ผู้จัดการรายวัน 360 - คำกล่าวที่ว่า "ความรักเป็นสิ่งสวยงาม" นั้นอาจไม่เป็นจริงเสมอไปยิ่งหากนำมาใช้ไม่ถูกช่วงเวลาก็ส่งผลเสียได้เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นทางชีวิตนักกีฬาวอลเลย์บอลระดับเยาวชนที่บางคนเลือกที่จะทิ้งความฝันเดินหน้าสู่ความรักตามประสาวัยรุ่น จึงถือเป็นเรื่องน่าเสียดายแทนที่จะได้ต่อยอดจากโรงเรียนกีฬาไปสู่ระดับมหาวิทยาลัยถึงสโมสรอาชีพและติดธงรับใช้ชาติในที่สุด กลับต้องนำพรสวรรค์นั้นไปฝังดิน
ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยว่าภายในแวดวงกีฬาลูกยางไทยถึงกรณีที่ผู้ฝึกสอนโรงเรียนกีฬาแห่งหนึ่ง ออกกฎห้ามนักกีฬาใช้โทรศัพท์ในช่วงเก็บตัวและเวลาเรียน เนื่องจากมีความไม่เหมาะสมเกี่ยวกับเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้ผู้ปกครองไม่ไว้ใจที่จะฝากฝังบุตรหลานไว้ในการดูแลอีก ส่งผลให้มีการออกกฎระเบียบที่เข้มงวดว่าก หากพบนักกีฬาคนใดปฏิบัติตนเกินเลยอีก จะถูกให้ออกจากโรงเรียนทันที
โดย สมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยฯ ยอมรับว่าเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวของนักกีฬาทุกคนเป็นเรื่องควบคุมได้ยาก อย่างไรก็ตามตนสนับสนุนโรเรียนกีฬา หรือสโมสรต่างๆ ที่ต้องการคุมเข้มเรื่องรักก่อนวัยอันควรไม่ให้บานปลาย อีกทั้งยังมีการนำมาใช้กับนักกีฬาทีมชาติระดับเยาวชนทุกชุด เพราะต้องการให้ทุกคนมีสมาธิในการฝึกซ้อม มากกว่าเรื่องอื่น ก่อนก้าวมาเป็นตัวแทนทีมชาติชุดใหญ่ต่อไป
สมพร กล่าวว่า "ต้องยอมรับว่าการเป็นผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอลในปัจจุบันนี้ไม่ใช่แค่มีหน้าที่ฝึกสอนเ หรือนำซ้อม วางแผนปรับเปลี่ยนแก้ไขแท็คติกระหว่างการแข่งขันเท่านั้น หากแต่ยังต้องเป็นครูที่พร้อมจะชี้นำแนวทางการใช้ชีวิตนักกีฬาให้กับผู้เล่นเยาวชนเพื่อไปสู่ทิศทางที่ดี ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีกฏที่เข้มงวด ระเบียบที่เคร่งครัดเพื่อเป็นกรอบที่วางเอาไว้ให้นักกีฬาที่อยู่ในการดูแล เดินไปสู่ความสำเร็จของชีวีตตามความคาดหวัง และความตั้งใจของพ่อแม่ที่ยินยอมฝากบุตรหลานมาร่วมแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อมทุกระดับ"
"การที่โรงเรียนจะลงโทษนักกีฬาที่ประพฤติตัวผิดกฎระเบียบด้วยการให้ออกจากโรงเรียน คงไม่ใช่การลงโทษที่รุนแรงจนเกินไป เพราะในแคมป์เยาวชนทีมชาติก็มีข้อห้ามเช่นนี้ เมื่อทุกคนมีความประสงค์ที่จะเข้ามารับใช้ประเทศชาติ ก็จำเป็นที่ต้องตัดเรื่องที่ยังไม่ถึงเวลาออกไปก่อน เมื่อบรรลุนิติภาวะและสามารถดูแลตัวเองได้ ก็จะเข้าใจว่าที่โค้ช หรือครู อาจารย์ ทำลงไปนั้นเกิดจากความหวังดีทั้งสิ้น" นายใหญ่สมาคมลูกยาง กล่าว
สำหรับเรื่องความรัก คงไม่มีใครห้ามให้เกิดขึ้นได้ ตามความเห็นของ "กัปตันกิ๊ฟ" วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ กัปตันวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ในวัย 31 ปี แต่สามารถทำให้ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสมได้ หลังเจ้าตัวเพิ่งจะรับหมั้นแฟนหนุ่ม นัฐพงศ์ เกษาพันธ์ อดีตมือเซตทีมชาติไทย ชุดแชมป์ซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ประเทศพม่า ไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
กัปตันกิ๊ฟแนะว่า "เรื่องความรักคงจะไม่สามารถห้ามกันได้ แต่อยากจะเตือนให้น้องๆ รุ่นใหม่ๆ รู้จักแบ่งเวลา และให้ความสำคัญกับสิ่งที่เราฝัน หรือสิ่งที่คนรอบข้างคาดหวังในตัวเรา กิ๊ฟเองก็เคยมีแฟนมาก่อนหน้านี้ แต่ก็ทุ่มเทให้การฝึกซ้อมเต็มที่ เพราะเชื่อว่าถ้าคนที่เขารักเราจริงๆ จะต้องเข้าใจในสิ่งที่เราทำ รวมทั้งช่วยสนับสนุนให้ประสบความสำเร็จ เพราะต่อให้เราเก่งหรือมีพรสวรรค์ขนาดไหน ก็ต้องฝึกซ้อม รักษากฎระเบียบ และเชื่อฟังโค้ช สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้นักกีฬาประสบความสำเร็จ เมื่อถึงเวลาที่สมควรเราก็จะมีความรักและความสำเร็จรออยู่ข้างหน้าเอง"
แน่นอนว่าการจะเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จนั้น อาจจะต้องเสียสละเวลาส่วนตัวในช่วงแรก เพื่อให้เด็กและเยาวชนทุกคนแข็งแกร่ง พร้อมก้าวขึ้นมาเป็นความหวังของทีมชาติต่อไปในอนาคต และเมื่อรู้จักแบ่งเวลาและรับผิดชอบตัวเองได้แล้ว เมื่อนั้นเราจะมีความสุขทั้งกับกีฬาที่เรารัก และคนที่เรารักอย่างแน่นอน เหมือนคำโบราณที่บอก "ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม"