ศึก ยูโร 2016 ที่มีทั้งหมด 24 ชาติ ร่วมชิงชัยรอบสุดท้าย ได้ต้อนรับ “น้องใหม่” ที่มีถึง 5 ชาติหนึ่งในนั้นคือ “มังกรแดง” เวลส์ ที่แม้จะไม่มีประสบการณ์อีเวนต์ระดับนานาชาติมากนัก แต่อาจจะสร้างเซอร์ไพรส์ก็เป็นได้ โดยถูกวางให้อยู่กลุ่ม บี ร่วมกับ อังกฤษ, รัสเซีย และ สโลวาเกีย ซึ่งจากนี้คือ 5 เรื่องราวที่น่าสนใจเผื่อใครจะเชียร์ชาติที่แลดูมีองค์ประกอบที่เปี่ยมเสน่ห์เหลือเกิน
ทีเด็ดจาก “เบล” - เจ้าของแข้งค่าตัวสถิติโลก 86 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,300 ล้านบาท) คือ อาวุธร้ายแรงหรือความหวังสูงสุดของ เวลส์ โดย แกเร็ธ เบล แนวรุกจากค่าย รีล มาดริด ยิง 11 ประตูรอบคัดเลือก นอกจากนี้ ผู้เล่นวัย 26 ปี ยังสามารถเล่นได้หลากหลายในระบบ 3-5-1-1 ที่รอจังหวะสวนกลับด้วยความเร็วอันจัดจ้านและยิงคมกริบด้วยเท้าซ้ายสุดฉมัง รวมถึงฟรีคิกที่หวังผลได้ทั้งระยะใกล้และไกล อดีตแข้ง เซาแธมป์ตัน กับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ คงตั้งใจกับศึกนี้มากเป็นพิเศษ เนื่องจากจะได้พิสูจน์ฝีเท้าเทียบชั้นตำนานรุ่นพี่อย่าง ไรอัน กิกส์, เอียน รัช และ มาร์ค ฮิวจ์ส
การรอคอยที่สิ้นสุดลง - เวลส์ ไม่เคยเล่น ยูโร รอบสุดท้ายมาก่อน ส่วน เวิลด์ คัพ แค่ครั้งเดียวปี 1958 ที่ประเทศสวีเดน หรือเมื่อ 58 ปีก่อน โดยครั้งนั้นสามารถเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศก่อนจะแพ้ บราซิล 0-1 หลังกรุยทางจากรอบแบ่งกลุ่มที่เสมอ 3 นัดรวด แกนหลักตอนนั้นคือ จอห์น ชาร์ลส์ กองหน้า ยูเวนตุส แต่โชคร้ายบาดเจ็บจึงไม่ได้ปะทะฝีเท้ากับ เปเล กองหน้าแซมบ้าที่ตอนนั้นวัยแค่ 17 ปีเท่านั้น ซึ่งก็ยิงประตูแรกในบอลโลกแจ้งเกิดดับ “มังกรแดง” จากนั้นวืด เวิลด์ คัพ อีก 2 ครั้งช่วงทศวรรษ 80 เนื่องจากรอบคัดเลือกประตูได้เสียเป็นรองอย่างน่าเสียดาย
3 กองหลัง - คริส โคลแมน กุนซือทีมชาติเวลส์ เน้นใช้บริการเซนเตอร์ฮาล์ฟ 3 คนรอบคัดเลือก ยูโร 2016 โดยมีแกนหลัก คือ แอชลีย์ วิลเลียมส์ ของ สวอนซี ซิตี ปรากฏว่า คลีนชีต 7 นัดจาก 10 นัด โดยเสียไปแค่ 4 ประตูน้อยกว่าแชมป์กลุ่มคือ เบลเยียม เสียอีก ก่อนจะทดลองปรับใช้แบ็กโฟร์ในเกมอุ่นเรื่อง ซึ่งไม่เวิร์กเสมอ ไอร์แลนด์เหนือ 1-1 กับแพ้ ยูเครน 0-1
ดินแดนแห่งเสียงเพลง - เวลส์ รู้จักกันอีกชื่อคือ “The Land of Song” ซึ่งสำหรับ ยูโร 2016 ก็ได้วงบ้านเกิดชื่อก้องโลกอย่าง “แมนิค สตรีท พริเชอร์ส” (Manic Street Preachers) แต่งเพลงปลุกใจที่มีชื่อว่า “Together Stronger (C'mon Wales)” โดยนำชื่อนักเตะมาเรียงร้อยกัน ส่วนเนื้อหาก็คือเริ่มต้นจากความผิดหวังก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ได้สำเร็จ
มรดกตกทอดจาก “สปีด” - แกรี สปีด อดีตกองกลาง ลีดส์ ยูไนเต็ด, นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ได้รับการยกย่องว่าเป็นจุดเริ่มต้นของทีมชุดนี้ โดยเข้ามาเป็นโค้ช เวลส์ เมื่อปี 2010 ทำให้ทีมมีอันดับฟีฟาแรงกิงสูงถึงที่ 8 ก่อนจะมีข่าวช็อกโลกฆ่าตัวตายเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2011 ด้วยวัย 42 ปีเรียกได้ว่าเป็นความโศกเศร้าของคนทั้งประเทศและในวงการลูกหนัง
