คอลัมน์ “TIMEOUT” โดย “ชมณัฐ”
กลายเป็นที่ถกเถียงกันในวงการฟุตบอล กรณีการเปลี่ยนผู้เล่นต่างชาติเกินโควตาของ แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมฟอร์มแรงแห่งศึก โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก จนถูกลงโทษปรับผลการแข่งขันที่บุกไปชนะ บีอีซี เทโรศาสน 1-0 เป็นแพ้ 0-3 แถมโดนปรับเงินอีก 30,000 บาท แต่งานนี้ต้องบอกว่า “แข้งเทพ” ผิดเต็มประตู
เกมดังกล่าว แบงค็อก ส่งผู้เล่นต่างชาติออกสตาร์ท 3 คน คือ คาลิฟา ซิสเซ (ฝรั่งเศส), ดราแกน บอสโควิช (เซอร์เบีย), เลอันโดร ตาตู (บราซิล) และผู้เล่นโควตาเอเชียอีก 1 คน คือ เจย์ซี อ็อควุนวานเน (บาห์เรน) ตามโควตา 3+1 จากนั้นในนาที 55 ซิสเซ โดนไล่ออกจากสนาม ก่อนที่นาที 79 จะส่ง โรเมียง กัสมี(ฝรั่งเศส) ลงแทน อ็อควุนวานเน ซึ่งเป็นโควตาเอเชีย(AFC)
โดยกฎข้อ 5.3 (1) ระบุว่า ส่งผู้เล่นต่างชาติลงได้ 3 คนตลอดการแข่งขัน และให้ลงเพิ่มได้อีก 1 คนในกรณีที่เป็นผู้เล่นสัญชาติอยู่ในประเทศสมาชิกของ AFC ต่อด้วยข้อ 5.3 (4) ระบุต่อว่า การใช้สิทธิผู้เล่นตางชาติตามจำนวนในข้อ 5.3 (1) แล้ว หากคนใดคนหนึ่งถูกตัดสินให้ออกจากการแข่งขันไป (ได้รับใบแดง) ผู้เล่นต่างชาติในสนามแข่งขัน ต้องลดจำนวนลงไปตามนั้น ไม่สามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นไทยออกและนำผู้เล่นต่างชาติเข้าไปเล่นเพิ่มได้อีก
ถอดความภาษาชาวบ้านง่ายๆก็คือ ถ้านักเตะต่างชาติโดนใบแดงไปแล้ว โควตาผู้เล่นต่างชาติในสนามจาก 3 คน ก็ต้องลดจำนวนลงไปด้วย (เท่ากับว่าโควตาในส่วนของ ซิสเซ ที่โดนใบแดงนั้นหมดไปแล้วไม่สามารถใช้ได้อีก) แต่ทาง แบงค็อก กลับส่งผู้เล่นต่างชาติลงมาเพิ่มอีก 1 คน โดยแทนที่ในส่วนของผู้เล่นเอเชีย จึงส่งให้เกมดังกล่าว “แข้งเทพ” ใช้ผู้เล่นต่างชาติถึง 4 โควตา และผู้เล่นเอเชียอีก 1 โควตา
แม้ แบงค็อก พยายามจะประท้วงว่าไม่ได้ทำผิดกฎ โดยอ้างตามวรรคสุดท้ายของระเบียบข้อดังกล่าวว่า ตนเปลี่ยนผู้เล่นเอเชียออกแล้วส่งผู้เล่นต่างชาติลงแทน ไม่ใช่เป็นการ “เปลี่ยนตัวผู้เล่นไทยออกและนำผู้เล่นต่างชาติเข้าไปเล่นเพิ่ม” เหมือนที่กฎห้าม แต่ดูแล้วฟังไม่ขึ้นสักเท่าไหร่ เพราะส่วนนี้เป็นเพียงส่วนขยายความเท่านั้น ภาพรวมของกฎยังชัดเจนอยู่ ส่วนการถูกปรับแพ้ 0-3 และโดนปรับเงินนั้นก็เป็นไปตามกฎของเอเอฟซีทุกประการ
เหนือสิ่งอื่นใดต้องขอชื่นชมทีมงานของ บีอีซี เทโรศาสน ที่แม่นกฎ และรักษาสิทธิ์ของตัวเองได้ทันควัน อย่าไปสนใจเสียงกาที่บ้วนน้ำลายผ่านคีย์บอร์ดทำนองว่า ทำไมไม่ประท้วงตั้งแต่ในเกม ทำไมไม่ตัดแต้มอย่างเดียวที่ปรับแพ้เลยเพราะจะช่วยกันหรือเปล่า หรือมีการตัดสินเอื้อประโยชน์กันหรือเปล่า
เพราะอย่าลืมว่าเมื่อปี 3 ปีก่อน “มังกรไฟ” เคยเสียประโยชน์ในกรณีคล้ายกันมาแล้วทั้งที่ตัวเองปฏิบัติถูกต้อง โดยกำลังจะเปลี่ยนตัวผู้เล่นต่างชาติลงสนาม แต่กลับโดนแมตช์คอมมิชันเนอร์เบรกกลางคันเพราะมองว่าผิดกฎ แม้หลังจบเกมจะยื่นเรื่องประท้วงแต่ก็ไร้ผล ได้เพียงหนังสือขอโทษจาก ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานทีพีแอลในขณะนั้น และการแสดงสปิริตขอพักงานตัวเองของแมตช์คอมฯเท่านั้น ไม่มีการเปลี่ยนผลการแข่งขันแต่อย่างใด
กลายเป็นที่ถกเถียงกันในวงการฟุตบอล กรณีการเปลี่ยนผู้เล่นต่างชาติเกินโควตาของ แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมฟอร์มแรงแห่งศึก โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก จนถูกลงโทษปรับผลการแข่งขันที่บุกไปชนะ บีอีซี เทโรศาสน 1-0 เป็นแพ้ 0-3 แถมโดนปรับเงินอีก 30,000 บาท แต่งานนี้ต้องบอกว่า “แข้งเทพ” ผิดเต็มประตู
เกมดังกล่าว แบงค็อก ส่งผู้เล่นต่างชาติออกสตาร์ท 3 คน คือ คาลิฟา ซิสเซ (ฝรั่งเศส), ดราแกน บอสโควิช (เซอร์เบีย), เลอันโดร ตาตู (บราซิล) และผู้เล่นโควตาเอเชียอีก 1 คน คือ เจย์ซี อ็อควุนวานเน (บาห์เรน) ตามโควตา 3+1 จากนั้นในนาที 55 ซิสเซ โดนไล่ออกจากสนาม ก่อนที่นาที 79 จะส่ง โรเมียง กัสมี(ฝรั่งเศส) ลงแทน อ็อควุนวานเน ซึ่งเป็นโควตาเอเชีย(AFC)
โดยกฎข้อ 5.3 (1) ระบุว่า ส่งผู้เล่นต่างชาติลงได้ 3 คนตลอดการแข่งขัน และให้ลงเพิ่มได้อีก 1 คนในกรณีที่เป็นผู้เล่นสัญชาติอยู่ในประเทศสมาชิกของ AFC ต่อด้วยข้อ 5.3 (4) ระบุต่อว่า การใช้สิทธิผู้เล่นตางชาติตามจำนวนในข้อ 5.3 (1) แล้ว หากคนใดคนหนึ่งถูกตัดสินให้ออกจากการแข่งขันไป (ได้รับใบแดง) ผู้เล่นต่างชาติในสนามแข่งขัน ต้องลดจำนวนลงไปตามนั้น ไม่สามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นไทยออกและนำผู้เล่นต่างชาติเข้าไปเล่นเพิ่มได้อีก
ถอดความภาษาชาวบ้านง่ายๆก็คือ ถ้านักเตะต่างชาติโดนใบแดงไปแล้ว โควตาผู้เล่นต่างชาติในสนามจาก 3 คน ก็ต้องลดจำนวนลงไปด้วย (เท่ากับว่าโควตาในส่วนของ ซิสเซ ที่โดนใบแดงนั้นหมดไปแล้วไม่สามารถใช้ได้อีก) แต่ทาง แบงค็อก กลับส่งผู้เล่นต่างชาติลงมาเพิ่มอีก 1 คน โดยแทนที่ในส่วนของผู้เล่นเอเชีย จึงส่งให้เกมดังกล่าว “แข้งเทพ” ใช้ผู้เล่นต่างชาติถึง 4 โควตา และผู้เล่นเอเชียอีก 1 โควตา
แม้ แบงค็อก พยายามจะประท้วงว่าไม่ได้ทำผิดกฎ โดยอ้างตามวรรคสุดท้ายของระเบียบข้อดังกล่าวว่า ตนเปลี่ยนผู้เล่นเอเชียออกแล้วส่งผู้เล่นต่างชาติลงแทน ไม่ใช่เป็นการ “เปลี่ยนตัวผู้เล่นไทยออกและนำผู้เล่นต่างชาติเข้าไปเล่นเพิ่ม” เหมือนที่กฎห้าม แต่ดูแล้วฟังไม่ขึ้นสักเท่าไหร่ เพราะส่วนนี้เป็นเพียงส่วนขยายความเท่านั้น ภาพรวมของกฎยังชัดเจนอยู่ ส่วนการถูกปรับแพ้ 0-3 และโดนปรับเงินนั้นก็เป็นไปตามกฎของเอเอฟซีทุกประการ
เหนือสิ่งอื่นใดต้องขอชื่นชมทีมงานของ บีอีซี เทโรศาสน ที่แม่นกฎ และรักษาสิทธิ์ของตัวเองได้ทันควัน อย่าไปสนใจเสียงกาที่บ้วนน้ำลายผ่านคีย์บอร์ดทำนองว่า ทำไมไม่ประท้วงตั้งแต่ในเกม ทำไมไม่ตัดแต้มอย่างเดียวที่ปรับแพ้เลยเพราะจะช่วยกันหรือเปล่า หรือมีการตัดสินเอื้อประโยชน์กันหรือเปล่า
เพราะอย่าลืมว่าเมื่อปี 3 ปีก่อน “มังกรไฟ” เคยเสียประโยชน์ในกรณีคล้ายกันมาแล้วทั้งที่ตัวเองปฏิบัติถูกต้อง โดยกำลังจะเปลี่ยนตัวผู้เล่นต่างชาติลงสนาม แต่กลับโดนแมตช์คอมมิชันเนอร์เบรกกลางคันเพราะมองว่าผิดกฎ แม้หลังจบเกมจะยื่นเรื่องประท้วงแต่ก็ไร้ผล ได้เพียงหนังสือขอโทษจาก ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานทีพีแอลในขณะนั้น และการแสดงสปิริตขอพักงานตัวเองของแมตช์คอมฯเท่านั้น ไม่มีการเปลี่ยนผลการแข่งขันแต่อย่างใด