คุ้มหรือไม่? ลดคุณค่า “มวยไทย” เพื่อมีตัวตนใน “โอลิมปิก”

ผู้จัดการรายวัน 360 - ภายหลังจากที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) รับรองให้กีฬา “มวยไทย” ซึ่งมีองค์กรในแต่ละชาติไม่ต่ำกว่า 135 ประเทศทั่วโลก เข้ารับการบรรจุในการแข่งขันโอลิมปิกอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ยังต้องรอเจ้าภาพโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่มี 3 เมืองเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ ได้แก่ นครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา, กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และ กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี พิจารณาว่าจะเลือกบรรจุในการแข่งขันหรือไม่

ทำให้มีกระแสวิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้จำนวนมาก เพราะการจะก้าวสู่สากลได้นั้น จะต้องมีการเปลี่ยนชื่อซึ่งใช้คำว่า “มวยไทย” ที่แสดงถึงประเทศใดประเทศหนึ่งแบบเจาะจงไม่ได้ อีกทั้งยังมีการคาดเดาว่าจะไม่เห็นการสวมมงคลในขณะไหว้ครูของเหล่ากำปั้น อีกทั้งยังต้องลดอาวุธ หมัด เท้า เข่า ศอก ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของมวยไทยลงไป หากต้องการมีตัวตนในโอลิมปิก

เรื่องนี้ เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง หรือ เจริญ ชูมณี ยอดนักชกมวยไทยเจ้าของฉายา “พยัคฆ์ร้ายเมืองใต้” ยืนยันเสียงแข็งว่า การตัดคำว่า “ไทย” ออกจาก “มวย” ถือว่าไม่ใช่กีฬาของประเทศไทย หากเป็นเช่นนั้นไม่ต้องผลักดันเข้าสู่โอลิมปิกจะส่งผลดีกว่า

ครูเป็ด กล่าวว่า “มวยไทยเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ต่างชาติรู้จัก เหมือนกับที่เกาหลีใต้ที่เทควันโด หลายคนก็อยากไปสัมผัสของต้นฉบับ แต่หากดันมวยไทยเข้าสู่โอลิมปิกแล้วต้องเปลี่ยนชื่อ ต้องลดอาวุธ ผมว่าให้เราอยู่ที่เดิมดีกว่า เพราะทุกวันนี้ต่างชาติเดินทางมาเพื่อเรียนมวยไทยกับเรา เรามีค่ายมวยไทยให้อดีตนักมวยยังมีเวทีให้ถ่ายทอดความรู้ ฉะนั้น การมาส่งเสริมด้านนี้ก็ถือว่าช่วยให้มวยไทยโด่งดังไปทั่วโลกได้เช่นกัน”

ส่วน สมรักษ์ คำสิงห์ ที่เติบโตมาจากแม่ไม้มวยไทย ก่อนก้าวไปคว้าเหรียญทอง โอลิมปิก ปี 1996 ในกีฬามวยสากลสมัครเล่น ยอมรับว่า การจะดันมวยไทยเข้าสู่โอลิมปิกนั้น ต้องมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย และอาจจะทำให้กลิ่นอายความเป็นไทยหายไปด้วย “ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่ากติกามวยไทยที่จะใช้ในโอลิมปิกเป็นเช่นไร เพราะกีฬานี้หายไปจากการแข่งขันนานาชาติค่อนข้างนาน แต่โดยรวมเชื่อว่าจะไม่สามารถใช้อาวุธมวยไทยได้ครบ และคงต้องมีการเปลี่ยนชื่อด้วย ดังนั้น จึงต้องคิดว่าเราต้องการนำเสนอมวยไทยในแบบเดิมๆ ของเรา คือ ให้อยู่แต่ในประเทศไทย ให้คนที่อยากเรียน อยากรู้ มาศึกษาที่นี่ หรือทำให้ทั่วโลกเห็นมวยไทยแต่ไม่มีกลิ่นอายความเป็นไทยหลงเหลืออยู่”

ขณะที่ ขาวผ่อง สิทธิชูชัย หรือ ทวี อัมพรมหา นักมวยชาวไทยคนแรกที่ได้เหรียญเงินจากการแข่งขันชกมวยในโอลิมปิก ครั้งที่ 23 ยืนยันว่า อยากให้มวยไทยถูกบรรจุในโอลิมปิก เพื่อให้คนไทยมีโอกาสคว้าเหรียญเป็นกอบเป็นกำในการแข่งขัน “ผมมองว่า การเปลี่ยนชื่อ หรือการไม่สวมมงคลที่หัว ไม่ได้ทำให้เอกลักษณ์ของมวยไทยลดลง เพราะรูปแบบการชกยังคงเดิมที่เน้น หมัด เท้า เข่า ศอก ซึ่งทั่วโลกมีแค่เราอยู่แล้ว ยกตัวอย่างเหมือนแมว ไม่ว่าจะเป็นแมวขาว หรือแมวดำ แต่ถ้าจับหนูได้ มันก็ยังเป็นแมว ฉะนั้น หากมีกีฬานี้บรรจุในโอลิมปิก โอกาสในการคว้าเหรียญรางวัลของเราจะเพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นสิ่งที่เราถนัด ด้วยเหตุนี้ทุกฝ่ายจึงควรช่วยผลักดันให้สามารถเป็นขึ้นได้จริง”

ไม่เว้นแม้แต่ บัวขาว บัญชาเมฆ หรือ สมบัติ บัญชาเมฆ ยอดนักชกขวัญใจคนไทย ก็อยากเห็นมวยไทยบรรจุในกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ เพื่อให้เป็นการพัฒนามวยไทยในประเทศให้ก้าวหน้า “ผมมองว่า การที่มวยไทยไปโอลิมปิกจะส่งผลดี เพราะเราจะได้พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ การที่มวยไทยชกกันแค่ในประเทศ กติกาไม่กว้างขวาง มีไม่กี่ชาติที่รู้จักและเข้าใจการชกบนเวทีจริงๆ ที่ให้เราอยู่กับที่ แต่หากเข้าบรรจุในโอลิมปิกก็จะได้เห็นนักมวยรุ่นใหม่ขึ้นมาสร้างชื่อ ไม่ใช่แค่ชกตามเวทีมวยไทยในประเทศ หากในอนาคตมีนักมวยไทยไปสร้างชื่อระดับโลกเพิ่มขึ้นมา กีฬาชนิดนี้ก็จะเป็นที่สนใจมากขึ้นอย่างแน่นอน”
เจริญทอง ไม่เห็นด้วยกับการถูกตัดชื่อ