คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
ผมถือหลักว่า ในยามที่องค์กรใดเกิดปัญหาขึ้น ไม่ว่าจะด้วยเรื่องผลงาน ความโปร่งใส สุจริต ถูกต้อง ยุติธรรม หรืออื่นๆ จะต้องมีกระบวนการที่เอื้ออำนวยต่อการเปลี่ยนแปลงผู้ที่ทำหน้าที่บริหารหรือผู้ที่กุมอำนาจในองค์กรนั้นได้เสมอ ไม่ใช่ตกอยู่ในสภาวะถูกยึดครองอยู่ตลอดไปด้วยวิธีการล็อคเสียงสนับสนุนหรือวิธีการอื่นใด
วันนี้ เราเดินทางมาถึงจุดที่ผู้กุมอำนาจองค์กรฟุตบอลระดับโลกต้องหงายเก๋ง ถูกองค์กรของตนเองสั่งแบน คนที่เข้ามาใหม่ได้เริ่มกระบวนการสอบสวน และกำลังไล่เอาผิดบุคคลที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ผิดปกติในการบริหารงานฟุตบอลทีละคนสองคน เลยไปถึงองค์กรในระดับชาติสมาชิกด้วย โดยไม่มีการปกป้องใครทั้งสิ้น นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้การเปลี่ยนแปลงในองค์กรของชาติสมาชิกเกิดขึ้นได้อย่างสะดวก
ใครจะเป็นผู้มาใหม่และจะดีกว่าเก่าหรือไม่ ผมว่ามันไม่ใช่ปัญหา ก็ในเมื่อของเก่ามันมีปัญหา เพียงแค่มีการเปลี่ยนแปลง มันก็ยังดีกว่าติดล็อค จมปลักอยู่กับของเก่าที่มันมีปัญหา ซึ่งถ้าของใหม่มันไม่ดีก็เปลี่ยนกันอีกได้ อย่ามาตั้งแง่ว่า กบเลือกนาย หรือ เข้าอีหรอบเดิม เพราะผมไม่ต้องการเห็นองค์กรใดที่มีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการที่ไม่ถูกต้อง โปร่งใส และผู้คนมากมายติติง สาปแช่ง แต่ไม่อาจมีการเปลี่ยนแปลงคนกุมอำนาจ
หันกลับมามององค์กรฟุตบอลของไทย วันนี้ อดีตนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยที่ครองอำนาจมานานเกือบทศวรรษ ถูก สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า แบน และมี คณะกรรมการกลาง ที่ ฟีฟ่า มอบอำนาจให้มาดูแลการเลือกตั้งให้โปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม ซึ่งได้เผยออกมาแล้วว่า จะจัดประชุมใหญ่เพื่อเลือกตั้งผู้บริหารสมาคมฯ ชุดใหม่ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์นี้ โดยเปิดรับสมัครผู้ชิงตำแหน่งในเดือนธันวาคม ไปจนถึงวันที่ 11 มกราคม 2559 อันนี้ผมมองว่า ยังเปิดโอกาสให้คนที่ถูกแบนพ้นโทษกลับมาลงสมัครได้ทัน ก็ถือว่าให้โอกาส อย่างไรก็ตาม หากทาง ฟีฟ่า พบเหตุอันสมควรที่จะต้องแบนต่อหรือแบนยาว อันนี้ก็น่าจะถือว่าปิดฉาก เกิดการเปลี่ยนแปลงแน่นอน
เรื่องการกุมเสียงสนับสนุนโดยเฉพาะในบรรดาสโมสรระดับลีกภูมิภาค ดิวิเชิ่น 2 ที่มีตัวแทนถึง 30 เสียงอันเป็นกุญแจสำคัญในการเลือกตั้งนั้น คณะกรรมการกลางก็ประกาศจะให้มีการเลือกกันใหม่ ใครได้รับเลือกไปแล้วจะโวยวายอย่างไร ก็ว่ากันไป แต่เท่าที่ผมทราบนั้น มันมีโพยมาเรียบร้อย แล้วก็ยกมือกันพรึ่บพรั่บ ใครไม่ได้รับการทาบทามได้แต่ออกอาการงง แต่ก็คงไม่กล้าขัด เดี๋ยวจะมีปัญหากันเปล่าๆ ซึ่งผมว่าบรรดาสโมสรที่ไม่ได้รับการทาบทามและไม่ได้เห็นด้วยกับกระบวนการที่ผ่านมาก็มีจำนวนมากพอสมควร
