คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
ว่าจะเขียนถึงแชมป์โลกจอมฝีมือชาวไทย “เจ้าเพชร” อำนาจ เกษตรพัฒนา ในไฟต์ที่ป้องกันเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นฟลายเวทของสหพันธ์มวยนานาชาติเอาไว้ได้ แต่ก็คิดว่าคงจะเชยไปแล้วเพราะผ่านมาสัปดาห์เต็มแฟนๆ ก็คงคุยถึงไฟต์นี้กันไปแล้ว พอดีกับ 7 วันมานี้เกิดเหตุ “พลิกล็อก” ใหญ่ซ้ำอีกในรายการ MMA ศึก UFC 194 ที่กลับไประเบิดขึ้นที่ลาส เวกัส แถมเป็นการพลิกล็อกแบบ “ยกกำลัง 2” เลยด้วย เลยขอคุยเรื่องนี้แทนดีกว่า
โดย “คู่รอง” ในรายการนี้ เป็นการขึ้นสังเวียนเพื่อป้องกันเข็มขัดแชมป์ UFC ในรุ่นมิดเดิลเวทของ “ขวัญใจอเมริกัน” คริส ไวด์แมน ที่ล้มอดีตสุดยอดแชมป์ในรุ่นนี้อย่าง “ไอ้แมงมุม” แอนเดอร์สัน ซิลวา ถึง 2 ไฟต์ เล่นเอา “ไอ้แมงมุม” ตอนนี้ยังหาทางกลับสังเวียน 8 เหลี่ยมไม่ถูก แถมยังป้องกันตำแหน่งไว้ได้อีก 2 ไฟต์ รวมแล้วชนะรวดมา 13 ไฟต์ แต่ชื่อชั้นและแคแร็กเตอร์ของ “ขวัญใจอเมริกัน” นั้นยังไม่สามารถก้าวขึ้นเป็นซูเปอร์สตาร์ได้จริงๆ ไฟต์นี้เลยต้องขึ้นสังเวียนเป็นคู่รอง
นักสู้ที่ขึ้นมาท้าชิงวันนี้ก็คือ ลุค ร็อกโฮลด์ ชาวอเมริกันเหมือนกัน มีสถิติชนะ 14 แพ้แค่ 2 แถมชนะรวดมา 4 ไฟต์ ก่อนหน้านี้เป็นแชมป์ในรุ่นเดียวกันนี้ในสถาบัน Strikeforce มาด้วย เรียกว่าดีกรีไม่เบา แต่สถิติชนะรวดของ คริส ไวด์แมน และสถิติที่ตลอดชีวิตการต่อสู้ไม่เคยโดนต่อยร่วงเลย รวมทั้งไม่เคยโดนจับ “เทคดาวน์” เลยด้วยซ้ำ ก็ทำให้แชมป์เป็นต่อหลายขุม
คู่นี้ขึ้นมาฟาดฟันกันอย่างสนุก เต็มไปด้วยลีลาทั้งการออกอาวุธหมัด-เท้าและการสู้กันบนพื้นที่ถนัดทั้งคู่ เรียกว่าแฟนๆ ที่ได้ชมคู่นี้ได้เห็นลีลาระดับโลกกันเต็มอิ่ม แต่ผู้ท้าชิงทำได้ดีกว่าทั้งการออกอาวุธที่เข้าเป้ามากกว่า และการควบคุมเกมบนพื้นก็ทำได้ดีกว่า แถมจับ ไวด์แมน เหวี่ยงลงพื้นได้ซะด้วยในช่วงกลางยก 3 ตามด้วยการประเคนทั้งหมัดทั้งศอกจน “ขวัญใจอเมริกัน” แตกเละ แต่กรรมการก็ใจแข็งไม่ยอมยุติการต่อสู้ พอยก 4 ร็อกโฮลด์ ก็ปิดจ๊อบจับ ไวด์แมน เหวี่ยงลงพื้นแล้วเข้านั่งคร่อมยำใหญ่จนกรรมการทนดูไม่ได้จับแพ้ไปในที่สุด ประเดิมไฟต์ “พลิกล็อก” ในรายการ
คู่เอก “ไอ้หน้าบาก” โชเซ อัลโด สุดยอดแชมป์ UFC ในรุ่นเฟเธอร์เวทชาวบราซิล ที่ไม่ประสบความพ่ายแพ้มา 10 ปี พาสถิติชนะ 25 ไฟต์แพ้แค่ไฟต์เดียว แถมตอนนี้ได้รับการยกย่องเป็นอันดับ 1 ในแบบปอนด์-ต่อ-ปอนด์ ขึ้นป้องกันเข็มขัดกับนักสู้จากกรุงดับลิน คอนเนอร์ แม็คเกรเกอร์ เจ้าของสมญา “จอมฉาว” ที่สถิติไม่เบาเหมือนกันชนะมา 18 ไฟต์แพ้แค่ 2 ไฟต์ แถมต่อยคู่ต่อสู้หลับมา 4 ไฟต์รวดก่อนหน้านี้ แต่วงการก็ให้ทางเจ้าของตำแหน่งเป็นต่อหลายขุม พอเริ่มการต่อสู้ โชเซ่ อัลโด้ ปราดเข้าหาทันที แต่ชั่วแว่บเดียวที่เผลอการ์ดขวาตกผู้ท้าชิงชาวไอริชทิ่มซ้ายตรงเต็มกรามเล่นเอาแชมเปี้ยนหมดสติกลางอากาศคว่ำลงกับพื้นเวทีพ่ายน็อกแบบพลิกล็อกสุดๆ ด้วยเวลาเพียง 13 วินาทีเท่านั้น เป็นสถิติน็อกเร็วที่สุดในการต่อสู้ในไฟต์ระดับชิงแชมป์ซะด้วย ขนาด “อีสาวคาวบอย” รอนด้า เราซี่ย์ จอมปิดจ๊อบเร็วยังเร็วสุดแค่ 14 วินาที
หลังการต่อสู้แชมป์คนใหม่ที่เป็นชาวไอริชคนแรกที่ได้แชมป์ในรายการ UFC โวทันทีว่าหมัดซ้ายตรงนั้นไม่มีใครทนได้แน่นอน แต่ก็ยกย่อง อัลโด ว่าเป็นนักสู้ที่ยิ่งใหญ่ ด้านอดีตแชมป์หมาดๆ บอกว่าแบบนี้มันถือว่ายังไม่ได้สู้กันหรอกมันเป็นจังหวะเดียวเท่านั้นและร้องขอแก้มือทันที ก็คงอยู่ในลิสต์ไฟต์ล้างตาที่เตรียมระเบิดขึ้นปีหน้า
ว่าจะเขียนถึงแชมป์โลกจอมฝีมือชาวไทย “เจ้าเพชร” อำนาจ เกษตรพัฒนา ในไฟต์ที่ป้องกันเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นฟลายเวทของสหพันธ์มวยนานาชาติเอาไว้ได้ แต่ก็คิดว่าคงจะเชยไปแล้วเพราะผ่านมาสัปดาห์เต็มแฟนๆ ก็คงคุยถึงไฟต์นี้กันไปแล้ว พอดีกับ 7 วันมานี้เกิดเหตุ “พลิกล็อก” ใหญ่ซ้ำอีกในรายการ MMA ศึก UFC 194 ที่กลับไประเบิดขึ้นที่ลาส เวกัส แถมเป็นการพลิกล็อกแบบ “ยกกำลัง 2” เลยด้วย เลยขอคุยเรื่องนี้แทนดีกว่า
โดย “คู่รอง” ในรายการนี้ เป็นการขึ้นสังเวียนเพื่อป้องกันเข็มขัดแชมป์ UFC ในรุ่นมิดเดิลเวทของ “ขวัญใจอเมริกัน” คริส ไวด์แมน ที่ล้มอดีตสุดยอดแชมป์ในรุ่นนี้อย่าง “ไอ้แมงมุม” แอนเดอร์สัน ซิลวา ถึง 2 ไฟต์ เล่นเอา “ไอ้แมงมุม” ตอนนี้ยังหาทางกลับสังเวียน 8 เหลี่ยมไม่ถูก แถมยังป้องกันตำแหน่งไว้ได้อีก 2 ไฟต์ รวมแล้วชนะรวดมา 13 ไฟต์ แต่ชื่อชั้นและแคแร็กเตอร์ของ “ขวัญใจอเมริกัน” นั้นยังไม่สามารถก้าวขึ้นเป็นซูเปอร์สตาร์ได้จริงๆ ไฟต์นี้เลยต้องขึ้นสังเวียนเป็นคู่รอง
นักสู้ที่ขึ้นมาท้าชิงวันนี้ก็คือ ลุค ร็อกโฮลด์ ชาวอเมริกันเหมือนกัน มีสถิติชนะ 14 แพ้แค่ 2 แถมชนะรวดมา 4 ไฟต์ ก่อนหน้านี้เป็นแชมป์ในรุ่นเดียวกันนี้ในสถาบัน Strikeforce มาด้วย เรียกว่าดีกรีไม่เบา แต่สถิติชนะรวดของ คริส ไวด์แมน และสถิติที่ตลอดชีวิตการต่อสู้ไม่เคยโดนต่อยร่วงเลย รวมทั้งไม่เคยโดนจับ “เทคดาวน์” เลยด้วยซ้ำ ก็ทำให้แชมป์เป็นต่อหลายขุม
คู่นี้ขึ้นมาฟาดฟันกันอย่างสนุก เต็มไปด้วยลีลาทั้งการออกอาวุธหมัด-เท้าและการสู้กันบนพื้นที่ถนัดทั้งคู่ เรียกว่าแฟนๆ ที่ได้ชมคู่นี้ได้เห็นลีลาระดับโลกกันเต็มอิ่ม แต่ผู้ท้าชิงทำได้ดีกว่าทั้งการออกอาวุธที่เข้าเป้ามากกว่า และการควบคุมเกมบนพื้นก็ทำได้ดีกว่า แถมจับ ไวด์แมน เหวี่ยงลงพื้นได้ซะด้วยในช่วงกลางยก 3 ตามด้วยการประเคนทั้งหมัดทั้งศอกจน “ขวัญใจอเมริกัน” แตกเละ แต่กรรมการก็ใจแข็งไม่ยอมยุติการต่อสู้ พอยก 4 ร็อกโฮลด์ ก็ปิดจ๊อบจับ ไวด์แมน เหวี่ยงลงพื้นแล้วเข้านั่งคร่อมยำใหญ่จนกรรมการทนดูไม่ได้จับแพ้ไปในที่สุด ประเดิมไฟต์ “พลิกล็อก” ในรายการ
คู่เอก “ไอ้หน้าบาก” โชเซ อัลโด สุดยอดแชมป์ UFC ในรุ่นเฟเธอร์เวทชาวบราซิล ที่ไม่ประสบความพ่ายแพ้มา 10 ปี พาสถิติชนะ 25 ไฟต์แพ้แค่ไฟต์เดียว แถมตอนนี้ได้รับการยกย่องเป็นอันดับ 1 ในแบบปอนด์-ต่อ-ปอนด์ ขึ้นป้องกันเข็มขัดกับนักสู้จากกรุงดับลิน คอนเนอร์ แม็คเกรเกอร์ เจ้าของสมญา “จอมฉาว” ที่สถิติไม่เบาเหมือนกันชนะมา 18 ไฟต์แพ้แค่ 2 ไฟต์ แถมต่อยคู่ต่อสู้หลับมา 4 ไฟต์รวดก่อนหน้านี้ แต่วงการก็ให้ทางเจ้าของตำแหน่งเป็นต่อหลายขุม พอเริ่มการต่อสู้ โชเซ่ อัลโด้ ปราดเข้าหาทันที แต่ชั่วแว่บเดียวที่เผลอการ์ดขวาตกผู้ท้าชิงชาวไอริชทิ่มซ้ายตรงเต็มกรามเล่นเอาแชมเปี้ยนหมดสติกลางอากาศคว่ำลงกับพื้นเวทีพ่ายน็อกแบบพลิกล็อกสุดๆ ด้วยเวลาเพียง 13 วินาทีเท่านั้น เป็นสถิติน็อกเร็วที่สุดในการต่อสู้ในไฟต์ระดับชิงแชมป์ซะด้วย ขนาด “อีสาวคาวบอย” รอนด้า เราซี่ย์ จอมปิดจ๊อบเร็วยังเร็วสุดแค่ 14 วินาที
หลังการต่อสู้แชมป์คนใหม่ที่เป็นชาวไอริชคนแรกที่ได้แชมป์ในรายการ UFC โวทันทีว่าหมัดซ้ายตรงนั้นไม่มีใครทนได้แน่นอน แต่ก็ยกย่อง อัลโด ว่าเป็นนักสู้ที่ยิ่งใหญ่ ด้านอดีตแชมป์หมาดๆ บอกว่าแบบนี้มันถือว่ายังไม่ได้สู้กันหรอกมันเป็นจังหวะเดียวเท่านั้นและร้องขอแก้มือทันที ก็คงอยู่ในลิสต์ไฟต์ล้างตาที่เตรียมระเบิดขึ้นปีหน้า
