คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
ปลายเดือนนี้ แฟนๆ กีฬาศิลปะการต่อสู้แบบผสม คงตั้งตารอรายการต่อสู้ระดับอาชีพรายการใหญ่ของเอเชียที่เตรียมระเบิดขึ้นในเมืองไทยเราเป็นครั้งแรก สำหรับรายการ One Fighting Championship “Kingdom of Champions” หลังจากมีการเปิดตัวกันไปเมื่อหลายเดือนก่อน แล้วก็มีข่าวว่าอาจติดขัดเงื่อนไขบางประการ แต่ในที่สุดรายการนี้เตรียมระเบิดขึ้นอย่างแน่นอนในวันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคมนี้ที่ อิมแพ็คอารีน่า เมืองทอง
โดยทาง One FC ประกบคู่หวังสร้างกระแสในเมืองไทยเต็มที่ คู่เอกเป็นการป้องกันเข็มขัดแชมป์ One FC ในรุ่นสตรอว์เวท ที่ยอดนักสู้ไทย “เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค” เป็นผู้ครอบครองอยู่ เตรียมขึ้นป้องกันตำแหน่งเป็นครั้งแรกกับตัวอันตรายจากญี่ปุ่น โยชิตากะ ไนโตะ เจ้าของฉายา “โนบิตะ” ที่มีสถิติชนะรวด 10 ครั้งในการขึ้นสู้ MMA ระดับอาชีพ ณ จุดนี้นักสู้ไทยที่รู้จักกันในนาม “ครูรงค์” ก็ถือว่าประสบการณ์เป็นรอง เพราะเพิ่งขึ้นสู้มา 6 ไฟต์เท่านั้นแม้จะชนะรวดเหมือนกัน แถมอายุปาเข้าไป 37 ปีแล้วในขณะที่ผู้ท้าชิงเพิ่ง 32 แต่ความแข็งแกร่งที่ผ่านสังเวียนมวยไทยมาอย่างโชกโชน พร้อมทั้งการเตรียมตัวอย่างดีโดย “ครูรงค์” นั้นมีฝีมือในเกมการต่อสู้บนพื้นไม่เป็นรองใคร แบบนี้ไฟต์นี้น่าจะสนุกแน่นอน
คู่เอกร่วม เป็นการป้องกันเข็มขัดในรุ่นเฟเธอร์เวท โดยเจ้าของแชมป์เป็นนักสู้ไร้พ่ายชาวรัสเซียวัย 31 ปี มารัต กูฟารอฟ เจ้าของฉายา “ไอ้งูเห่า” สถิติชนะรวด 13 ไฟต์ พบกับจอมเก๋าวัย 38 ชาวญี่ปุ่น คาซูโนริ โยโกตะ ผ่านการต่อสู้มาแล้วถึง 33 ไฟต์ ชนะ 25 แพ้ 5 เสมออีก 3 ไฟต์ แต่จะเป็นไฟต์ประเดิมในสังกัด One FC คู่นี้ถือเป็นคู่ค้ำที่น่าจะสู้กันสนุกเหมือนกัน
นอกจากนั้นในรายการ ทาง One FC ยังจัดนักสู้ชาวไทยไว้เต็มเหยียด “ไมค์ ไทสัน เมืองไทย” ยอดสนั่น ศิษย์ยอดธง อดีตแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์เฟเธอร์เวทของสมาคมมวยโลก WBA ที่หันมาเอาดีทาง MMA เคยขึ้นสู้ในรายการของ One FC มา 2 ไฟต์ ไฟต์แรกชนะสวยงามแต่ไฟต์สองพลาดท่าพ่ายนักสู้จีนโดนจับล็อกพ่ายไป ทำให้นักสู้จอมเก๋าชาวไทยรู้ตัวว่ายังต้องฝึกเกมบนพื้นอีกเยอะ เลยหายหน้าหายตาไป 3-4 ปี ตอนนี้มีรายการมาจัดถึงเมืองไทยก็ต้องขอขึ้นเคาะสนิมกันหน่อย จะฟัดกับนักสู้หนุ่มจากเขมร สุดท้ายจะเคาะสนิมได้หรือจะกลายเป็นบันไดก็ต้องตามเชียร์
ยังมีนักสู้ MMA ดาวรุ่งชาวไทยอย่าง “ครูตอง” ชนนภัทร วิรัชชัย นักสู้หนึ่งเดียวของไทยที่ไม่ได้มีพื้นฐานมาจากนักมวยไทยอาชีพ คราวนี้ต้องเลื่อนรุ่นขึ้นไปสู้ในรุ่นไลท์เวท ก็ต้องดูว่าจะเสียเปรียบรูปร่างหรือไม่ เจอกับนักสู้พม่าที่มาสายมวยคาดเชือก ความแข็งแกร่งและอึดเราน่าจะเป็นรอง แต่เกมบนพื้นเราน่าจะมีประสบการณ์มากกว่า ต้องดูว่าทีมงานจะวางแผนยังไงเพื่อเพิ่มสถิติไปอีกจากที่สู้มา 5 ไฟต์ ชนะ 4 แพ้ 1
แถมด้วยนักสู้ไทยอีกหลายรายเต็มเหยียด 9 คู่ด้วยกัน แฟนๆ กีฬาศิลปะการต่อสู้แบบผสมไม่น่าพลาดด้วยประการทั้งปวง ตอนนี้ซื้อบัตรได้แล้ว แล้วพอถึงวันไปช่วยกันให้กำลังใจนักสู้ไทยและผู้จัด จะได้พิสูจน์กันไปว่าศิลปะการต่อสู้แบบผสมไม่ได้ป่าเถื่อนโหดร้ายอย่างภาพที่เห็น แต่เป็นเกมการต่อสู้ที่ครบเครื่องในทุกสถานการณ์จริงๆ มากกว่า เราจะได้มีโอกาสเห็นรายการศิลปะการต่อสู้แบบผสมระดับอาชีพมาระเบิดศึกในเมืองไทยกันอีกหลายๆ รายการ
ปลายเดือนนี้ แฟนๆ กีฬาศิลปะการต่อสู้แบบผสม คงตั้งตารอรายการต่อสู้ระดับอาชีพรายการใหญ่ของเอเชียที่เตรียมระเบิดขึ้นในเมืองไทยเราเป็นครั้งแรก สำหรับรายการ One Fighting Championship “Kingdom of Champions” หลังจากมีการเปิดตัวกันไปเมื่อหลายเดือนก่อน แล้วก็มีข่าวว่าอาจติดขัดเงื่อนไขบางประการ แต่ในที่สุดรายการนี้เตรียมระเบิดขึ้นอย่างแน่นอนในวันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคมนี้ที่ อิมแพ็คอารีน่า เมืองทอง
โดยทาง One FC ประกบคู่หวังสร้างกระแสในเมืองไทยเต็มที่ คู่เอกเป็นการป้องกันเข็มขัดแชมป์ One FC ในรุ่นสตรอว์เวท ที่ยอดนักสู้ไทย “เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค” เป็นผู้ครอบครองอยู่ เตรียมขึ้นป้องกันตำแหน่งเป็นครั้งแรกกับตัวอันตรายจากญี่ปุ่น โยชิตากะ ไนโตะ เจ้าของฉายา “โนบิตะ” ที่มีสถิติชนะรวด 10 ครั้งในการขึ้นสู้ MMA ระดับอาชีพ ณ จุดนี้นักสู้ไทยที่รู้จักกันในนาม “ครูรงค์” ก็ถือว่าประสบการณ์เป็นรอง เพราะเพิ่งขึ้นสู้มา 6 ไฟต์เท่านั้นแม้จะชนะรวดเหมือนกัน แถมอายุปาเข้าไป 37 ปีแล้วในขณะที่ผู้ท้าชิงเพิ่ง 32 แต่ความแข็งแกร่งที่ผ่านสังเวียนมวยไทยมาอย่างโชกโชน พร้อมทั้งการเตรียมตัวอย่างดีโดย “ครูรงค์” นั้นมีฝีมือในเกมการต่อสู้บนพื้นไม่เป็นรองใคร แบบนี้ไฟต์นี้น่าจะสนุกแน่นอน
