คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
สืบเนื่องจากการที่ โชเซ้ฟ บลั๊ทเท่อร์ (Joseph Blatter) ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า และ มีเชล ปลาตินี (Michel Platini) ประธานสหสมาคมฟุตบอลยุโรป หรือ ยูเอ๊ฟฟ่า ถูกสั่งลงโทษแบนจากคณะกรรมการด้านจริยธรรมของ ฟีฟ่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลายคนออกมาแสดงความเห็นแตกต่างกันไป
หลังจากสอบสวนเรื่องราวที่ นาโปเลองลูกหนัง รับเงินจาก เซ้พ จำนวน 2 ล้าน สวิส ฟร็องก์ หรือประมาณ 73 ล้านบาท ในช่วงปี 2011 เรียบร้อยแล้ว คณะกรรมการด้านจริยธรรมของ ฟีฟ่า พิจารณาว่าทั้งสองประพฤติตนไม่เหมาะสมกับตำแหน่งอันทรงเกียรติ จึงสั่งห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลเป็นระยะเวลา 8 ปี พร้อมปรับ เซ้พ เป็นเงิน 50,000 สวิส ฟร็องก์ ส่วน มีเชล โดนไป 80,000 สวิส ฟร็องก์ โดยให้มีผลบังคับใช้ทันที
ฆาบิเอร์ เตบ๊าส (Javier Tebas) ประธานลีกฟุตบอลอาชีพ (LFP) ของ สเปน ถึงกับปรบมือให้ คณะกรรมการด้านจริยธรรม เขาบอกว่า ไอ้ที่โดนลงโทษ 8 ปี ยังน้อยไป การไม่เคารพต่อมาตรการตรวจสอบภายในของ ฟีฟ่า และยังแหกใส่การตรวจสอบด้านการเงิน อันนี้ถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก น่าจะถูกห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลไปตลอดชีวิตเลยต่างหาก ทั้งคู่ไม่ได้รับความไว้วางใจจากวงการฟุตบอลหรือทั้งวงการกีฬาอีกต่อไปแล้ว
สเปน ร่วมกับ ปอรตูเกา เสนอตัวชิงสิทธิ์เป็นเจ้าภาพร่วมจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งมี รัสเซีย อังกฤษ และ เนเธอร์แลนด์ส ร่วมกับ เบลเจี่ยม เป็นคู่แข่ง ในการลงคะแนนเสียงรอบแรกนั้น ยังไม่มีผู้ใดได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งคือ 12 เสียงจากทั้งหมดที่ลงคะแนน 22 คน ในรอบนี้ อังกฤษ ได้คะแนนโหล่สุด ต้องถูกตัดออกไป แล้วผลโหวทในรอบที่สอง รัสเซีย ได้ 13 คะแนน จึงได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพไป ชนะ สเปน อันดับ 2 ที่ได้เพียง 7 คะแนน
เดวิด เบิร์นสตายน์ (David Bernstein) ประธานสมาคมฟุตบอลอังกฤษ กลับมีความเห็นว่า การลงโทษ เซ้พ กับ มีเชล คนละ 8 ปีเท่ากันนั้นไม่ได้เรื่องจริงๆ มันต้องมีความหนักเบาต่างกัน เพราะ เซ้พ เป็นผู้นำองค์กรที่มีปัญหาเรื่องทุจริตมานานหลายปี กระบวนการยุติธรรมของ สวิส และสหรัฐอเมริกา ก็ให้การหนุนหลังมาตลอด ต่างจาก มีเชล ที่เป็นผู้นำองค์กรที่ไม่ได้มีปัญหาทุจริต
รายน์ฮาร์ด เราบัล (Reinhard Rauball) ประธานลีกฟุตบอลเจอรมานี เผยว่า ตนคิดมานานแล้วว่าคำตัดสินต้องออกมาแบบนี้ แต่ที่สำคัญ ทั้ง ฟีฟ่า และ ยูเอ๊ฟฟ่า ต้องเลือกปรับโครงสร้างภายใน แค่เปลี่ยนประธานองค์กรนั้น ไม่เพียงพอหรอก เพราะเราต้องพยายามเรียกความเชื่อมั่น ความชื่อถือกลับมาให้ได้ ซึ่งมันต้องใช้เวลาหลายปีอย่างแน่นอน สำหรับฟุตบอลโลก 2018 และ 2022 เจอรมานี ไม่ได้เสนอตัวชิงสิทธิ์เป็นเจ้าภาพ เพราะตนเพิ่งเป็นเจ้าภาพในปี 2006
