ทีมสหราชอาณาจักร ตั้งความหวังครองแชมป์ ศึกเทนนิส "เดวิส คัพ" ที่เมืองเกนท์ ประเทศเบลเยียม ครั้งแรกรอบ 79 ปี แต่ต้องขึ้นอยู่กับการสร้างประวัติศาสตร์ของ แอนดี เมอร์เรย์ มือ 2 ของโลก ระหว่างวันที่ 27-29 พฤศจิกายน
เมอร์เรย์ เก็บชัยมาตลอด 6 แมตช์ประเภทชายเดี่ยว ตลอดปี 2015 อาจกลายเป็นผู้เล่นคนที่ 3 ของทัวร์นาเมนต์ ซึ่งทำสถิติชนะ 8 เกมรวด หากพิชิต ดาวิด กอฟฟิน กับ สตีฟ ดาร์ซิส 2 นักหวดเจ้าถิ่น สุดสัปดาห์นี้
มีเพียง จอห์น แม็คเอ็นโร กับ แม็ตส์ วิแลนเดอร์ 2 ตำนานชาว อเมริกัน และ สวีเดน ตามลำดับ ที่สะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น ในการชิงแชมป์โลก ประเภททีมชาย นับตั้งแต่ยึดระบบแบบ เวิลด์ กรุป เมื่อปี 1981 แต่มีเพียง "บิ๊กแม็ค" เท่านั้นที่ชนะรวด และครองแชมป์
แม็คเอ็นโร ประสบความสำเร็จกับ สหรัฐอเมริกา ปี 1982 เอาชนะ วีเจย์ อัมริตราจ์ กับ ราเมช คริชนาน (อินเดีย) , อันเดอร์ส จาริย์ดด์ กับ วิแลนเดอร์ (สวีเดน) , ปีเตอร์ แม็คนามารา กับ จอห์น อเล็กซานเดอร์ (ออสเตรเลีย) และ ยานนิค โนอาห์ กับ เฮนรี เลอคอนเต (ฝรั่งเศส)
ต่อมา วิแลนเดอร์ แชมป์ แกรนด์ สแลม 7 สมัย ทำได้เช่นกัน ปี 1983 แต่ ทีมสวีเดน พลาดท่าแก่ ออสเตรเลีย 2-3 คู่ รอบชิงชนะเลิศ ที่กรุงเมลเบิร์น
32 ปีผ่านไป เมอร์เรย์ แชมป์ แกรนด์ สแลม 2 สมัย มีสิทธิ์ตามรอยรุ่นพี่ เอาชนะ โดนัลด์ ยัง กับ จอห์น อิสเนอร์ (สหรัฐฯ) , โจ-วิลเฟรด ซองกา กับ กิลส์ ซิมง (ฝรั่งเศส) และ ธานาซี คอกคินาคิส กับ เบอร์นาร์ด โทมิช (ออสเตรเลีย) ตามลำดับ
หาก หวดวัย 28 ปี ลงเล่นประเภทชายคู่ ก็อาจเป็นคนที่ 4 ในประวัติศาสตร์ เดวิส คัพ ซึ่งชนะ 11 แมตช์ หรือมากกว่า ภายใน 1 ปี ต่อจาก แม็คเอ็นโร (12-0) ปี 1983 , มิชาเอล สติช (11-1) ปี 1993 และ อิวาน ลูบิซิช (11-1) ปี 1995
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
