เอเยนซี - อาจมีหลายคนไม่ประทับใจเส้นทางสู่แชมป์ ยูโร 2016 ของ โปรตุเกส กระนั้นก็ตาม เรื่องราวนี้จะต้องถูกนำมาพูดถึงอีกอย่างแน่นอน เฉกเช่นหลายชาติครั้งอดีต ขณะที่ ฝรั่งเศส แม้จะต้องผิดหวัง แต่นักเตะเจเนอเรชันนี้ก็ถือว่ามีอนาคตที่สดใสรอยู่
เกมนัดชิงที่ สต๊าด เดอ ฟรองซ์ เมืองแซงต์-เดนีส เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เทพีแห่งโชคเหมือนจะไม่เข้าข้าง โปรตุเกส หลังคีย์แมนแนวรุกอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด ได้รับบาดเจ็บหัวเข่าเล่นต่อไม่ไหวตั้งแต่นาที 25 ทว่า ฝรั่งเศส ก็เดินเกมแบบกล้า ๆ กลัว ๆ ทำให้ 90 นาที เสมอกัน 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษก่อนที่ เอแดร์ ดาวยิงตัวสำรองจาก ลีลล์ ลงมาซัดไกลนาที 109 เป็นประตูชัยส่งทัพ “ฝอยทอง” เฉือน 1-0 ได้แชมป์ ยูโร ครั้งแรก และถือเป็นแชมป์ระดับเมเจอร์ถ้วยแรกในประวัติศาสตร์ชาติด้วย
เส้นทางของ โปรตุเกส ก่อนจะได้แชมป์ ยูโร หนนี้คว้าชัยใน 90 นาที แค่เกมเดียวคือ รอบรองชนะเลิศที่ดับซ่า เวลส์ 2-0 นอกนั้นรอบแบ่งกลุ่มเสมอ 3 นัดรวด จากนั้นรอบน็อกเอาต์ก็ชนะต่อเวลากับดวลจุดโทษ ซึ่งคงต้องถูกบันทึกเอาไว้เป็นบทหนึ่งของประวัติศาสตร์เช่นเดียวกับ เดนมาร์ก เมื่อปี 1992 กับ กรีซ เมื่อปี 2004
ดังที่กล่าวไปแล้ว โปรตุเกส จึงถูกครหาว่า “ugly win” กระนั้นก็ตาม เฟอร์นานโด ซานโตส กุนซือของทีมเผยหลังเกมว่า “ระดับ โรนัลโด จะยิงประตูที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ สิ่งที่ผมจะบอกก็คือเราเล่นเป็นทีมและคว้าแชมป์ในฐานะที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน คุณอยากเล่นให้สวยงามแล้วกลับบ้านก่อนหรือเล่นแบบไม่บันเทิงเริงใจแล้วได้อยู่ที่นี่ต่อจนจบ แน่นอนผมเลือกขอเล่นแบบที่ใครหลายคนไม่ค่อยปลื้มแล้วกัน”
ส่วน โรนัลโด นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี หรือ “บัลลงดอร์' 3 สมัย ถึงกับร่ำไห้ หลังจากรอคอยแชมป์แรกระดับชาติมานานนับตั้งแต่ปี 2004 ครั้งอายุ 19 ปี ที่อยู่ในนัดชิงที่แพ้ กรีซ 0-1 โดยยกให้เป็นวันที่ดีที่สุดในชีวิต ซึ่งแข้งวัย 31 ปี เผยว่า “วันนี้ผมทั้งเศร้าและดีใจ แต่สามารถบอกได้เลยว่าเป็นหนึ่งในช่วงชีวิตที่มีความสุขที่สุดก็ว่าได้”
