คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
กลับมาต่อกันด้วย “ที่สุดแห่งปี” ภาค 2 ก่อนอำลาปี 2558 โดยมีอะไรเป็นสีสันให้น่าจดจำมากมาย
ช่วงใกล้ปลายปีมีไฟต์ “พลิกล็อก” ระดับอภิมหาพลิกล็อกเกิดขึ้นมากมายจนเลือกไม่ถูก ทั้งไฟต์มวยโลกรุ่นยักษ์ ที่ “ยักษ์บริติช” ไทสัน ฟิวรี ต่อยไปโวยไปก่อนเอาชนะคะแนนแชมป์ตลอดกาลอย่าง วลาดิเมียร์ คลิทช์โก ก่อนปิดท้ายด้วยการโชว์ลูกคอร้องเพลงอ้อนเมียกลางเวทีอีกต่างหาก
ไฟต์นี้ถือว่าพลิกล็อกพอสมควรเพราะ คลิทช์โกผู้น้อง นั้นไม่แพ้ใครมา 11 ปีแล้ว ส่วนฟิวรี แม้รูปร่างสูงใหญ่มีพลังหมัดน่ากลัวและสปีดหมัดเร็วใช้ได้ แต่ภาพรวมกระดูกมวยยังเป็นรอง แถมชกในเยอรมันที่ถือเป็นบ้านของ คลิทช์โก ซะอีก แต่ครบยกกรรมการกล้าๆ ออกฝั่ง ฟิวรี ก็ถือว่าน่าชื่นชม
ถัดมาเป็นการพลิกล็อกแบบกำลัง 2 ในรายการ UFC 194 เมื่อ ลุค ร็อกโฮลด์ แจกอาวุธทุกรูปแบบทั้งแบบยืนสู้และนอนสู้จน คริส ไวด์แมน แตกยับหมดสภาพพ่ายน็อกไปในยกที่ 4 ก่อนสู้ ไวด์แมน เป็นต่อด้วยชื่อชั้นที่สามารถล้ม “ไอ้แมงมุม” แอนเดอร์สัน ซิลวา ลงได้ 2 ไฟต์แบบไร้ข้อกังขา แถมสถิติไร้พ่ายมาตลอด 13 ไฟต์ แต่สุดท้ายเสร็จ ร็อกโฮลด์ แบบพลิกล็อก
ร็อกโฮลด์ กลายเป็นแชมป์ UFC รุ่นมิดเดิลเวทคนใหม่ ตามมาติดๆ ในรายการเดียวกัน “ไอ้หน้าบาก” โชเซ อัลโด แชมป์ UFC รุ่นเฟเธอร์เวทชาวบราซิล ที่ชนะรวดมาตลอดในการสู้ 10 ปีหลัง เจอหมัดเด็ดของนักสู้ชาวไอริช คอนเนอร์ แม็คเกรเกอร์ เข้าเต็มกระโดงคาง ร่วงไปพ่ายน็อกด้วยเวลาแค่ 13 วินาทีจนเป็นสถิติน็อกเร็วอีกต่างหาก ไฟต์นี้ถือว่าพลิกล็อกไม่เบา
แต่เชื่อว่าแฟนๆ คงเห็นพ้องต้องกันว่าที่สมควรกับตำแหน่ง “พลิกล็อกที่สุด” ประจำปี 2558 ก็ต้องไฟต์ที่ “อีสาวคาวบอย” รอนดา เราซีย์ โดนลูกสาวนักเทศน์อย่าง ฮอลลี โฮล์ม เตะก้านคอหลับกลางอากาศในยกที่ 4 เสียแชมป์ UFC หญิงรุ่นแบนตัมเวทจนเป็นข่าวใหญ่ไปทั่ว เพราะก่อนหน้านี้ เราซีย์ ชนะรวดในการต่อสู้ 14 ไฟต์ เก็บคู่แข่งแค่ยกแรกแทบทั้งหมด แถม 3-4 ไฟต์หลังนั้นชนะแบบเหงื่อยังไม่ทันซึมก็ว่าได้ จนเริ่มมีการ “สร้างข่าว” ว่าจะให้เจอกับนักชกไร้พ่ายอย่าง ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ด้วยซ้ำ มาไฟต์นี้ในรายการ UFC 193 โฮล์ม ไม่สนใจข่าวคราวที่ออกมา เตรียมแผนการสู้มาอย่างดีสร้างความบอบช้ำให้ “อีสาวคาวบอย” สะสมมาเรื่อยๆ ก่อนสบจังหวะเผดียงแข้งซ้ายเต็มซอกคอส่ง เราซีย์ พบกับความพ่ายแพ้แบบยับเยินและบอบช้ำพลิกล็อกที่สุด
ว่าเรื่องพลิกล็อกมาซะยาว ขอส่งท้ายด้วย ชื่นชมที่สุด เมื่อ “ไอ้ตาดุ” เดชดำรงค์ ส.อำนวยสิริโชค อดีตแชมป์มวยไทยเข็มขัดหลายเส้น หันไปเอาดีทางศิลปะการต่อสู้แบบผสม และสามารถคว้าเข็มขัดแชมป์รุ่นสตรอว์เวท ของรายการ One FC ซึ่งกำลังสร้างตัวเป็นรายการใหญ่มีมาตรฐานที่สุดของเอเชียขึ้นมาได้สำเร็จ โดย เดชดำรงค์ โชว์ฟอร์มงดงามทั้งเกมการออกอาวุธที่ถนัดอยู่แล้วจากมวยไทย และเกมบนพื้นทั้งการทุ่มการล็อก รวมทั้งการป้องกันและการดิ้นเอาตัวรอด จนคว้าแชมป์มาได้อย่างสวยงาม ที่ต้องชื่นชมก็คือความพยายามทุ่มเทฝึกฝนเกมกราวด์ไฟต์นี่แหละที่ปกติเป็นของแสลงของนักมวยไทยที่หันไปสู้ในรายการ MMA แต่ “ไอ้ตาดุ” รู้จุดอ่อนข้อนี้และฝึกซ้อมจนทำได้ดีคว้าเข็มขัดมาให้แฟนๆ MMA ได้เฮกันดังๆ
กลับมาต่อกันด้วย “ที่สุดแห่งปี” ภาค 2 ก่อนอำลาปี 2558 โดยมีอะไรเป็นสีสันให้น่าจดจำมากมาย
ช่วงใกล้ปลายปีมีไฟต์ “พลิกล็อก” ระดับอภิมหาพลิกล็อกเกิดขึ้นมากมายจนเลือกไม่ถูก ทั้งไฟต์มวยโลกรุ่นยักษ์ ที่ “ยักษ์บริติช” ไทสัน ฟิวรี ต่อยไปโวยไปก่อนเอาชนะคะแนนแชมป์ตลอดกาลอย่าง วลาดิเมียร์ คลิทช์โก ก่อนปิดท้ายด้วยการโชว์ลูกคอร้องเพลงอ้อนเมียกลางเวทีอีกต่างหาก
ไฟต์นี้ถือว่าพลิกล็อกพอสมควรเพราะ คลิทช์โกผู้น้อง นั้นไม่แพ้ใครมา 11 ปีแล้ว ส่วนฟิวรี แม้รูปร่างสูงใหญ่มีพลังหมัดน่ากลัวและสปีดหมัดเร็วใช้ได้ แต่ภาพรวมกระดูกมวยยังเป็นรอง แถมชกในเยอรมันที่ถือเป็นบ้านของ คลิทช์โก ซะอีก แต่ครบยกกรรมการกล้าๆ ออกฝั่ง ฟิวรี ก็ถือว่าน่าชื่นชม
ถัดมาเป็นการพลิกล็อกแบบกำลัง 2 ในรายการ UFC 194 เมื่อ ลุค ร็อกโฮลด์ แจกอาวุธทุกรูปแบบทั้งแบบยืนสู้และนอนสู้จน คริส ไวด์แมน แตกยับหมดสภาพพ่ายน็อกไปในยกที่ 4 ก่อนสู้ ไวด์แมน เป็นต่อด้วยชื่อชั้นที่สามารถล้ม “ไอ้แมงมุม” แอนเดอร์สัน ซิลวา ลงได้ 2 ไฟต์แบบไร้ข้อกังขา แถมสถิติไร้พ่ายมาตลอด 13 ไฟต์ แต่สุดท้ายเสร็จ ร็อกโฮลด์ แบบพลิกล็อก