พีเต้อร์ เวลัปปัน (Peter Velappan) อดีตเลขาธิการ สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย หรือ เอเอ๊ฟซี วัย 80 ปี ชาวมาเลเซีย แสดงความเห็นใจว่า บทลงโทษโหดร้ายมาก โดยเฉพาะกับ เซ้พ ที่อุทิศทั้งชีวิตเพื่อวงการฟุตบอลและเพื่อ ฟีฟ่า น่าเศร้าใจที่มีเรื่องทุจริตฉาวเกิดขึ้น คณะกรรมการมีสิทธิ์เต็มที่อยู่แล้วในการประณาม แต่นี่ลงโทษถึง 8 ปี มันโหดร้ายเกินไป มันก็คือลงโทษตลอดชีวิตนั่นเอง เวลัปปัน คนนี้เป็นคู่อาฆาต ไม่กินเส้นกันกับ โมฮัมเหม็ด บิน ฮัมมัม (Mohammed bin Hammam) อดีตประธาน เอเอ๊ฟซี เมื่อเป็นศัตรูกับ บิน ฮัมมัม ก็แสดงว่าอยู่ข้าง เซ้พ น่ะซี
ในขณะที่ รัสเซีย ซึ่งได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2018 นั้น แม้จะมีเรื่องฉาว แต่ วลาดีเมียร์ ปูติน (Vladimir Putin) ประธานาธิบดี ได้แสดงออกว่าเข้าข้าง เซ้พ มาตลอด และ วีทาลี มุทโก (Vitali Mutko) รัฐมนตรีกีฬา ยังโวยว่า นั่นเป็นการลงโทษที่รุนแรงทีเดียว พวกเขามีหลักฐานหรือไง ไม่เห็นจะมีหลักฐานอะไรกระจ่างชัดเลย มันช่างเป็นวันที่น่าหดหู่ของวงการฟุตบอลทวีปยุโรป เพราะ ปลาตีนี เป็นผู้นำของ ยูเอ๊ฟฟ่า นอกจากนั้น ตนก็ไม่คิดว่า เซ้พ ควรโดนแบนจากวงการฟุตบอลด้วย ใครเป็นพวก เซ้พ กับ ปลาตีนี ก็ออกมาโวยคำสั่งแบน ใครไม่เป็นพวกก็ออกมาสรรเสริญ ตกลงองค์กรฟุตบอลนี้มันดูที่ผลประโยชน์หรือไร
สืบเนื่องจากการที่ โชเซ้ฟ บลั๊ทเท่อร์ (Joseph Blatter) ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า และ มีเชล ปลาตินี (Michel Platini) ประธานสหสมาคมฟุตบอลยุโรป หรือ ยูเอ๊ฟฟ่า ถูกสั่งลงโทษแบนจากคณะกรรมการด้านจริยธรรมของ ฟีฟ่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลายคนออกมาแสดงความเห็นแตกต่างกันไป
หลังจากสอบสวนเรื่องราวที่ นาโปเลองลูกหนัง รับเงินจาก เซ้พ จำนวน 2 ล้าน สวิส ฟร็องก์ หรือประมาณ 73 ล้านบาท ในช่วงปี 2011 เรียบร้อยแล้ว คณะกรรมการด้านจริยธรรมของ ฟีฟ่า พิจารณาว่าทั้งสองประพฤติตนไม่เหมาะสมกับตำแหน่งอันทรงเกียรติ จึงสั่งห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลเป็นระยะเวลา 8 ปี พร้อมปรับ เซ้พ เป็นเงิน 50,000 สวิส ฟร็องก์ ส่วน มีเชล โดนไป 80,000 สวิส ฟร็องก์ โดยให้มีผลบังคับใช้ทันที
ฆาบิเอร์ เตบ๊าส (Javier Tebas) ประธานลีกฟุตบอลอาชีพ (LFP) ของ สเปน ถึงกับปรบมือให้ คณะกรรมการด้านจริยธรรม เขาบอกว่า ไอ้ที่โดนลงโทษ 8 ปี ยังน้อยไป การไม่เคารพต่อมาตรการตรวจสอบภายในของ ฟีฟ่า และยังแหกใส่การตรวจสอบด้านการเงิน อันนี้ถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก น่าจะถูกห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลไปตลอดชีวิตเลยต่างหาก ทั้งคู่ไม่ได้รับความไว้วางใจจากวงการฟุตบอลหรือทั้งวงการกีฬาอีกต่อไปแล้ว