โรนัลโด ซัดไปทั้งสิ้น 3 ประตู โดย 2 ลูกนั้นสำคัญไม่น้อย คือ เกมนัดสุดท้ายกลุ่ม เอฟ ที่เสมอ ฮังการี 3-3 ทำให้เข้ารอบน็อกเอาต์ในฐานะหนึ่งในทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุดจากทั้งหมด 6 กลุ่ม อีกลูกมาจากรอบตัดเชือกที่ชนะ เวลส์ 2-0 และแน่นอนว่า แชมป์ ยูโร จะส่งให้มีลุ้นคว้า “บอลทอง” ปี 2016 จากผลงานระดับสโมสรที่พา รีล มาดริด ได้แชมป์ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก โดยเหนือกว่า ลิโอเนล เมสซี คู่ปรับสโมสร บาร์เซโลนา ที่ไม่เคยได้แชมป์ระดับชาติกับ อาร์เจนตินา ล่าสุด ก็แพ้นัดชิง “โคปา อเมริกา เซนเตนาริโอ”
ยังมีแข้ง โปรตุเกส คนอื่น ๆ อีกที่สมควรได้รับคำชม อาทิ เปเป้ กองหลังเจ้าของ แมน ออฟ เดอะ แมตช์ นัดชิง, เรนาโต ซานเชซ มิดฟิลด์วัย 18 ปี ที่ได้ดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ นอกจากนี้ ก็ รุย ปาทริซิโอ มือกาวจอมหนึบและ 2 ตัวเก๋าแนวรุกอย่าง หลุยส์ นานี กับ ริคาร์โด ควาเรสมา
ฝรั่งเศส มักมีสถิติที่ดีในการเป็นเจ้าภาพจากแชมป์ ยูโร ปี 1984 รวมถึงแชมป์โลกปี 1998 กระนั้นก็ตาม ดิดิเยร์ เดส์ชองป์ส กุนซือ “ตราไก่” ที่มีสัญญาจนถึง เวิลด์ คัพ ปี 2018 เชื่อว่า ความผิดหวังนี้ไม่สามารถหยุดยั้งทีมได้ “2 ปีก่อนเราเข้ารอบ 8 ทีมฟุตบอลโลก ส่วนวันนี้เข้ารอบชิง แสดงให้เห็นว่าผู้เล่นดาวรุ่งทุกคนมีพัฒนาการที่ดีขึ้น แม้วันนี้จะไม่ได้รางวัลตอบแทน ทว่ามีแนวโน้มที่ดีหลายอย่าง ซึ่งหวังว่าจะมีอนาคตที่น่าตื่นเต้นรออยู่”
สำหรับ อองตวน กรีซมันน์ แนวรุก แอตเลติโก มาดริด คว้าดาวซัลโว ยูโร 2016 ไปครองจากผลงานซัดไปทั้งสิ้น 6 ประตู โดยปัจจุบันวัย 25 ปี ยังถือเป็นแกนหลักของทีมเช่นเดียวกับอีกหลายคนทั้ง คิงส์ลีย์ โคมอง กับ อองโตนีย์ มาร์กซิอาล 2 ตัวริมเส้นที่อายุ 20 ปี ทั้งคู่ รวมถึงกองหลัง ซามูเอล อูมตีตี ที่เพิ่งย้ายไปอยู่กับ บาร์เซโลนา วัยแค่ 22 ปี แต่แย่งตัวจริงจาก เอดิล รามี ยังมีที่ไม่ได้มา ยูโร หนนี้อย่าง มามาดู ซาโก กับ ราฟาเอล วาราน รวมถึง พอล ป๊อกบา ว่าที่มิดฟิลด์ค่าตัวพันล้านวัย 23 ปี เรียกได้ว่าเป็นชุดนักเตะที่มีอนาคตสดใส
กรีซมันน์ กล่าวว่า “นักเตะ ฝรั่งเศส ชุดนี้มีอนาคตที่ยิ่งใหญ่รออยู่ ทั้งที่เราควรได้แชมป์ ยูโร ถือเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่ฟุตบอลก็แบบนี้บางครั้งก็ให้อะไรคุณมากมายทว่าก็พรากหลายอย่างไปเหมือนกัน ทว่าทุกคนจะกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมคัดฟุตบอลโลก”
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *