวยจะยังไม่อยู่ในรายการ “คลายล็อก” ในรอบ 3 นี้
แต่ที่สหรัฐอเมริกา ศูนย์กลางการชกมวยและ MMA ระดับโลกนั้นก็มีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าสถานการณ์การระบาดจะยังไม่ดีขึ้น แค่ทรงๆ ตัว แต่ทางโน้นเขามีความพร้อมมากกว่าเราจริงๆ อย่างล่าสุดรัฐเนวาด้า ก็ประกาศ “ปลดล็อก” ยอมให้รายการมวยและการแข่งขัน MMA มาจัดแข่งในรัฐเนวาด้าได้แล้ว ตามหลังรัฐฟลอริด้าที่เปิดให้จัดมาแล้ว ล่าสุดทาง ดาน่า ไวท์ ประธานจอมลีลาของ UFC ก็เอารายการมาลงในสัปดาห์นี้แล้ว และเตรียมอีกรายการต่อเนื่องในสัปดาห์แรกของเดือนมิถุนายนนี้เลย คือวันที่ 6 ส่วนทางด้านวงการมวยค่าย ท็อปแร้งค์ ของโปรโมเตอร์คนดัง บ๊อบ อารัม ก็เตรียมเปิดรายการมวยในวันที่ 9 และ 11 สองรายการรวด
ซึ่งหลังจาก UFC จัดรายการที่ฟลอริด้าไป 3 รายการในเดือนพฤษภาคม ก็ยังไม่มีข่าวการติดเชื้อหรือการแพร่เชื้อจากผู้เกี่ยวข้องในรายการเหล่านั้น ก็นับได้ว่ามาตรการต่างๆ ได้ผล และรายการของ UFC ที่เนวาด้าก็คงยึดมาตรการเหล่านั้นเหมือนกัน ส่วนรายการมวยของท็อปแร้งค์นั้นยังรอสรุปมาตรการต่างๆ อยู่ ซึ่งก็คงออกมาคล้ายๆ กัน ส่วนบ้านเราคนวงการมวยก็ต้อง “อึด” กันไปอีกสักพัก ตอนนี้สถานการณ์การติดเชื้อในประเทศก็ถือว่าดีมาก เชื่อว่าการคลายล็อก “รอบ 4” วงการมวยน่าจะมีลุ้นมากขึ้น ระหว่างนี้ก็ช่วยกันระดมสมองกันก่อนก็ดีว่าจะมีมาตรการอะไรเพื่อให้ภาครัฐมั่นใจได้ในการที่จะ “ปลดล็อก” ให้วงการมวย เพื่อที่เมื่อถึงเวลาจะได้คลายล็อกได้อย่างสง่างาม ไม่เปิดโอกาสให้เกิดการระบาด “รอบสอง” ได้
