"ฟิล์ม" รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ อดีตนักบิดขวัญใจชาวไทย ยอมรับสนาม สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ มีโค้งน้อยกว่าสนามโมโตจีพีอื่น แต่มาตรฐานระดับโลก สร้างความแปลกใหม่ในปฏิทินโมโตจีพี 2018 ได้แน่นอน
ภายหลังจาก วาเลนติโน่ รอสซี่ อดีตแชมป์โลกหลายสมัยออกมาตำหนิการบรรจุสนามแข่งขันฤดูกาล 2018 ของศึกมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลก หรือ "โมโตจีพี" ที่นำสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ สู่ปฏิทินการแข่งขันว่าทำให้นักแข่งมีความเหนื่อยล้ามากขึ้น อีกทั้งสนามดังกล่าวตนเคยไปเทสต์มาแล้ว รู้สึกว่ามีโค้งน้อยเกินไป เป็นสนามที่น่าเบื่อ อีกทั้งยังไกลจากกรุงเทพมหานคร แฟนๆ ต้องนั่งรถไปนานถึง 5 ชั่วโมง
ด้าน "ฟิล์ม" รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ อดีตนักบิดเวิลด์จีพี ขวัญใจชาวไทย กล่าวถึงประสบการณ์ในการสัมผัสสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ด้วยตนเองว่า "ส่วนตัวผมเคยเข้าแข่งขันที่สนามแห่งนี้ และคว้าแชมป์เวิลด์ ซูเปอร์สปอร์ต แชมเปี้ยนชิพ รุ่น 600 ซีซี มาครอง ซึ่งโดยรวมสนามมีความแปลกใหม่ พื้นสนามได้มาตรฐานเหมือนสนามแข่งขันทั่วไป แต่หากเทียบระดับโมโตจีพี ต้องยอมรับอาจจะมีโค้งที่น้อยกว่าสนามอื่นจริง ถ้าบรรดานักขับที่ผ่านสนามมาทั่วโลก คงจะคุ้นเคยกับสนามที่ดูท้าทายมากกว่านี้"
"ทั้งนี้ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ก็มีความน่าสนใจที่สนามอื่นไม่มีหลายอย่าง โค้งที่ 4 เป็นโค้งซ้ายความเร็วสูงที่นักขับสามารถเข้าโค้งด้วยความเร็วระดับ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะเดียวกันก็จะต้องต่อสู้กับแรงเหวี่ยงอันมหาศาลในโค้งนี้ ตามด้วยโค้ง 7 เป็นโค้งหักขวา 70 องศา ที่ฝังอยู่ด้วยโค้งเล็กๆ อีก 2 โค้งในจุดนี้ และถือเป็นอีกหนึ่งโค้งความเร็วสูงของสนามที่เป็นความท้าทายใหม่ให้นักขับได้สัมผัส" รัฐภาคย์ กล่าวทิ้งท้าย