คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
แวดวงศิลปะการต่อสู้แบบผสมช่วงหลังๆ เงียบเหงาไปเยอะ หลังจากที่ “ไอ้แมงมุม” แอนเดอร์สัน ซิลวา เสียแชมป์แถมกลับมาทวงคืนไม่ได้ หวนคืนเวทีอีกครั้งก็ถูกตรวจพบสารกระตุ้น คริส ไวด์แมน ที่คว้าแชมป์ไปแทนก็ยังสร้างบารมีให้แฟน “ติด” ไม่ได้ จอน โจนส์ สุดยอดแชมป์รุ่นใหญ่ก็มีปัญหาเรื่องยาเสพติดและคดีความจนถูกแบนไปพักใหญ่ จะหันมาปั้นรุ่นเล็กๆ อย่าง โฮเซ อัลโด หรือ ที.เจ. ดิลลาชอว์ ก็ยังไม่เปรี้ยงปร้างจริงๆ จังๆ
ทางด้านนักสู้หญิง อุตส่าห์มี “ซูเปอร์สตาร์” อย่าง “อีสาวคาวบอย” รอนดา เราซีย์ เจ้าหล่อนก็ปราบคู่ต่อสู้ชนิดเหงื่อไม่ทันซึมมาตลอด จนจะขึ้นสู้ไฟต์ไหนตอนนี้แฟนๆ ก็คุยแค่ว่า “กี่วิ” เท่านั้น ออกชื่อ “ว่าที่” คู่ต่อสู้มาแต่ละรายเรียกความสนใจไม่ได้เลย ตอนนี้โปรแกรมล่าสุดทาง UFC เตรียมไปเปิดตลาดที่ออสเตรเลีย ในรายการ UFC 193 ที่เมลเบิร์น ตอนสายๆ วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายนตามเวลาบ้านเรา รอนดา เราซีย์ เตรียมพบกับ ฮอลลี โฮล์ม แฟนๆ ก็แค่รอดูว่าจะกี่วินาทีอย่างว่า
คงเหลือ คริส “ไซบอร์ก” จุสติโน สุดยอดนักสู้หญิงชาวบราซิลรายเดียวเท่านั้นตอนนี้ ที่กระแสแฟนๆ เรียกร้องอยากให้เจอกับ รอนด้า เราซีย์ เหลือเกิน ปัญหาที่ว่า คริส ไซบอร์ก ไม่ได้สู้อยู่ในสถาบัน UFC นั้นยังเป็นเรื่องเล็ก เพราะเธอมีสัญญากับบริษัทที่เป็นบริษัทแม่ของ UFC อยู่แล้ว เรื่องสัญญาไม่น่าห่วง แต่ประเด็นที่ต้องสางกันยุ่งอยู่ก็คือเรื่องน้ำหนัก เพราะ คริส ไซบอร์ก นั้นสู้อยู่ในรุ่นเฟเธอร์เวท น้ำหนัก 145 ปอนด์ แต่น้ำหนักปกติของเธอว่ากันว่าอยู่ที่ราวๆ 165-175 ปอนด์
ส่วน รอนดา เราซีย์ ตั้งป้อมเหนียวแน่นว่าเธอจะฟัดกับ ไซบอร์ก ที่น้ำหนัก 135 ปอนด์ อันเป็นพิกัดรุ่นแบนตัมเวทที่เธอเป็นแชมป์อยู่เท่านั้น ประมาณว่าฉันยิ่งใหญ่อยู่ในน้ำหนักนี้ เธออยากล้มฉันก็ต้องมาสู้กันในน้ำหนักของฉัน ขนาดว่าน้ำหนัก “แคชเวท” หรือน้ำหนักแบบพบกันครึ่งทางที่ 140 ปอนด์ ทาง เราซีย์ ยังส่ายหน้าท่าเดียว ทางด้าน ไซบอร์ก ทีมแพทย์เคยแนะนำว่าการทำน้ำหนัก 135 ปอนด์เป็นเรื่องที่ “ไม่ดีกับสุขภาพ” อย่างแรง
