เอเยนซี - เหลือเวลาราว 4 เดือนเศษมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ โอลิมปิก เกมส์ ครั้งที่ 31 ก็จะเปิดฉาก ณ เมืองริโอ เดอ จาเนโร ประเทศ บราซิล โดยเวลานี้บรรดานักกีฬาชาติต่างๆ กำลังซ้อมเตรียมตัวกันอย่างเต็มที่เพื่อคว้าเหรียญรางวัลประกาศศักดา ทว่าย้อนมาดูฝั่งของทางเจ้าภาพอาการยังน่าเป็นห่วง เพราะมองไปเห็นมีแต่ปัญหารอบด้าน สำนักข่าว “เดอะ สตาร์” เลยนำมากางให้ดูว่าตอนนี้กำลังรับมือกับอะไรบ้าง
สภาพเศรษฐกิจ
บราซิล ช่วงนี้กำลังเผชิญหน้ากับภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง ข้าวของราคาแพงทุกสิ่งอย่าง สวนทางกับเมื่อปี 2009 ตอนได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพ ที่ตอนนั้นประเทศกำลังมีเศรษฐกิจรุ่งเรืองเป็นอย่างสูง ประกาศสร้างสนามกีฬาและปรับปรุงเมืองด้วยเงินจำนวนไม่อั้นจากทางรัฐบาลในยุคการดูแลของ หลุยส์ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา แต่แล้วการทุ่มทุนสร้างเอางบประมาณไปลงกับกีฬาหมด ตัดงบเรื่องสาธารณูปโภคจนลืมสอดส่องดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศ แม้แต่ตอนนี้ก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้ ล่าสุดก็หั่ดงบการจัดแข่งขันไปบางส่วนแล้ว ดังนั้นอาจเห็นการติดขัดในแง่ของการบริการและดูแลเหล่าผู้มาเยือนทั้งหลาย
การเมืองในประเทศ
แย่ยิ่งกว่าด้านเศรษฐกิจ เพราะสถานการณ์ปัจจุบันประชาชนต่างลุกฮือออกมาเดินขบวนประท้วงบริเวณทำเนียบและรัฐสภา กดดันให้ ดิลมา รูสเซฟฟ์ ประธานาธิบดีหญิงคนปัจจุบัน ลาออกจากตำแหน่งเนื่องจากข่าวคราวการคอร์รัปชันภายในที่มีเธอและพรรคแรงงานเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเรื่องคดีติดสินบนกับบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ ร้อนถึงเจ้าหน้าที่ต้องเข้าควบคุมสถานการณ์ทั้งยับยั้งการชุมนุมและยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ประท้วง แน่นอนว่าจากภาพข่าวที่ออกมายังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเรื่องราวจะจบลงที่ตรงใด
ทั้งนี้ หากยืดเยื้อและหาทางออกมาไม่ได้ก็จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความเชื่อมั่นของชาติต่างๆ แม้ว่าหน่วยปราบปรามการทุจริตได้ดำเนินการกวาดล้างคดีอื้อฉาวภายใต้ปฏิบัติการณ์ คาร์ วอช (Car Wash) เมื่อปีที่ผ่านมา แต่ รูสเซฟฟ์ ก็ยังคงนั่งรักษาเก้าอี้อยู่เหมือนเดิม ขณะเดียวกันหากประธานาธิบดีหญิงคนดังกล่าวลาออก บราซิล ก็จะขาดเสาหลักในการดูแลประเทศในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญเช่นเดียวกัน
วิกฤติการเงิน
ต่อจากข้อแรก เมื่อ 8 เดือนที่ผ่านมา ฝ่ายจัดแข่งขันกีฬาห้าห่วงบนดินแดนแซมบ้า เริ่มมีการพูดคุยถึงการตัดงบประมาณที่จะใช้ในงาน 30 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้มีข่าวว่าบรรดานักกีฬาทั่วโลกที่จะเข้าพักในหมู่บ้านจะต้องจ่ายค่าไฟสำหรับเครื่องปรับอากาศ หากไม่อยากนอนกันแบบร้อนรุ่มทั้งคืน และไม่มีทีวีให้ดูในห้องพัก จากนั้นผ่านมา 2 เดือนก็ลดจำนวนอาสาสมัครจาก 70,000 เหลือ 50,000 คน, จำนวนรถรับส่งสาธารณะจาก 5,000 เหลือแค่ 4,000 เล่นเอาตัวแทนนักกีฬาจากชาติต่างๆเห็นข่าวถึงกับกุมขมับเพราะเจ้าภาพเล่นตัดสิ่งอำนวยความสะดวกออกไปเยอะจนเข้าขั้นขี้เหนียว
ไวรัสซิกาและเชื้อต่างๆ
ถึงแม้ทุกวันนี้ข่าวคราวเรื่องไวรัสซิกา จะเริ่มจางหายไปจากหน้าสื่อแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะถูกทำลายจนสูญพันธุ์เพราะยังมีการระบาดเกิดขึ้นอยู่ไม่หมดไป ซึ่งทางเจ้าภาพก็ได้เตรียมการป้องกันด้วยวิธีแบบ “ชาวบ้าน” ด้วยการแจกมุ้งกันยุงให้นักกีฬาเอาไปกางในห้องพัก สื่อให้เห็นว่ายังไม่สามารถควบคุมเรื่องนี้ได้ นอกจากนี้ยังมีการระบาดของโรคไข้เหลืองผสมอยู่ด้วย การช่วยเหลือตัวเองที่ดีที่สุดคือฉีดวัคซีนป้องกันก่อนไปเพียงอย่างเดียว
เท่านั้นไม่พอ เรื่องของมลพิษทางน้ำเนื่องจากการจัดการน้ำเสียที่ย่ำแย่ของทางหน่วยงานผู้เกี่ยวข้อง สภาพชายหาดที่เคยน่าลงไปเล่นก็กลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคแทน ที่แย่กว่านั้นคือเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีการพบชิ้นส่วนแขนของมนุษย์ลอยมาตามน้ำอีกต่างหาก เรียกว่าใครจะไปลุยโอลิมปิกครั้งนี้ไม่ว่าทั้งในฐานะนักกีฬาหรือนักท่องเที่ยวก็ควรดูแลตัวเองให้ดีที่สุดจะดีกว่ารอความช่วยเหลือจากเจ้าภาพ
ทั้งนี้เหลือเวลาอีกพอสมควรให้ บราซิล ได้จัดการแก้ไขปัญหาของตัวเองจนกว่าที่ศึกกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ 4 ปีมีครั้ง จะเริ่มขึ้นในวันที่ 5 สิงหาคม นี้ แต่สุดท้ายแล้ว หากไม่สามารถคลี่คลายวิกฤติภายในประเทศได้ก็คงต้องจัดแข่งกันไปแบบตามมีตามเกิด เพราะเดินหน้ากันมาขนาดนี้จะให้ถอนตัวยกเลิกก็คงสายไปแล้ว