เอเอฟพี - เมื่อคืนวานนี้ (17 มี.ค.) ตำรวจปราบจลาจลบราซิลยิงแก๊สน้ำตา และกระสุนส่องสว่างเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วงกลางกรุงบราซิเลียที่โกรธแค้น ต้องการขับ ดิลมา รูสเซฟฟ์ ให้ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีบราซิล
ในกรุงบราซีเลียกลุ่มผู้ประท้วงจำนวนมากออกมาประท้วงบริเวณที่ด้านหน้าของทำเนียบประธานาธิบดีบราซิล และรัฐสภา จากเหตุไม่พอใจในปัญหาคอร์รัปชันฉาวที่เกี่ยวโยงถึงตัวรูสเซฟฟ์และพรรคแรงงานบราซิล PT ของเธอ
และทำให้ตำรวจปราบจลาจลบราซิลต้องตัดสินใจยิงแก๊สน้ำตา และกระสุนส่องสว่างเพื่อหยุดการลุกคืบของผู้ประท้วง
และในเมืองเซาเปาลู ศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศซึ่งเป็นฐานที่มั่นของฝ่ายค้าน มีประชาชนจำนวนมากออกมาประท้วงบริเวณถนนเส้นหลัก เปาลิสตา (Paulista)
“พรรค PT ออกไป ลาออกไปซะ!” ผู้ประท้วงร้องตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้น เอเอฟพีรายงานว่า มีกลุ่มผู้ประท้วงจำนวน 60 คนเตรียมพร้อมที่จะปักหลักพักค้างในเต็นท์ที่จัดเตรียมไว้บริเวณใกล้กับสำนักงานใหญ่ของสหพันธ์อุตสาหกรรม FIESP ซึ่งต่อต้านผู้นำหญิงบราซิล
โดยหนึ่งในผู้ประท้วงชาวบราซิลวัย 44 ปี คริสเตียน กาเวา (Cristiane Galvao) ได้กล่าวให้ความเห็นว่า “พวกเราจะประท้วงให้เหมือนที่เกิดขึ้นในยูเครน จะมีคนมาเพิ่มมากขึ้นในวันพรุ่งนี้” และยังกล่าวต่อว่า “จะไม่เลิกการประท้วงหาก ดิลมายังไม่ยอมลาออก”
ทั้งนี้ การประท้วงเกิดขึ้น 1 วันหลังจากความวุ่นวายในการเมืองบราซิล เมื่อบรรดาผู้แทนราษฏรบราซิลได้เริ่มกระบวนการยื่นถอดถอนรูสเซฟฟ์ออกจากตำแหน่งอีกครั้ง และศาลบราซิลได้ออกคำพิพากษาไม่ให้ผู้นำหญิงบราซิลสามารถนำอดีตประธานาธิบดีผู้อื้อฉาว ลุยซ์ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา (Luiz Inacio Lula da Silva) ในวัย 70 ปี เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าคณะประธานาธิบดี และทำให้พรรครัฐบาล PT และกลุ่มที่สนับสนุนรูสเซฟฟ์ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการจัดประท้วงต้านใน 30 เมืองทั่วประเทศ