เอเยนซี - เชื่อว่าคงเป็นภาพที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อ รอนดา เราซีย์ นักสู้สาวผู้หยิ่งผยองแห่งวงการ อัลติเมท ไฟท์ติง (UFC) ถูก ฮอลลี โฮล์ม คู่ต่อสู้ระดับโนเนมที่แก่กว่าถึง 6 ปี จัดการน็อคด้วยลูกเตะคาสังเวียนในยกที่สองเมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ส่งให้ เราซีย์ ลิ้มรสความปราชัยครั้งแรกและแจ้งเกิดนักสู้หญิงแกร่งวัย 34 ปี แจ้งเกิดในวงการหมัดมวยอย่างเต็มภาคภูมิ ก่อนตามด้วยขุดคุ้ยประวัติทุกซอกทุกมุมว่าเป็นใครมาจากไหน
ย้อนกลับไปสมัยวัยรุ่น โฮล์ม ซึ่งเติบโตจากการเลี้ยงดูของคุณพ่อผู้เป็นนักเทศน์ มีชื่อเสียงเล็กๆในวงการหมัดมวยที่ เม็กซิโก หลังสวมบทบาทกำปั้นอาชีพหญิงขึ้นสังเวียนประจัญหน้าคู่แข่งมากหน้าหลายตาที่บ้านเกิดหรือละแวกใกล้เคียงในรายการของสมาคมมวยหญิงนานาชาติ (IFBA) สถิติถือว่าสวยหรูไม่เบาขึ้นเวที 38 ไฟต์ ชนะ 33 ครั้งแบ่งเป็นน็อค 9 ครั้งและชนะคะแนน 23 ครั้ง ที่เหลือคือเสมอ 3 และแพ้ 2 ก่อนเบนเป้าไปยังวงการคิกบ็อกซิง และ UFC
โฮล์ม ผู้ถูกสื่อตั้งฉายาว่า “นักสู้ลูกสาวคุณพ่อ” (The Preacher's Daughter) ประเดิมไฟต์แรกบนเวทีลูกกรง ชนะน็อค คริสตินา ดอมเก ด้วยลูกเตะเมื่อปี 2011 ก่อนไล่ฆ่าทุกคนไปเรื่อยๆจนกระทั่งถูกดันขึ้นไปเจอกับ “อีสาวคาวบอย” ผู้ไม่เคยแพ้ใคร กระทั่งในที่สุดการต่อสู้ก็จบลงด้วยชัยชนะของเธอก่อนได้ครอบครองแชมป์รุ่นแบมตัมเวทมาคล้องเอวที่ เมลเบิร์น ออสเตรเลีย และทำให้ตอนนี้สถิติครองสถิติไร้พ่ายต่อเนื่อง 10 ไฟต์ติดต่อกัน
แน่นอนว่าสื่อทุกสำนักย่อมบุกซอกแซกแกะเกาความรู้สึกที่ได้เป็นสาวผู้ปราบพยศ “เราซีย์” คนแรกในประวัติศาสตร์ ทั้งที่ก่อนขึ้นเวทีถูกมองว่าเป็นนักสู้รองบ่อนไม่พ้นถูกส่งขึ้นมาให้เชือดเหมือนรายอื่นๆ โดยเธอกล่าวว่า “ที่ผ่านมาฉันก็ถูกใครต่อใครมองว่าเป็นพวกรองบ่อนอยู่แล้ว มันเป็นเรื่องปกติสำหรับฉัน แต่สิ่งที่ทำก็คือฝึกซ้อมกับโค้ชอย่างหนัก ทุกวันคือการทดสอบ และไม่เคยสนใจเลยที่ว่าใครมองว่าฉันจะต้องแพ้ เพราะเชื่อมาตลอดว่ามีดีพอจะเป็นผู้ชนะ”
ด้วยความสำเร็จที่เกิดขึ้นช่วงข้ามคืน เชื่อว่านักสู้จากแดนเม็กซิกันจะต้องรับมือกับชื่อเสียงที่ถาโถมเข้ามา และถูก ดานา ไวท์ ประธานของ UFC เอามาใช้เป็นซูเปอร์สตาร์โปรโมทรายการ รวมถึงจัดโปรแกรมป้องกันแชมป์ต่างๆนาๆให้ ไม่รวมพวกบรรดาสปอนเซอร์สินค้าต่างๆที่เข้ามารุมจีบ โดยตอนนี้ก็ถูกทาบทามให้ไปเล่นภาพยนตร์ตามรอย เราซีย์ เรียบร้อยแล้วคือ Fight Valley หนังแอ็คชั่นที่กำลังถ่ายทำอยู่และมีกำหนดเข้าโรงฉายปีหน้า
อย่างไรก็ตาม แม้ชีวิตจากนี้จะเปลี่ยนไปแต่ โฮล์ม ยืนยันยังคงทำตัวติดดินตามเดิม และก้มหน้าก้มตาซ้อมเพื่อยกระดับฝีมือให้แกร่งขึ้น “ทุกอย่างยังเป็นไปตามปกติ ฉันมีเพื่อนมากมายที่ เม็กซิโก บางครั้งก่อนฝึกซ้อมก็นัดออกมาเจอกัน นั่งดื่มกาแฟ พูดคุยเรื่องสัพเพเหระต่างๆ ทำจิตใจให้สบาย ซึ่งก็คิดว่าโชคดีเหลือเกินที่มีเพื่อนและครอบครัวที่ดีอยู่รอบตัว ใน อัลบูร์เกอเก เมืองที่ฉันเกิดและภาคภูมิใจ”
ชีวิตส่วนตัวนอกสังเวียน โฮล์ม แต่งงานแล้วกับ เจฟฟ์ เคิร์กแพทริค สามีที่เป็นคนบ้านเดียวกัน ทำงานในบริษัทการเงินที่ เม็กซิโก เมื่อปี 2012 ยังไม่มีพยานรัก ส่วนงานอดิเรกก็ค่อนข้างเป็นผู้หญิงไม่น้อยทั้งเย็บปักถักร้อย, วาดภาพ หรือแม้กระทั่งงานที่ต้องใช้แรงงานหนักอย่างงานช่างไม้ ก็ไม่มีปัญหา
สุดท้าย นักสู้สาวผู้กำลังฉายแสงเป็นซูเปอร์สตาร์ดวงใหม่ของวงการ กล่าวทิ้งท้ายว่าจงจดจำชื่อของเธอไว้ให้ดีเพราะจากนี้จะขอสร้างชื่อในฐานะนักสู้แถวหน้าของวงการ “ฉันอยากแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่าที่ผ่านมาฉันทุ่มเทมากเพียงใดเพื่อทำให้ดีที่สุด ไม่อยากให้ใครต่อใครมองว่าสู้เพื่อหาเงินประทังชีวิตไปวันๆ ฉันสู้เพราะอยากสู้ อยากเป็นผู้ชนะ และความรู้สึกนั้นก็สำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด”