คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
หลังจากที่ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ประกาศแบน วรวีร์ มะกูดี ห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นระยะเวลา 90 วัน โดยให้มีผลทันที ตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา เหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นกับวงการฟุตบอลของไทยมากมายเป็นลำดับ แต่ในส่วนของทีมชาติที่กำลังอยู่ในช่วงแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ยังเดินหน้าฉลุย ไม่ยักมีผลกระทบให้สะเทือนฟอร์มการเล่นแม้แต่น้อย
ไม่กี่วันถัดจากนั้น ผมเดินทางไปยังทวีปยุโรป ซึ่ง บี บางปะกง หรือ วรเทพ มากโภคา และ น้องเอก นิตยาพร ธาราสุข เพื่อนพิธีกรร่วมรายการ “สายเลือดบอลไทย” ช่วยกันแซวตอนเข้ารายการเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมว่า ผมคงไม่ได้ไป ซูริค ประเทศสวิส อันเป็นเมืองที่ตั้งของ สำนักงานใหญ่ ฟีฟ่า โดยมีภารกิจอะไรหรอกนะ เหมือนกับรู้ ทั้งๆที่ไม่ได้บอก ผมเดินทางไปยัง เมืองหลวงของฟุตบอลโลก จริงๆ และใช้เวลาเพียงแค่ 6 ชั่วโมงก็บินกลับ กรุงปารี
เท่าที่ผมทราบ มีผู้นำเรื่องการประชุมใหญ่สมาคมฯ ที่ โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน เมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งเห็นว่าไม่ถูกต้องหลายประเด็นไปร้องเรียนต่อ ฟีฟ่า เขาจึงส่งเจ้าหน้าที่มาไต่สวนที่ กรุงเทพมหานคร ในวันรุ่งขึ้นหลังจากคำสั่งแบน
เรื่องที่ร้องเรียนไปก็คือ ข้อบังคับสมาคมฯ ที่ศาลตัดสินว่าปลอมแปลงเอกสาร เรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องสมาชิกสมาคมฯ ไม่ได้รับแจ้งเชิญประชุมใหญ่พิเศษ 30 วันล่วงหน้า เรื่องตัวแทนโซนต่างๆของ ลีกภูมิภาค ที่จะได้สิทธิ์ทำหน้าที่ลงคะแนนเลือกตั้ง เรื่องการชำระเงินค่าปรับเข้าบัญชีส่วนตัวของใครคนหนึ่ง ฯลฯ
ในปัจจุบัน ผู้บริหารสมาคมฯ ชุดเก่าหมดวาระไปแล้ว และ ฟีฟ่า ประกาศสั่งถอดเองเลย พร้อมกันนั้นก็แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาชุดหนึ่งโดยมี พลเรือเอก สุรวุฒิ มหารมณ์ เป็นประธาน ทำหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งให้เรียบร้อยภายในไม่เกินวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559 ซึ่งล่าสุดคณะทำงานชุดดังกล่าวได้เผยว่า จะเริ่มกระบวนการกันใหม่ตั้งแต่การเปิดรับสมัครผู้ที่จะลงชิงตำแหน่งกรรมการบริหารสมาคมฯ
การรับสมัครผู้ชิงตำแหน่งก็มีกำหนดระยะเวลาของมัน ทำให้หลายคนเกิดความสงสัยว่า แล้วใครจะสมัครได้หรือไม่ได้บ้าง บางคนที่ติดโทษแบนนั้นจะพ้นโทษทันเวลาหรือไม่ ซึ่งหากนับดูให้ดี โทษแบน 90 วันดังกล่าว น่าจะไปครบกำหนดวันสุดท้ายในวันที่ 9 มกราคม 2559 ทำให้ วันรุ่งขึ้น 10 มกราคม ก็กลับเข้ามายุ่งเกี่ยวได้ ในขณะเดียวกัน คณะทำงานชุดนี้ได้เผยว่า จะจัดให้มีการเลือกตั้งให้เสร็จก่อนกำหนดเส้นตาย 1 สัปดาห์เสียด้วย ทำให้ในเวลานี้ เรื่องเงื่อนเวลาเป็นสิ่งที่ทุกคนจับจ้อง การเลือกตั้งจะถูกกำหนดให้เป็นวันไหน เปิดรับสมัครช่วงเวลาใด ซึ่งจะมีผลในการช่วยรั้งรอเวลา หรือ ตัดสิทธิ์ “คนติดโทษแบน” โดยอัตโนมัติกันแน่
ผมว่าในประเทศไทยจะดำเนินการอย่างไรก็ว่ากันไปให้เหมาะให้ควร แต่เรื่องใหญ่ที่ผมจะบอกในวันนี้ก็คือ มีคนพูดให้ผมฟังชัดๆว่า “ฟีฟ่า มีกำหนดแบนบุคคลที่เขาพิจารณาแล้วเห็นว่า ทำผิดด้านจริยธรรม ห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นระยะเวลา 2-5 ปี ซึ่งจะมีการประกาศออกมาภายในไม่เกินสิ้นเดือนนี้” ครับ