คู่เอกร่วม เป็นการป้องกันเข็มขัดในรุ่นเฟเธอร์เวท โดยเจ้าของแชมป์เป็นนักสู้ไร้พ่ายชาวรัสเซียวัย 31 ปี มารัต กูฟารอฟ เจ้าของฉายา “ไอ้งูเห่า” สถิติชนะรวด 13 ไฟต์ พบกับจอมเก๋าวัย 38 ชาวญี่ปุ่น คาซูโนริ โยโกตะ ผ่านการต่อสู้มาแล้วถึง 33 ไฟต์ ชนะ 25 แพ้ 5 เสมออีก 3 ไฟต์ แต่จะเป็นไฟต์ประเดิมในสังกัด One FC คู่นี้ถือเป็นคู่ค้ำที่น่าจะสู้กันสนุกเหมือนกัน
นอกจากนั้นในรายการ ทาง One FC ยังจัดนักสู้ชาวไทยไว้เต็มเหยียด “ไมค์ ไทสัน เมืองไทย” ยอดสนั่น ศิษย์ยอดธง อดีตแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์เฟเธอร์เวทของสมาคมมวยโลก WBA ที่หันมาเอาดีทาง MMA เคยขึ้นสู้ในรายการของ One FC มา 2 ไฟต์ ไฟต์แรกชนะสวยงามแต่ไฟต์สองพลาดท่าพ่ายนักสู้จีนโดนจับล็อกพ่ายไป ทำให้นักสู้จอมเก๋าชาวไทยรู้ตัวว่ายังต้องฝึกเกมบนพื้นอีกเยอะ เลยหายหน้าหายตาไป 3-4 ปี ตอนนี้มีรายการมาจัดถึงเมืองไทยก็ต้องขอขึ้นเคาะสนิมกันหน่อย จะฟัดกับนักสู้หนุ่มจากเขมร สุดท้ายจะเคาะสนิมได้หรือจะกลายเป็นบันไดก็ต้องตามเชียร์
ยังมีนักสู้ MMA ดาวรุ่งชาวไทยอย่าง “ครูตอง” ชนนภัทร วิรัชชัย นักสู้หนึ่งเดียวของไทยที่ไม่ได้มีพื้นฐานมาจากนักมวยไทยอาชีพ คราวนี้ต้องเลื่อนรุ่นขึ้นไปสู้ในรุ่นไลท์เวท ก็ต้องดูว่าจะเสียเปรียบรูปร่างหรือไม่ เจอกับนักสู้พม่าที่มาสายมวยคาดเชือก ความแข็งแกร่งและอึดเราน่าจะเป็นรอง แต่เกมบนพื้นเราน่าจะมีประสบการณ์มากกว่า ต้องดูว่าทีมงานจะวางแผนยังไงเพื่อเพิ่มสถิติไปอีกจากที่สู้มา 5 ไฟต์ ชนะ 4 แพ้ 1
แถมด้วยนักสู้ไทยอีกหลายรายเต็มเหยียด 9 คู่ด้วยกัน แฟนๆ กีฬาศิลปะการต่อสู้แบบผสมไม่น่าพลาดด้วยประการทั้งปวง ตอนนี้ซื้อบัตรได้แล้ว แล้วพอถึงวันไปช่วยกันให้กำลังใจนักสู้ไทยและผู้จัด จะได้พิสูจน์กันไปว่าศิลปะการต่อสู้แบบผสมไม่ได้ป่าเถื่อนโหดร้ายอย่างภาพที่เห็น แต่เป็นเกมการต่อสู้ที่ครบเครื่องในทุกสถานการณ์จริงๆ มากกว่า เราจะได้มีโอกาสเห็นรายการศิลปะการต่อสู้แบบผสมระดับอาชีพมาระเบิดศึกในเมืองไทยกันอีกหลายๆ รายการ