ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 - ชั่วโมงนี้ดาวยิงฮอตที่สุดของเวที พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ หนีไม่พ้น เจมี วาร์ดี หัวหอกจากค่าย เลสเตอร์ ซิตี ที่เปิดฤดูกาลได้อย่างร้อนแรงพังตาข่ายไปแล้ว 14 ตุง เป็นดาวซัลโวของลีกและเป็นเจ้าของสถิติใหม่ของลีกเมืองผู้ดีซัด 11 นัดติดต่อกัน จนส่งให้ “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เกาะหัวตารางได้อย่างเหนือความคาดหมาย ซึ่งแน่นอนบรรทัดต่อจากนี้จะทำให้คุณรู้จักแข้งวัย 28 ปีมากขึ้น
สู้ชีวิตตั้งแต่เด็ก
วาร์ดี เกิดที่ เชฟฟิลด์ พื้นฐานครอบครัวของเขาไม่ใช่คนร่ำรวยอะไร คุณพ่อทำงานเป็นพนักงานคุมรถเครนตามไซต์งานก่อสร้าง ส่วนคุณแม่เป็นพนักงานทนายความ แน่นอนว่าพวกเขาไม่มีเงินส่งเสียลูกชายเรียนจนจบรับปริญญาเหมือนครอบครัวอื่นทำให้ วาร์ดี ในวัยเด็กต้องดิ้นรนพอสมควร หารายได้ช่วยครอบครัวด้วยการทำงานในโรงงานผลิตขาเทียม ต้องเผชิญกับสารเคมีอันตรายทุกวันตั้งแต่เด็ก แต่ก็ต้องทำเพราะไม่มีทางเลือก
หันเหสู่วงการลูกหนัง
เมื่อเข้าวัยแตกเนื้อหนุ่ม วาร์ดี เริ่มค้นพบพรสวรรค์ด้านลูกหนังของตัวเองขณะเล่นฟุตบอลกับเพื่อนที่โรงงาน ก่อนตัดสินใจเข้าสู่วงการฟุตบอลกับทีมเยาวชนของ เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ ทีมบ้านเกิด ฝีเท้าโดดเด่นเข้าตาถูกดึงตัวไปเล่นกับทีมสำรองของ สต็อคบริดจ์ ปาร์ค สตีลส์ ซึ่งอยู่ในลีกต่ำสุดของวงการและเลื่อนขึ้นมาเป็นนักเตะทีมชุดใหญ่ปี 2007 ทว่าค่าเหนื่อย 30 ปอนด์ (ประมาณ 1,618 บาท) ต่อสัปดาห์ ไม่พอยาไส้เลี้ยงตัวเอง จึงต้องกลับไปรับจ๊อบทำงานในโรงงานผลิตขาเทียมไปด้วย
นักเตะจอมพเนจร
ถึงได้ย้ายมาเล่นทีมสำรอง ทว่าชีวิตนักเตะของเจ้าตัวไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบย้ายทีมไปเรื่อยไล่ตั้งแต่ ฮัลลิแฟ็กซ์ ทาวน์, ฟลีทวูท ทาวน์ ก่อนถึง ปี 2012 ปฏิเสธข้อเสนอของ แบล็คพูล ข้ามชั้นมาอยู่กับ เลสเตอร์ ซิตี ทีมแห่งลีก แชมเปียนชิป ที่แม้แต่เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตเขาไปตลอดกาล ตอนนั้นย้ายมาด้วยค่าตัว 1 ล้านปอนด์ (ประมาณ 53 ล้านบาท) ก่อนได้ชื่อว่าเป็นนักเตะนอกลีกที่ค่าตัวแพงที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์การซื้อตัว
ห้าวจนเกือบต้องเลิกเล่นฟุตบอล
ปี 2007 วาร์ดี ที่กำลังหนุ่มแน่น เคยทะเลาะวิวาทกับคนที่มาเที่ยวผับด้วยกัน ซึ่งก็รุนแรงถึงขั้นเลือดตกยางออกก่อนถูกจับไปอบรมปรับทัศนคติใหม่ เช้าวันต่อมาถูกปล่อยตัวแต่ก็มีของแถมคือสายรัดข้อเท้าไฟฟ้าติดขามาด้วยเป็นเวลา 6 เดือน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าจับตาควบคุมความประพฤติไม่ให้เจ้าตัวไปก่อเรื่องที่ไหนอีก ซึ่งนักเตะจาก สต็อคบริดจ์ ยอมรับว่าชีวิตช่วงนั้นลำบากพอสมควรแถมเตะบอลไม่สะดวกจนเกือบคิดจะเลิกเล่นมาแล้ว
กลับบ้านช้ากว่าเพื่อนเสมอ
สมัยเล่นให้ สต็อคบริดจ์ วาร์ดี เป็นนักเตะที่กลับบ้านคนสุดท้ายยามแข่งขันเสร็จ ไม่ใช่เพราะขยันซ้อมต่อแต่เป็นเพราะชอบก่อเรื่องวิวาทกับคู่แข่งทีมอื่นตลอด จนถูกหมายหัวจากศัตรูไปทั่วเมือง มีครั้งหนึ่งต้องรอถึง 6 โมงเย็นกว่าจะออกจากสนามได้เพราะเข้าไปปกป้องเพื่อนจากการถูกคู่แข่งล้อเลียนในสนามจนเกือบหวิดมีมวย โดยต้องรอจนกว่านักเตะเจ้าบ้านและกองเชียร์คนอื่นกลับไปให้หมดก่อน สต็อคบริดจ์ ถึงให้คนขับรถไปรับกลับบ้าน
มีเมียชีวิตเปลี่ยน
เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา วาร์ดี เข้าประตูวิวาห์กับ รีเบกาห์ นิโคลสัน แฟนสาวที่คบกันมาตั้งแต่สมัยเริ่มเล่นอาชีพ โดยพิธีแต่งงานถูกเลื่อนให้เร็วกว่ากำหนดเพื่อจะได้มีสมาธิทำผลงานในสนามได้อย่างเต็มที่ เพราะใฝ่ฝันติดทีมชาติอังกฤษ ไปเล่นทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2016 ที่ ฝรั่งเศส ซึ่งก็ได้ประเดิมสนามเล่นให้ รอย ฮอดจ์สัน ช่วงพักเบรกที่ผ่านมา นอกจากนี้ วาร์ดี ยังบอกด้วยว่าชีวิตแต่งงานทำให้เขาเป็นผู้ใหญ่และควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีกว่าเดิม
เรื่องโดย : วัลลภ สวัสดี