เชื่อหรือว่า ฝั่งที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงไม่ได้มีการหารือกัน และพยายามรวบรวมเสียงสนับสนุนเช่นกัน อันนี้เมื่อรวมเหตุสยองขวัญที่เพิ่งเกิดขึ้นในการแข่งขันรอบแชมเปี้ยนส์ลีกแล้ว อาจทำให้หลายสโมสรชักหวั่นใจในการเข้าร่วมกับฝ่ายเดิม ล่าสุด คณะกรรมการกลางประกาศจัดให้มีการเลือกกันใหม่ คราวนี้ทุกสโมสรต้องไปหย่อนบัตรกันเห็นๆที่การกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งมีคนบอกผมว่า มันคงมีการเปลี่ยนแปลงจากที่ฝั่งใดจะโกยคะแนนตุนไว้ 30 เสียงเต็มๆ คงเหลือเพียงครึ่งเดียว
วันนี้ แฟนบอลชาวไทยมีตัวเลือกที่เหนือกว่าคำว่า “สมน้ำสมเนื้อ” ขึ้นมาอีกหนึ่ง พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำลังจะเปิดแถลงข่าวที่ โรงแรมพูลแมน ซอยรางน้ำ เวลา 15.00 น. เพื่อประกาศตัวอย่างเป็นทางการในการลงสมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยคนใหม่
การมี “บิ๊กอ๊อด” เข้ามาเป็นผู้นำในการบริหารงานสมาคมฯ ที่มีปัญหาเรื่องความไม่โปร่งใสมาตลอด ก็คงทำให้โปร่งใสเกิดขึ้นเป็นลำดับแรก ครอบครัวลูกเมียมีธุรกิจ มีเงินอยู่แล้ว คงไม่ได้มาหาเลี้ยงชีพด้วยตำแหน่งนายกสมาคมฯ อย่างแน่นอน ความสนิทสนมกับ คิงพาวเวอร์ และธุรกิจระดับใหญ่อีกมากมายก็น่าจะดลบันดาลเม็ดเงินให้วงการฟุตบอลไทยได้ไม่ยาก เชื่อมโยงไปถึง เล้สเต้อร์ ซิตี้ ทีมหัวตาราง เพรอมิเอ ลีก ในขณะนี้ที่เด็กไทยจะได้โอกาสไปลับแข้งอีก ผมแอบได้ยินว่า ถ้าแกขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลได้ก็ไม่เอาค่านายหน้าด้วยนะ นี่ยังไม่รวมโครงการที่ผมถูกขอไว้ อย่าเพิ่งเปิดเผย ซึ่งหากใครได้ยินก็ต้องขานรับด้วยความยินดีอย่างแน่นอน ฟุตบอลไทย ต้อง “เปลี่ยน” ซะตั้งแต่วันนี้ครับ
ผมถือหลักว่า ในยามที่องค์กรใดเกิดปัญหาขึ้น ไม่ว่าจะด้วยเรื่องผลงาน ความโปร่งใส สุจริต ถูกต้อง ยุติธรรม หรืออื่นๆ จะต้องมีกระบวนการที่เอื้ออำนวยต่อการเปลี่ยนแปลงผู้ที่ทำหน้าที่บริหารหรือผู้ที่กุมอำนาจในองค์กรนั้นได้เสมอ ไม่ใช่ตกอยู่ในสภาวะถูกยึดครองอยู่ตลอดไปด้วยวิธีการล็อคเสียงสนับสนุนหรือวิธีการอื่นใด
วันนี้ เราเดินทางมาถึงจุดที่ผู้กุมอำนาจองค์กรฟุตบอลระดับโลกต้องหงายเก๋ง ถูกองค์กรของตนเองสั่งแบน คนที่เข้ามาใหม่ได้เริ่มกระบวนการสอบสวน และกำลังไล่เอาผิดบุคคลที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ผิดปกติในการบริหารงานฟุตบอลทีละคนสองคน เลยไปถึงองค์กรในระดับชาติสมาชิกด้วย โดยไม่มีการปกป้องใครทั้งสิ้น นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้การเปลี่ยนแปลงในองค์กรของชาติสมาชิกเกิดขึ้นได้อย่างสะดวก
ใครจะเป็นผู้มาใหม่และจะดีกว่าเก่าหรือไม่ ผมว่ามันไม่ใช่ปัญหา ก็ในเมื่อของเก่ามันมีปัญหา เพียงแค่มีการเปลี่ยนแปลง มันก็ยังดีกว่าติดล็อค จมปลักอยู่กับของเก่าที่มันมีปัญหา ซึ่งถ้าของใหม่มันไม่ดีก็เปลี่ยนกันอีกได้ อย่ามาตั้งแง่ว่า กบเลือกนาย หรือ เข้าอีหรอบเดิม เพราะผมไม่ต้องการเห็นองค์กรใดที่มีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการที่ไม่ถูกต้อง โปร่งใส และผู้คนมากมายติติง สาปแช่ง แต่ไม่อาจมีการเปลี่ยนแปลงคนกุมอำนาจ