สเปน ร่วมกับ ปอรตูเกา เสนอตัวชิงสิทธิ์เป็นเจ้าภาพร่วมจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งมี รัสเซีย อังกฤษ และ เนเธอร์แลนด์ส ร่วมกับ เบลเจี่ยม เป็นคู่แข่ง ในการลงคะแนนเสียงรอบแรกนั้น ยังไม่มีผู้ใดได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งคือ 12 เสียงจากทั้งหมดที่ลงคะแนน 22 คน ในรอบนี้ อังกฤษ ได้คะแนนโหล่สุด ต้องถูกตัดออกไป แล้วผลโหวทในรอบที่สอง รัสเซีย ได้ 13 คะแนน จึงได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพไป ชนะ สเปน อันดับ 2 ที่ได้เพียง 7 คะแนน
เดวิด เบิร์นสตายน์ (David Bernstein) ประธานสมาคมฟุตบอลอังกฤษ กลับมีความเห็นว่า การลงโทษ เซ้พ กับ มีเชล คนละ 8 ปีเท่ากันนั้นไม่ได้เรื่องจริงๆ มันต้องมีความหนักเบาต่างกัน เพราะ เซ้พ เป็นผู้นำองค์กรที่มีปัญหาเรื่องทุจริตมานานหลายปี กระบวนการยุติธรรมของ สวิส และสหรัฐอเมริกา ก็ให้การหนุนหลังมาตลอด ต่างจาก มีเชล ที่เป็นผู้นำองค์กรที่ไม่ได้มีปัญหาทุจริต
รายน์ฮาร์ด เราบัล (Reinhard Rauball) ประธานลีกฟุตบอลเจอรมานี เผยว่า ตนคิดมานานแล้วว่าคำตัดสินต้องออกมาแบบนี้ แต่ที่สำคัญ ทั้ง ฟีฟ่า และ ยูเอ๊ฟฟ่า ต้องเลือกปรับโครงสร้างภายใน แค่เปลี่ยนประธานองค์กรนั้น ไม่เพียงพอหรอก เพราะเราต้องพยายามเรียกความเชื่อมั่น ความชื่อถือกลับมาให้ได้ ซึ่งมันต้องใช้เวลาหลายปีอย่างแน่นอน สำหรับฟุตบอลโลก 2018 และ 2022 เจอรมานี ไม่ได้เสนอตัวชิงสิทธิ์เป็นเจ้าภาพ เพราะตนเพิ่งเป็นเจ้าภาพในปี 2006
พีเต้อร์ เวลัปปัน (Peter Velappan) อดีตเลขาธิการ สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย หรือ เอเอ๊ฟซี วัย 80 ปี ชาวมาเลเซีย แสดงความเห็นใจว่า บทลงโทษโหดร้ายมาก โดยเฉพาะกับ เซ้พ ที่อุทิศทั้งชีวิตเพื่อวงการฟุตบอลและเพื่อ ฟีฟ่า น่าเศร้าใจที่มีเรื่องทุจริตฉาวเกิดขึ้น คณะกรรมการมีสิทธิ์เต็มที่อยู่แล้วในการประณาม แต่นี่ลงโทษถึง 8 ปี มันโหดร้ายเกินไป มันก็คือลงโทษตลอดชีวิตนั่นเอง เวลัปปัน คนนี้เป็นคู่อาฆาต ไม่กินเส้นกันกับ โมฮัมเหม็ด บิน ฮัมมัม (Mohammed bin Hammam) อดีตประธาน เอเอ๊ฟซี เมื่อเป็นศัตรูกับ บิน ฮัมมัม ก็แสดงว่าอยู่ข้าง เซ้พ น่ะซี
ในขณะที่ รัสเซีย ซึ่งได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2018 นั้น แม้จะมีเรื่องฉาว แต่ วลาดีเมียร์ ปูติน (Vladimir Putin) ประธานาธิบดี ได้แสดงออกว่าเข้าข้าง เซ้พ มาตลอด และ วีทาลี มุทโก (Vitali Mutko) รัฐมนตรีกีฬา ยังโวยว่า นั่นเป็นการลงโทษที่รุนแรงทีเดียว พวกเขามีหลักฐานหรือไง ไม่เห็นจะมีหลักฐานอะไรกระจ่างชัดเลย มันช่างเป็นวันที่น่าหดหู่ของวงการฟุตบอลทวีปยุโรป เพราะ ปลาตีนี เป็นผู้นำของ ยูเอ๊ฟฟ่า นอกจากนั้น ตนก็ไม่คิดว่า เซ้พ ควรโดนแบนจากวงการฟุตบอลด้วย ใครเป็นพวก เซ้พ กับ ปลาตีนี ก็ออกมาโวยคำสั่งแบน ใครไม่เป็นพวกก็ออกมาสรรเสริญ ตกลงองค์กรฟุตบอลนี้มันดูที่ผลประโยชน์หรือไร