ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 - กระแสความนิยมศิลปะการต่อสู้แบบ มิกซ์ มาร์เชียล อาร์ต (MMA) ซึ่งเป็นการผสมผสานศิลปะการป้องกันตัวรูปแบบต่างๆไว้เพียงหนึ่งเดียวแล้วมาห้ำหั่นบนเวทีชิงความเป็นหนึ่ง เวลานี้กำลังลุกลามไปทั่วเอเชีย หลังจากประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในแถบยุโรป โดยเฉพาะ จีน ที่มีการเปิดชมรมรับเด็กๆเข้ามาปลุกปั้นให้เป็นยอดนักสู้ตั้งแต่อายุยังน้อย ทว่าก็มีคำถามตามมาถึงความเหมาะสมเพราะภาพที่ออกมาดูรุนแรงไม่น้อย
ที่เมือง เฉิงตู และ เสฉวน เอ็นโบ อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจชาวจีน ตัดสินใจเปิดชมรมการต่อสู้ที่ชื่อ “ดิ เอ็นโบ ไฟต์ คลับ” จุดเริ่มต้นคือปี 2001 เป้าหมายคือการฝึกสอนศิลปะการต่อสู้ให้แก่เด็กรุ่นใหม่ที่มีความสนใจอยากมีวิชาไว้ป้องกันตัว ทีแรกนั้นผู้สมัครล้วนเป็นวัยรุ่นไม่ก็ผู้ใหญ่วัยทำงาน แต่ปัจจุบันกลับมีเด็กๆมาสมัครมาขึ้นจนตอนนี้มีเด็กที่เข้ารับการฝึกตามสาขาต่างๆ นับยอดรวมกันถึง 400 คน และส่วนใหญ่ก็มีอายุเฉลี่ย 9-10 ปี ซึ่งเป็นวัยที่น่าจะวิ่งเล่นกับเพื่อนๆมากกว่า
เอ็นโบ เล่าว่าเด็กส่วนใหญ่ที่มาขอร่ำเรียนวิชามาจากครอบครัวที่ยากจน บางรายก็เป็นเด็กกำพร้าขาดความอบอุ่น แต่ไม่ว่าคุณจะมาจากไหน อดีตนายตำรวจแห่งแดนมังกร ก็มอบหมายให้ทีมงานฝึกสอนเด็กเหล่านี้ด้วยหลักสูตรเข้มข้นไม่ต่างจากผู้ใหญ่ ทั้งทุ่ม ทับ จับ ล็อค ต่อย รัดคอ เพื่อฝึกคนให้เป็นยอดคน แน่นอนว่าภาพที่เห็นกันนั้นดูรุนแรงเพราะแต่ละคนต่างมีรอยฟกช้ำดำเขียว ไม่ก็ถึงกับเสียเลือดเสียเนื้อ แต่ต้องยอมเจ็บเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
กิจวัตรประจำวันของเด็กๆที่นี่คือตื่นเช้า ออกกำลัง จับคู่ซ้อมมวยกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันด้วยหลักสูตรแบบผู้ใหญ่ อาบน้ำด้วยร่างกายที่มีแต่รอยช้ำ นอน แล้วก็ตื่นมาฝึกใหม่ เด็กคนไหนที่มีแววดีทางค่ายก็จะส่งไปแข่งขันรายการต่างๆ และมีการปันส่วนแบ่งรายได้ให้ทุกคนอย่างเท่าเทียม
เสี่ยว หวู เด็กหนุ่มวัย 14 ปี ที่สูญเสียคุณพ่อ-คุณแม่ตั้งแต่เด็ก ยอมรับว่าถึงจะต้องเจ็บตัวทุกวันแต่ก็ยังดีกว่าอยู่บ้านที่ไม่มีใครเหลียวแล และเป้าหมายของคือเติบโตเป็นสุดยอดนักสู้เหมือน คอเนอร์ แม็คเกรเกอร์ จอมโวชาวไอริช ซูเปอร์สตาร์แห่งวงการ อัลติเมท ไฟท์ติง แชมเปียนชิป ยุคปัจจุบัน ซึ่งก็มีแบ็คกราวด์คล้ายกันคือใช้ชีวิตปากกัดตีนถีบ สู้ทุกวิถีทางจนกลายเป็นชายที่แข็งแกร่งที่สุดบนสังเวียนลูกกรง
“ที่นี่มีทุกสิ่งทุกอย่าง อาหาร เสื้อผ้า และที่หลับนอน อาหารการกินก็ดีกว่าอยู่ที่บ้านมากมาย มีทั้งเนื้อและไข่ หากเป็นที่บ้านผมจะได้กินแค่มันฝรั่ง และต้องเป็นแรงงานรับจ้าง” เสี่ยว หวู กล่าว ขณะที่ ดอง ซู หนึ่งในโค้ชประจำชมรม บอกมีเด็กหลายคนที่ทนไม่ไหวและขอเลิก แต่สุดท้ายก็กลับมาขอซ้อมใหม่เพราะหากได้เป็นนักสู้บนสังเวียน MMA ก็ยังดีกว่าเติบโตมาเป็นแรงงานราคาถูก เด็กต้อนหมู เลวร้ายสุดคือเป็นขอทาน หรือนักเลงที่ตายได้ทุกเมื่อ
ปัญหาคือภาพการฝึกซ้อมและวีดีโอที่บันทึกภาพเด็ก 2 คนสู้กันอย่างดุเดือดบนเวทีลูกกรงต่อหน้าคนดู กลายเป็นกระแสใหญ่โตเมื่อประชาชนชาวจีนส่วนใหญ่รับไม่ได้ บ้างก็ว่าเป็นทารุณกรรม บ้างก็ว่าเอาเด็กมาหากิน เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมสอบสวนว่าเป็นการเปิดค่ายแบบผิดกฏหมายหรือไม่ ด้านกระทรวงศึกษาธิการของจีนก็จะยื่นมือดึงเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะออกมาและให้สิทธิทางการศึกษา ส่วนเจ้าของค่ายอย่าง เอ็นโบ แก้ต่างยืนยันเด็กทุกคนได้รับการดูแลที่ดี ไม่ได้เปิดค่ายเพื่อค้ามนุษย์
สิ่งที่เห็นทำให้อดนึกถึงข่าวคราวสมัย โอลิมปิก 2012 ที่ลอนดอน เมื่อมีภาพที่เด็กชาย-หญิงชาวจีน ถูกครูฝึกสอนวิชายิมนาสติกเคี่ยวเข็ญอย่างหนักจนร้องไห้ แต่ก็ต้องทนเพื่อความสำเร็จที่รออยู่ข้างหน้าคือเหรียญทองเกียรติยศ การันตีเงินทองไหลมาเทมา เช่นเดียวกับเด็กๆนักสู้กลุ่มนี้ ที่ต้องยอมเจ็บตัวเสียเลือดเสียเนื้อตั้งแต่เล็กก็เพื่อความฝันที่ยิ่งใหญ่ แต่จะมีสักกี่คนที่รอดขึ้นมาได้ก็ต้องรอดูกัน
เรื่องโดย - วัลลภ สวัสดี