ร็อกโฮลด์ กลายเป็นแชมป์ UFC รุ่นมิดเดิลเวทคนใหม่ ตามมาติดๆ ในรายการเดียวกัน “ไอ้หน้าบาก” โชเซ อัลโด แชมป์ UFC รุ่นเฟเธอร์เวทชาวบราซิล ที่ชนะรวดมาตลอดในการสู้ 10 ปีหลัง เจอหมัดเด็ดของนักสู้ชาวไอริช คอนเนอร์ แม็คเกรเกอร์ เข้าเต็มกระโดงคาง ร่วงไปพ่ายน็อกด้วยเวลาแค่ 13 วินาทีจนเป็นสถิติน็อกเร็วอีกต่างหาก ไฟต์นี้ถือว่าพลิกล็อกไม่เบา
แต่เชื่อว่าแฟนๆ คงเห็นพ้องต้องกันว่าที่สมควรกับตำแหน่ง “พลิกล็อกที่สุด” ประจำปี 2558 ก็ต้องไฟต์ที่ “อีสาวคาวบอย” รอนดา เราซีย์ โดนลูกสาวนักเทศน์อย่าง ฮอลลี โฮล์ม เตะก้านคอหลับกลางอากาศในยกที่ 4 เสียแชมป์ UFC หญิงรุ่นแบนตัมเวทจนเป็นข่าวใหญ่ไปทั่ว เพราะก่อนหน้านี้ เราซีย์ ชนะรวดในการต่อสู้ 14 ไฟต์ เก็บคู่แข่งแค่ยกแรกแทบทั้งหมด แถม 3-4 ไฟต์หลังนั้นชนะแบบเหงื่อยังไม่ทันซึมก็ว่าได้ จนเริ่มมีการ “สร้างข่าว” ว่าจะให้เจอกับนักชกไร้พ่ายอย่าง ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ด้วยซ้ำ มาไฟต์นี้ในรายการ UFC 193 โฮล์ม ไม่สนใจข่าวคราวที่ออกมา เตรียมแผนการสู้มาอย่างดีสร้างความบอบช้ำให้ “อีสาวคาวบอย” สะสมมาเรื่อยๆ ก่อนสบจังหวะเผดียงแข้งซ้ายเต็มซอกคอส่ง เราซีย์ พบกับความพ่ายแพ้แบบยับเยินและบอบช้ำพลิกล็อกที่สุด
ว่าเรื่องพลิกล็อกมาซะยาว ขอส่งท้ายด้วย ชื่นชมที่สุด เมื่อ “ไอ้ตาดุ” เดชดำรงค์ ส.อำนวยสิริโชค อดีตแชมป์มวยไทยเข็มขัดหลายเส้น หันไปเอาดีทางศิลปะการต่อสู้แบบผสม และสามารถคว้าเข็มขัดแชมป์รุ่นสตรอว์เวท ของรายการ One FC ซึ่งกำลังสร้างตัวเป็นรายการใหญ่มีมาตรฐานที่สุดของเอเชียขึ้นมาได้สำเร็จ โดย เดชดำรงค์ โชว์ฟอร์มงดงามทั้งเกมการออกอาวุธที่ถนัดอยู่แล้วจากมวยไทย และเกมบนพื้นทั้งการทุ่มการล็อก รวมทั้งการป้องกันและการดิ้นเอาตัวรอด จนคว้าแชมป์มาได้อย่างสวยงาม ที่ต้องชื่นชมก็คือความพยายามทุ่มเทฝึกฝนเกมกราวด์ไฟต์นี่แหละที่ปกติเป็นของแสลงของนักมวยไทยที่หันไปสู้ในรายการ MMA แต่ “ไอ้ตาดุ” รู้จุดอ่อนข้อนี้และฝึกซ้อมจนทำได้ดีคว้าเข็มขัดมาให้แฟนๆ MMA ได้เฮกันดังๆ
