“หมอเดี๋ยวนี้เฮียฉี่บ่อย…กลั้นไม่ค่อยอยู่เลย ต้องแอบไปยิงกระต่ายอยู่เรื่อย….อายแคดดี้มัน!” เฮียชูแอบเข้ามาปรึกษาขณะแวะซุ้มพาร์3
“น่าจะเป็นต่อมลูกหมากโตน่ะเฮีย”
“กลัวเป็นมะเร็งอย่างเดียวหมอ….เพื่อนเฮียเสร็จไปหลายรายแล้ว” นักกอล์ฟชายวัย 64 รำพึงด้วยแววตาเครียด
“อย่ากังวลเลยเฮีย เรื่องมะเร็งนี่เดี๋ยวนี้นักวิทยาศาสตร์เค้ามองมุมใหม่แล้ว…ไม่น่ากลัวเหมือนที่คิด….ทำให้มีวิธีที่จะจัดการกับมะเร็งได้อย่างถูกต้อง ไม่เป็นอันตรายกับคนไข้เหมือนแต่ก่อนที่คนมักตายก่อนมะเร็ง”
ไม่ว่าปัญหาใดๆ (ทุกข์) ถ้าเราทราบถึงสาเหตุของมัน (สมุทัย) เราก็จะสามารถหาหนทางที่จะแก้ปัญหานี้ได้ (มรรค) ปัญหานั้นก็จะหมดไป (นิโรธ) ….ปัญหาโรคมะเร็งก็เช่นกัน เมื่อเรารู้สาเหตุที่แท้จริงของมันแล้ว (ซึ่งแต่ก่อนเราไม่ทราบสาเหตุจนโทษว่าเป็นโรคของเวรกรรม) เราจึงมีวิธีใหม่ที่จะจัดการกับมันโดยตรง โดยไม่เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อผู้ป่วยเหมือนแต่ก่อน
นี่คือสิ่งที่คุณไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า จะมีผู้ใดกล่าวว่า
“มะเร็ง คือธรรมชาติของวิวัฒนาการของเซลล์ หรือการปรับตัวของเซลล์ในร่างกายคนเรา” Shalin de zane เล่าให้ฟังว่า “ไม่กี่วันมานี้ ขณะที่ผมกำลังทำงานวิจัยเกี่ยวกับวิวัฒนาการ ผมพบสาระสำคัญ คือ เซลล์ของร่างกายจะมีการปรับตัวโดยการผ่าเหล่า (Mutate)ไปเพื่อรับมือกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป เราเรียกการปรับเปลี่ยนนี้ว่า การปรับตัว (adaptation) ของเซลล์
หากผมของเรายาวขึ้น เพื่อตอบสนองต่ออากาศหนาวจัด…นั่นคือการปรับตัว และหากเซลล์ผมของเราหยุดยาว เพื่อตอบสนองต่ออากาศร้อน….นี่ก็คือการปรับตัว และเมื่อเราปรับตัวไปตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปได้สำเร็จ วิวัฒนาการจึงเกิดขึ้น เป็นเหตุเป็นผลไหมครับ? ….เน้นอีกครั้งนะครับ….เซลล์ผ่าเหล่าไปเพื่อปรับตัวตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป…มันเป็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติ
มะเร็งคือกลุ่มเซลล์ที่ผ่าเหลาไป เพราะสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นธรรมชาติ อันเนื่องมาจากการที่เลือดของเรากลายเป็นพิษเกินกว่าที่เซลล์จะมีชีวิตต่อไปได้ ถ้าหากเซลล์เหล่านั้นไม่ผ่าเหล่าไป เซลล์เหล่านั้นจะป่วยและตาย เซลล์เหล่านั้นจึงตอบสนองอย่างเป็นธรรมชาติด้วยการผ่าเหล่าเพื่อปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เป็นพิษนั้น
แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า คุณหมอทั่วโลกบอกกับเราว่า วิธีการรักษามะเร็งคือการบำบัดด้วยคีโม หรือการทำลายเซลล์มะเร็งด้วยรังสี…แต่สิ่งที่คุณหมอไม่ได้บอกเราคือ “ทำไมเซลล์มะเร็งจึงผ่าเหล่าตั้งแต่แรก?”
ปัญหาที่สำคัญและเร่งด่วนในตอนนี้ก็คือ “เมื่อมุมมองของโรคมะเร็งเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงอย่างนี้แล้ว…การรักษาจะเปลี่ยนแนวไปอย่างไร? ผู้ป่วยมะเร็งจะหวังอะไรได้บ้าง? เรามาติดตามกันในตอนหน้านะครับ!