แต่ล่าสุดนักสู้สาวชาวบราซิลออกมาแจ้งข่าวแฟนๆ ทางทวิตเตอร์ส่วนตัวของเธอแล้วว่าไฟต์ต่อไป “มาแน่” ที่น้ำหนัก 140 ปอนด์ ซึ่งถึงแม้จะยังไม่ถึง 135 ปอนด์ แต่ก็ถือเป็นก้าวที่น่าสนใจ เรียกว่า ไซบอร์ก มุ่งมั่นจะระเบิดศึก “เมกกะไฟต์” กับ รอนด้า เราซีย์ ให้ได้ แม้การทำ 140 ปอนด์ จะทำให้เธอสูญเสียกล้ามเนื้อไปบ้างก็ตาม แต่ตอนนี้ทางยอดนักสู้บราซิลเลี่ยนเตรียมทีมงานพร้อมสรรพ ทั้งทีมแพทย์ นักโภชนาการ ทีมฟิตเนส เรียกว่าเตรียมพร้อมทำน้ำหนัก 140 ปอนด์เต็มที่จริงๆ
ตอนนี้ยังไม่มีการยืนยันว่า “ไฟต์ต่อไป” ที่ว่านั้น เธอจะระเบิดศึกกับใคร เมื่อไหร่ แต่ลงออกมาประกาศชัดเจนแบบนี้ก็แค่รอการยืนยันอย่างเป็นทางการเท่านั้น จากนั้นค่อยมาดูกันว่าที่น้ำหนัก 140 ปอนด์ คริส ไซบอร์ก จะทำได้ดีขนาดใหน จะมีผลอย่างไรกับฝีไม้ลายมือ ความแข็งแกร่ง และสภาพร่างกายของเธอบ้าง ถ้าผ่านได้ 135 ปอนด์ก็เป็นเรื่องเป็นไปได้ แล้วศึกใหญ่ “เราซีย-ไซบอร์ก” ก็น่าจะเกิดขึ้นให้แฟนๆ ได้ซี้ดปากกันแน่นอน
แวดวงศิลปะการต่อสู้แบบผสมช่วงหลังๆ เงียบเหงาไปเยอะ หลังจากที่ “ไอ้แมงมุม” แอนเดอร์สัน ซิลวา เสียแชมป์แถมกลับมาทวงคืนไม่ได้ หวนคืนเวทีอีกครั้งก็ถูกตรวจพบสารกระตุ้น คริส ไวด์แมน ที่คว้าแชมป์ไปแทนก็ยังสร้างบารมีให้แฟน “ติด” ไม่ได้ จอน โจนส์ สุดยอดแชมป์รุ่นใหญ่ก็มีปัญหาเรื่องยาเสพติดและคดีความจนถูกแบนไปพักใหญ่ จะหันมาปั้นรุ่นเล็กๆ อย่าง โฮเซ อัลโด หรือ ที.เจ. ดิลลาชอว์ ก็ยังไม่เปรี้ยงปร้างจริงๆ จังๆ
ทางด้านนักสู้หญิง อุตส่าห์มี “ซูเปอร์สตาร์” อย่าง “อีสาวคาวบอย” รอนดา เราซีย์ เจ้าหล่อนก็ปราบคู่ต่อสู้ชนิดเหงื่อไม่ทันซึมมาตลอด จนจะขึ้นสู้ไฟต์ไหนตอนนี้แฟนๆ ก็คุยแค่ว่า “กี่วิ” เท่านั้น ออกชื่อ “ว่าที่” คู่ต่อสู้มาแต่ละรายเรียกความสนใจไม่ได้เลย ตอนนี้โปรแกรมล่าสุดทาง UFC เตรียมไปเปิดตลาดที่ออสเตรเลีย ในรายการ UFC 193 ที่เมลเบิร์น ตอนสายๆ วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายนตามเวลาบ้านเรา รอนดา เราซีย์ เตรียมพบกับ ฮอลลี โฮล์ม แฟนๆ ก็แค่รอดูว่าจะกี่วินาทีอย่างว่า