หลังจากที่ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ประกาศแบน วรวีร์ มะกูดี ห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นระยะเวลา 90 วัน โดยให้มีผลทันที ตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา เหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นกับวงการฟุตบอลของไทยมากมายเป็นลำดับ แต่ในส่วนของทีมชาติที่กำลังอยู่ในช่วงแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ยังเดินหน้าฉลุย ไม่ยักมีผลกระทบให้สะเทือนฟอร์มการเล่นแม้แต่น้อย
ไม่กี่วันถัดจากนั้น ผมเดินทางไปยังทวีปยุโรป ซึ่ง บี บางปะกง หรือ วรเทพ มากโภคา และ น้องเอก นิตยาพร ธาราสุข เพื่อนพิธีกรร่วมรายการ “สายเลือดบอลไทย” ช่วยกันแซวตอนเข้ารายการเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมว่า ผมคงไม่ได้ไป ซูริค ประเทศสวิส อันเป็นเมืองที่ตั้งของ สำนักงานใหญ่ ฟีฟ่า โดยมีภารกิจอะไรหรอกนะ เหมือนกับรู้ ทั้งๆที่ไม่ได้บอก ผมเดินทางไปยัง เมืองหลวงของฟุตบอลโลก จริงๆ และใช้เวลาเพียงแค่ 6 ชั่วโมงก็บินกลับ กรุงปารี
เท่าที่ผมทราบ มีผู้นำเรื่องการประชุมใหญ่สมาคมฯ ที่ โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน เมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งเห็นว่าไม่ถูกต้องหลายประเด็นไปร้องเรียนต่อ ฟีฟ่า เขาจึงส่งเจ้าหน้าที่มาไต่สวนที่ กรุงเทพมหานคร ในวันรุ่งขึ้นหลังจากคำสั่งแบน
เรื่องที่ร้องเรียนไปก็คือ ข้อบังคับสมาคมฯ ที่ศาลตัดสินว่าปลอมแปลงเอกสาร เรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องสมาชิกสมาคมฯ ไม่ได้รับแจ้งเชิญประชุมใหญ่พิเศษ 30 วันล่วงหน้า เรื่องตัวแทนโซนต่างๆของ ลีกภูมิภาค ที่จะได้สิทธิ์ทำหน้าที่ลงคะแนนเลือกตั้ง เรื่องการชำระเงินค่าปรับเข้าบัญชีส่วนตัวของใครคนหนึ่ง ฯลฯ
ในปัจจุบัน ผู้บริหารสมาคมฯ ชุดเก่าหมดวาระไปแล้ว และ ฟีฟ่า ประกาศสั่งถอดเองเลย พร้อมกันนั้นก็แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาชุดหนึ่งโดยมี พลเรือเอก สุรวุฒิ มหารมณ์ เป็นประธาน ทำหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งให้เรียบร้อยภายในไม่เกินวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559 ซึ่งล่าสุดคณะทำงานชุดดังกล่าวได้เผยว่า จะเริ่มกระบวนการกันใหม่ตั้งแต่การเปิดรับสมัครผู้ที่จะลงชิงตำแหน่งกรรมการบริหารสมาคมฯ
การรับสมัครผู้ชิงตำแหน่งก็มีกำหนดระยะเวลาของมัน ทำให้หลายคนเกิดความสงสัยว่า แล้วใครจะสมัครได้หรือไม่ได้บ้าง บางคนที่ติดโทษแบนนั้นจะพ้นโทษทันเวลาหรือไม่ ซึ่งหากนับดูให้ดี โทษแบน 90 วันดังกล่าว น่าจะไปครบกำหนดวันสุดท้ายในวันที่ 9 มกราคม 2559 ทำให้ วันรุ่งขึ้น 10 มกราคม ก็กลับเข้ามายุ่งเกี่ยวได้ ในขณะเดียวกัน คณะทำงานชุดนี้ได้เผยว่า จะจัดให้มีการเลือกตั้งให้เสร็จก่อนกำหนดเส้นตาย 1 สัปดาห์เสียด้วย ทำให้ในเวลานี้ เรื่องเงื่อนเวลาเป็นสิ่งที่ทุกคนจับจ้อง การเลือกตั้งจะถูกกำหนดให้เป็นวันไหน เปิดรับสมัครช่วงเวลาใด ซึ่งจะมีผลในการช่วยรั้งรอเวลา หรือ ตัดสิทธิ์ “คนติดโทษแบน” โดยอัตโนมัติกันแน่
ผมว่าในประเทศไทยจะดำเนินการอย่างไรก็ว่ากันไปให้เหมาะให้ควร แต่เรื่องใหญ่ที่ผมจะบอกในวันนี้ก็คือ มีคนพูดให้ผมฟังชัดๆว่า “ฟีฟ่า มีกำหนดแบนบุคคลที่เขาพิจารณาแล้วเห็นว่า ทำผิดด้านจริยธรรม ห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นระยะเวลา 2-5 ปี ซึ่งจะมีการประกาศออกมาภายในไม่เกินสิ้นเดือนนี้” ครับ