หันกลับมามององค์กรฟุตบอลของไทย วันนี้ อดีตนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยที่ครองอำนาจมานานเกือบทศวรรษ ถูก สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า แบน และมี คณะกรรมการกลาง ที่ ฟีฟ่า มอบอำนาจให้มาดูแลการเลือกตั้งให้โปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม ซึ่งได้เผยออกมาแล้วว่า จะจัดประชุมใหญ่เพื่อเลือกตั้งผู้บริหารสมาคมฯ ชุดใหม่ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์นี้ โดยเปิดรับสมัครผู้ชิงตำแหน่งในเดือนธันวาคม ไปจนถึงวันที่ 11 มกราคม 2559 อันนี้ผมมองว่า ยังเปิดโอกาสให้คนที่ถูกแบนพ้นโทษกลับมาลงสมัครได้ทัน ก็ถือว่าให้โอกาส อย่างไรก็ตาม หากทาง ฟีฟ่า พบเหตุอันสมควรที่จะต้องแบนต่อหรือแบนยาว อันนี้ก็น่าจะถือว่าปิดฉาก เกิดการเปลี่ยนแปลงแน่นอน
เรื่องการกุมเสียงสนับสนุนโดยเฉพาะในบรรดาสโมสรระดับลีกภูมิภาค ดิวิเชิ่น 2 ที่มีตัวแทนถึง 30 เสียงอันเป็นกุญแจสำคัญในการเลือกตั้งนั้น คณะกรรมการกลางก็ประกาศจะให้มีการเลือกกันใหม่ ใครได้รับเลือกไปแล้วจะโวยวายอย่างไร ก็ว่ากันไป แต่เท่าที่ผมทราบนั้น มันมีโพยมาเรียบร้อย แล้วก็ยกมือกันพรึ่บพรั่บ ใครไม่ได้รับการทาบทามได้แต่ออกอาการงง แต่ก็คงไม่กล้าขัด เดี๋ยวจะมีปัญหากันเปล่าๆ ซึ่งผมว่าบรรดาสโมสรที่ไม่ได้รับการทาบทามและไม่ได้เห็นด้วยกับกระบวนการที่ผ่านมาก็มีจำนวนมากพอสมควร
เชื่อหรือว่า ฝั่งที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงไม่ได้มีการหารือกัน และพยายามรวบรวมเสียงสนับสนุนเช่นกัน อันนี้เมื่อรวมเหตุสยองขวัญที่เพิ่งเกิดขึ้นในการแข่งขันรอบแชมเปี้ยนส์ลีกแล้ว อาจทำให้หลายสโมสรชักหวั่นใจในการเข้าร่วมกับฝ่ายเดิม ล่าสุด คณะกรรมการกลางประกาศจัดให้มีการเลือกกันใหม่ คราวนี้ทุกสโมสรต้องไปหย่อนบัตรกันเห็นๆที่การกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งมีคนบอกผมว่า มันคงมีการเปลี่ยนแปลงจากที่ฝั่งใดจะโกยคะแนนตุนไว้ 30 เสียงเต็มๆ คงเหลือเพียงครึ่งเดียว
วันนี้ แฟนบอลชาวไทยมีตัวเลือกที่เหนือกว่าคำว่า “สมน้ำสมเนื้อ” ขึ้นมาอีกหนึ่ง พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำลังจะเปิดแถลงข่าวที่ โรงแรมพูลแมน ซอยรางน้ำ เวลา 15.00 น. เพื่อประกาศตัวอย่างเป็นทางการในการลงสมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยคนใหม่
การมี “บิ๊กอ๊อด” เข้ามาเป็นผู้นำในการบริหารงานสมาคมฯ ที่มีปัญหาเรื่องความไม่โปร่งใสมาตลอด ก็คงทำให้โปร่งใสเกิดขึ้นเป็นลำดับแรก ครอบครัวลูกเมียมีธุรกิจ มีเงินอยู่แล้ว คงไม่ได้มาหาเลี้ยงชีพด้วยตำแหน่งนายกสมาคมฯ อย่างแน่นอน ความสนิทสนมกับ คิงพาวเวอร์ และธุรกิจระดับใหญ่อีกมากมายก็น่าจะดลบันดาลเม็ดเงินให้วงการฟุตบอลไทยได้ไม่ยาก เชื่อมโยงไปถึง เล้สเต้อร์ ซิตี้ ทีมหัวตาราง เพรอมิเอ ลีก ในขณะนี้ที่เด็กไทยจะได้โอกาสไปลับแข้งอีก ผมแอบได้ยินว่า ถ้าแกขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลได้ก็ไม่เอาค่านายหน้าด้วยนะ นี่ยังไม่รวมโครงการที่ผมถูกขอไว้ อย่าเพิ่งเปิดเผย ซึ่งหากใครได้ยินก็ต้องขานรับด้วยความยินดีอย่างแน่นอน ฟุตบอลไทย ต้อง “เปลี่ยน” ซะตั้งแต่วันนี้ครับ