ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ นายกสมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เผย คณะกรรมการโอลิมปิกสากลให้เวลาไทย 1 - 2 ปี พิสูจน์ความพร้อมเข้าร่วมโอลิมปิก 2024 เตรียมเข้าพบนายกรัฐมนตรีให้ช่วยผลักดันตามแผนที่วางไว้
ภายหลังจากที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) รับรองให้กีฬา “มวยไทย” ซึ่งมีองค์กรในแต่ละชาติไม่ต่ำกว่า 135 ประเทศทั่วโลก เข้ารับการบรรจุในการแข่งขันโอลิมปิกอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ยังต้องรอเจ้าภาพโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่มี 3 เมืองเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ ได้แก่ นครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา, กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และ กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี พิจารณาว่าจะเลือกบรรจุในการแข่งขันหรือไม่
ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2559 ณ ห้องบอลรูม 2 โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ ประธานสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (อิฟมา) และนายกสมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ได้จัดแถลงข่าวความคืบหน้าของกรณีดังกล่าวว่า
“ก่อนอื่นต้องชี้แจงก่อนว่า ไอโอซี ได้รับรองเราในรูปแบบของวิสามัญ ซึ่งมีกฎว่าในอีก 1 - 2 ปี จึงจะสามารถเข้ารับการบรรจุในโอลิมปิกเกมส์ได้ โดยในช่วงที่รอการพิจารณาเราต้องทำตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด คือ องค์กรมวยไทยทั่วโลกที่มีมากกว่า 135 ประเทศช่วยกันผลักดันมวยไทยสู่โอลิมปิก, ส่งเสริมให้มีองค์กรมวยไทยเพิ่มมากขึ้น, การจัดแข่งขันนานาชาติให้มากขึ้น อาทิ เวิลด์เกมส์ กีฬามหาวิทยาลัยโลก มาสเตอร์เกมส์ เอเชียนเกมส์ หรือ ยูโรเปียส์เกมส์ ทำให้เห็นว่าการตัดสินมวยไทยมีความโปร่งใส ป้องกันเรื่องสารกระตุ้น เป็นต้น”
นอกจากนี้ ดร.ศักดิ์ชาย ยังกล่าวอีก “ส่วนตัวแล้วมีความมั่นใจสูงว่ามวยไทยน่าจะผ่านการพิจารณารับเป็นชนิดกีฬาสำรองโดยเร็วที่สุดในโอลิมปิก 2024 เพราะที่ผ่านมาทำตามหลักเกณฑ์ที่ไอโอซีกำหนดทุกประการ และในเร็ววันนี้จะเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอแผนพัฒนามวยไทย เพื่อให้รัฐบาลช่วยส่งเสริมการผลักดันในครั้งนี้”
ด้าน “บิ๊กเสือ” นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ในช่วง 3 ปีนี้ สมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และ สหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ จะต้องพัฒนากีฬามวยไทยให้เป็นที่ยอมรับตามโปรแกรมต่างๆ ที่ทางไอโอซีกำหนด และให้เงินสนับสนุนพัฒนาด้านต่างๆ ทั้งในเรื่องการจัดการแข่งขัน การพัฒนาเด็กเยาวชน และการเสริมสร้างกิจกรรมให้มวยไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยเฉพาะเรื่องของการตัดสินต้องยุติธรรม ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก เพื่อให้ผ่านพ้น 3 ปีไปแล้ว ทางไอโอซีจะได้รับรองแบบสมบูรณ์ในโอลิมปิก 2024 ต่อไป หากไม่มีการพัฒนาให้เป็นที่ยอมรับมวยไทยอาจตกไปจากได้บรรจุในกีฬาโอลิมปิกได้ และจะมีชนิดกีฬาอื่นเข้ามาแทน”
ทั้งนี้ ผู้ว่าการ กกท. ยอมรับว่า สิ่งที่ตนกังวลใจมากที่สุดเกี่ยวกับการพัฒนามวยไทย คือ ปัญหาความขัดแย้ง เพราะที่ผ่านมาหลายองค์กรมวยไทยมักอ้างสิทธิต่างๆ จนนำไปสู่ปัญหาต่างๆ “หากสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ ได้รับมอบหมายจากไอโอซีให้ดำเนินการแล้ว ควรจะเดินหน้าทำตามกระบวนการอย่างเต็มที่ อย่าไปทะเลาะกับองค์กรมวยไทยอื่นๆ เพราะสิ่งนี้จะทำให้การทำงานล่าช้าไม่ทันตามกำหนด 3 ปีที่ไอโอซีกำหนดไว้ได้”
สำหรับโอลิมปิกเกมส์ปี 2024 คณะกรรมการโอลิมปิกสากล จะลงคะแนนเลือกเมืองเจ้าภาพที่กรุงลิมา ประเทศเปรู ในเดือนกันยายน 2017
