“จิ้งจอกสีน้ำเงิน” ทุ่มงบประมาณกว่า 200 ล้านบาท เตรียมคัดสรรเด็กไทย 16 คน เข้าสู่อะคาเดมี เลสเตอร์ ซิตี แห่งเกาะอังกฤษ เพื่อพัฒนาฝีเท้ากว่า 2 ปีครึ่ง ขึ้นมาเป็นแข้งไทยในศึกพรีเมียร์ลีกต่อไป
เมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ ได้มีการจัดงานแถลงข่าวความพร้อมโครงการ “จิ้งจอกสยาม อะคาเดมี่” เพื่อค้นหานักเตะเยาวชนไทย เข้าไปเรียนรู้และฝึกฝนความเป็นนักฟุตบอลอาชีพในระดับสากล กับสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ
โดย คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา รองประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี เปิดเผยถึงที่มาของโครงการว่า สำหรับปีนี้ ทางสโมสรได้เลื่อนชั้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป้าหมายหลักคือการอยู่รอดให้ได้ในลีกสูงสุด เพราะว่าเป็นทีมน้องใหม่ ส่วนอีกเป้าหมายคือการสร้างความฝันที่จะเห็นเยาวชนไทย ได้มีโอกาสเข้าไปเล่นในฟุตบอลอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นลีกอังกฤษ หรือยุโรป
“เรายกทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นแบบอย่างในการทำอะคาเดมี ที่ดึงเอาเด็กเก่งๆ หลายคนในอังกฤษเข้าไปเล่นในสโมสร และก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นแถวแนวหน้าในทีม ขณะที่ เลสเตอร์ เป็นทีมของคนไทย ทำให้มองว่าเด็กไทยก็มีฝีมือไม่แพ้กัน จึงได้ทุ่มงบประมาณกว่า 200 ล้านบาท สำหรับโครงการ “จิ้งจอกสยาม อะคาเดมี” ซึ่งจะคัดเยาวชนไทยทั่วประเทศ อายุไม่เกิน 16 ปี โดยจะคัดเลือกรอบแรกจาก 5 ภาค จำนวน 110 คน ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคมนี้ ไปจนถึงรอบสุดท้าย วันที่ 26 ตุลาคม จะมีเจ้าหน้าที่จากเลสเตอร์อะคาเดมี่ นำโดย จอห์น รอตกิ้ง ผอ.อะคาเดมีของเลสเตอร์ มาคัดแข้งไทยเหลือเพียง 16 คน บินไปอยู่ที่อังกฤษเป็นระยะเวลา 2 ปีครึ่ง เพื่อปรับภาษา และฝึกซ้อม รวมทั้งศึกษาอยู่ที่ประเทศอังกฤษอีกด้วย”
ทั้งนี้ หลังจบโครงการระยะเวลา 2 ปีครึ่ง หากมีเยาวชนที่ทำผลงานได้เข้าตา จะถูกเซ็นสัญญาเป็นผู้เล่นของทีมจิ้งจอกสีน้ำเงินทันที “แม้ว่าการดึงตัวผู้เล่นต่างชาติที่อยู่ในอันดับต่ำกว่า 75 โลก ไปค้าแข้งกับทีมจะเป็นเรื่องที่มีข้อจำกัดค่อนข้างมาก เนื่องเป็นผู้เล่นเยาวชน แต่หากมีความสามารถและฝีเท้าดีจริงๆ ทางสโมสรก็พร้อมที่จะยื่นเรื่องต่อศาลกีฬาโลก เพื่อดึงตัวมาอยู่กับทีมให้ได้อย่างแน่นอน” รองนายใหญ่เลสเตอร์ กล่าว
นอกจากนี้ เกณฑ์ในการคัดเลือกแข้งเยาวชนไทยเพื่อเข้าสู่โครงการ คุณอัยยวัฒน์ เปิดเผยว่า จะต้องผ่านแบบทดสอบด้านจิตใจให้ได้ นอกเหนือจากฝีเท้าที่โดดเด่น เพราะการเดินทางไปอยู่ต่างประเทศเป็นเวลานาน จะต้องใช้ความอดทนและความตั้งใจอย่างมาก แต่เพื่อความสำเร็จในอาชีพฟุตบอล เชื่อว่าเด็กทุกคนจะสามารถทำได้อย่างแน่นอน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *