คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
วันนี้ เมืองไทยยังต้องมีการรณรงค์ให้ผูกเชือกรองเท้าผ้าใบ แล้วไป “ วิ่งไล่ลุง ” ในวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2020 ตั้งแต่เวลา 04.30 - 08.00 น. ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กันอยู่เลย แต่ ญี่ปุ่น เพื่อนร่วมทวีปเอเชียของเราที่ผืนดินต้องผ่านความวินาศย่อยยับจากสงครามโลก แผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์สึนามิ กำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งมวลมนุษยชาติไปพร้อมๆกับการก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ด้วยเท้คนอลอจี้สุดล้ำ
ใช่ว่าจะไม่มีเสียงคัดค้านต่อต้านอะไรเลย การที่ ญี่ปุ่น ชนะโหวทให้เป็นเจ้าภาพปี 2020 นั้น หน่วยอาชญากรรมทางเศรษฐกิจของ ฝรั่งเศส พยายามหาเรื่องและได้ดำเนินการสืบสวนมาตั้งแต่ปลายปี 2018 ตลอด 1 ปีเต็มเกี่ยวกับเสียงโหวทที่ชาติในทวีปอัฟริกาต่างเทคะแนนให้ชนะทั้ง อิสตันบุล และ มาดริด อย่างขาดลอย แต่ก็ไม่พบหลักฐานหรืออะไรที่ผิดสังเกต
เกาหลีใต้ เองก็แสลงใจต่อการที่ ญี่ปุ่น จะใช้ ธงอาทิตย์อุทัย (Rising Sun Flag) ซึ่งความจริงบรรดาขุนศึกเริ่มใช้มาตั้งแต่ยุคเอโดะ (Edo) ร่วม 400 ปีมาแล้ว และนำกลับมาเป็นธงแห่งกองทัพจักรพรรดิในสมัยเมอิจิ (Meiji) ตรงกับช่วงต้นรัชกาลที่ 5 ของไทย และในปัจจุบันบรรดากองเชียร์เลือดบูชิโดก็ใช้ในการเชียร์กีฬา อันนี้ มองได้ว่า เพื่อสร้างความฮึกเหิมให้แก่นักกีฬาของชาติตน แต่ เกาหลีใต้ ร้องต่อ คณะกรรมการโอลิมปิคสากล ว่า มันเป็นสัญลักษณ์ของ จักรวรรดินิยมของญี่ปุ่น ที่สร้างรอยด่างและความปวดร้าวให้ชาติอื่นๆในอดีตที่ผ่านมา พวกเอ็งชาวยุโรปอยากรู้ว่ามันเป็นอย่างไรก็ลองนึกถึง สวัสดิกะ (swastika) สัญลักษณ์ของ เผ่าพันธุ์อารยัน ที่ พวกนาซี ใช้และเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ได้
ตัดภาพมาสู่เรื่องเท้คนอลอจี้การถ่ายทอดการแข่งขัน ค่ายเอ็นเอ๊ชเค (NHK) ของ ญี่ปุ่น เป็นองค์กรหลักที่ชักชวนทั้ง โซนี่ กับ พานาโซนิค 2 ค่ายยักษ์มาร่วมกันพัฒนาการถ่ายทอดการแข่งขันครั้งนี้เพื่อให้มีความคมชัดโดยมีความละเอียดสูงมากขนาด 8K (7680 × 4320) โดยทั้ง 2 ค่ายได้วางเป้าหมายที่จะนำเครื่องรับโทรทัศน์รุ่นใหม่ที่รองรับความละเอียดขนาด 8K (8K UHDTV) ออกวางตลาดให้ทันในปี 2020 ด้วย หากช่วงการแข่งขัน โอลิมปิค เกมส์ ระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม ถึง 9 สิงหาคม 2020 ใครได้ไปเที่ยวที่ ประเทศญี่ปุ่น ก็คงได้ชมการถ่ายทอดการแข่งขันผ่านหน้าจอโทรทัศน์ที่ให้ความคมชัดมากๆ ราวกับว่าเหตุการณ์นั้นได้เกิดขึ้นตรงหน้าเลยทีเดียว
ใน สหรัฐ อเมริกา นั้น ค่ายเอ็นบีซี (NBC) เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดการแข่งขัน โดยจ่ายเงินก้อนงาม 4.38 พันล้าน ยูเอ๊ส ดอลเล่อร์ส ให้ คณะกรรมการโอลิมปิคสากล สำหรับลิขสิทธิ์ยาวตั้งแต่ โอลิมปิค เกมส์ ฤดูหนาว 2014 ที่ โซชิ ประเทศรัสเซีย ยิงยาวครอบคลุมถึง โอลิมปิค เกมส์ หนนี้ด้วย ในขณะที่ในทวีปยุโรป นับเป็นครั้งแรกที่ลิขสิทธิ์ถูกโยนเข้าสู่ค่ายยักษ์ค่ายเดียวคือ ยูโรสปอร์ท (Eurosport) ที่จะดูแลการถ่ายทอดการแข่งขันในทุกประเทศ ยกเว้น ฝรั่งเศส รัสเซีย และอังกฤษ ที่ต่างก็มีสัญญากันก่อนหน้านั้นและยังมีภาระผูกพันอีกนิดหน่อย ที่สำคัญ นอกจาก ญี่ปุ่น แล้ว ในทวีปยุโรปก็มี อิตาลี นี่แหละครับที่ประกาศจะแพร่ภาพการแข่งขันด้วยระบบความคมชัดสูงระดับ 8K เช่นกัน
สำหรับในประเทศไทย โอลิมปิค เกมส์ หนนี้ เจ้าของลิขสิทธิ์คือ แพลน บี (Plan B) บริษัทประกอบธุรกิจให้บริการและผลิตสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัย ที่เรียกว่า เอ๊าท์ อ๊อฟ โฮม มีเดีย (Out of Home Media) หรือสื่อนอกบ้าน ตอนนี้ ผมคงเผยให้ได้เพียงว่า นอกจากการถ่ายทอดการแข่งขันทางโทรทัศน์ที่เราจะได้ติดตามชมตามปกติแล้ว แพลน บี ซึ่งมีป้ายโฆษณา LED ขนาดใหญ่อยู่เต็มเมืองก็มีแผนที่จะถ่ายทอดผ่านจอกลางแจ้งดังกล่าวด้วย อย่างน้อยก็มี พิธีเปิด และ พิธีปิดการแข่งขัน ที่จะมาตรงกับช่วงพรายม์ทายม์ (Prime time) คือเวลาช่วง 18.00m - 20.00 น. ในประเทศไทยพอดี ส่วนการแข่งขันนั้น ผมกระซิบว่า อาจมีในชนิดกีฬาที่เด็กไทยของเรามีลุ้นเหรียญนะครับ เช่น น้องเทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ที่คว้าแช้มพ์ เทควันโด มาทุกระดับแล้ว เหลือรอแค่เหรียญทองจาก โอลิมปิค เกมส์ นี่แหละครับ