คงเหลือ คริส “ไซบอร์ก” จุสติโน สุดยอดนักสู้หญิงชาวบราซิลรายเดียวเท่านั้นตอนนี้ ที่กระแสแฟนๆ เรียกร้องอยากให้เจอกับ รอนด้า เราซีย์ เหลือเกิน ปัญหาที่ว่า คริส ไซบอร์ก ไม่ได้สู้อยู่ในสถาบัน UFC นั้นยังเป็นเรื่องเล็ก เพราะเธอมีสัญญากับบริษัทที่เป็นบริษัทแม่ของ UFC อยู่แล้ว เรื่องสัญญาไม่น่าห่วง แต่ประเด็นที่ต้องสางกันยุ่งอยู่ก็คือเรื่องน้ำหนัก เพราะ คริส ไซบอร์ก นั้นสู้อยู่ในรุ่นเฟเธอร์เวท น้ำหนัก 145 ปอนด์ แต่น้ำหนักปกติของเธอว่ากันว่าอยู่ที่ราวๆ 165-175 ปอนด์
ส่วน รอนดา เราซีย์ ตั้งป้อมเหนียวแน่นว่าเธอจะฟัดกับ ไซบอร์ก ที่น้ำหนัก 135 ปอนด์ อันเป็นพิกัดรุ่นแบนตัมเวทที่เธอเป็นแชมป์อยู่เท่านั้น ประมาณว่าฉันยิ่งใหญ่อยู่ในน้ำหนักนี้ เธออยากล้มฉันก็ต้องมาสู้กันในน้ำหนักของฉัน ขนาดว่าน้ำหนัก “แคชเวท” หรือน้ำหนักแบบพบกันครึ่งทางที่ 140 ปอนด์ ทาง เราซีย์ ยังส่ายหน้าท่าเดียว ทางด้าน ไซบอร์ก ทีมแพทย์เคยแนะนำว่าการทำน้ำหนัก 135 ปอนด์เป็นเรื่องที่ “ไม่ดีกับสุขภาพ” อย่างแรง
แต่ล่าสุดนักสู้สาวชาวบราซิลออกมาแจ้งข่าวแฟนๆ ทางทวิตเตอร์ส่วนตัวของเธอแล้วว่าไฟต์ต่อไป “มาแน่” ที่น้ำหนัก 140 ปอนด์ ซึ่งถึงแม้จะยังไม่ถึง 135 ปอนด์ แต่ก็ถือเป็นก้าวที่น่าสนใจ เรียกว่า ไซบอร์ก มุ่งมั่นจะระเบิดศึก “เมกกะไฟต์” กับ รอนด้า เราซีย์ ให้ได้ แม้การทำ 140 ปอนด์ จะทำให้เธอสูญเสียกล้ามเนื้อไปบ้างก็ตาม แต่ตอนนี้ทางยอดนักสู้บราซิลเลี่ยนเตรียมทีมงานพร้อมสรรพ ทั้งทีมแพทย์ นักโภชนาการ ทีมฟิตเนส เรียกว่าเตรียมพร้อมทำน้ำหนัก 140 ปอนด์เต็มที่จริงๆ
ตอนนี้ยังไม่มีการยืนยันว่า “ไฟต์ต่อไป” ที่ว่านั้น เธอจะระเบิดศึกกับใคร เมื่อไหร่ แต่ลงออกมาประกาศชัดเจนแบบนี้ก็แค่รอการยืนยันอย่างเป็นทางการเท่านั้น จากนั้นค่อยมาดูกันว่าที่น้ำหนัก 140 ปอนด์ คริส ไซบอร์ก จะทำได้ดีขนาดใหน จะมีผลอย่างไรกับฝีไม้ลายมือ ความแข็งแกร่ง และสภาพร่างกายของเธอบ้าง ถ้าผ่านได้ 135 ปอนด์ก็เป็นเรื่องเป็นไปได้ แล้วศึกใหญ่ “เราซีย-ไซบอร์ก” ก็น่าจะเกิดขึ้นให้แฟนๆ ได้ซี้ดปากกันแน่นอน