ผู้จัดการรายวัน 360 – ศึกลูกหนัง โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก 2015 เข้าสู่บั้นปลายซีซันแล้ว โซนท้ายตารางกำลังขับเคี่ยวกันอย่างลุ้นระทึก ซึ่ง ทีโอที เอสซี ทีมบ๊วย มีคะแนนตามโซนปลอดภัยถึง 13 แต้ม คงไร้ปาฏิหาริย์และเป็นทีมแรกที่ต้องตกชั้นค่อนข้างแน่นอนแล้ว ส่วนตั๋วมรณะอีก 2 ใบ ยังต้องจับตาในอีก 5 นัดที่เหลือ โดยมี “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรศาสน และ “ขุนศึก” สระบุรี เอฟซี ที่เป็นเต็งหามจ่อน้ำตาร่วง เพราะเจอโปรแกรมสุดโหด
ทีมอันดับ 12 อย่าง ศรีสะเกษ เอฟซี มี 33 คะแนน แทบจะการันตีความปลอดภัย ขออีกเพียง 6 คะแนนก็จะลอยลำ ที่สำคัญโปรแกรมที่เหลือไม่หนักมาก อีกทั้งทีมรองลงมายังต้องฟัดกันเอง ดังนั้นจึงเหลือ 5 ทีม ที่ต้องดิ้นกันสุดชีวิต ไล่ตั้งแต่อันดับ 13-17 คือ บีอีซี เทโรศาสน 30 คะแนน, ชัยนาท ฮอร์นบิล 30 คะแนน, สระบุรี เอฟซี 28 คะแนน, ราชนาวี 28 คะแนน และการท่าเรือ เอฟซี 26 คะแนน
สำหรับ 5 นัดสุดท้าย การท่าเรือ และ ราชนาวี จะได้เปรียบจากการลงเล่นในบ้าน 3 นัด โดยลูกทีมของ มาซาฮิโร วาดะ ดูมีภาษีที่จะถีบตัวเองให้ปลอดภัยได้ เพราะสถิติใน แพท สเตเดียม กำชัยมาแล้ว 7 เกม มากสุดในบรรดาทีมหนีตาย ที่สำคัญทีมกำลังมั่นใจและลงตัว กำชัยมาแล้ว 2 เกมติด แม้นัดสุดท้ายจะเปิดรังรับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แต่เชื่อว่าชั่วโมงนั้น “ปราสาทสายฟ้า” คงจะคว้าแชมป์ด้วยคะแนนขาดลอยไปแล้ว จึงเป็นโอกาสของ “เจ้าท่า” ที่จะฮึดแชร์แต้มจนถึงขั้นพลิกชนะ ขณะที่อีก 4 เกมก่อนหน้าก็ไม่หนักมาก (เหย้า) โอสถสภา เอ็ม150, (เยือน) นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี, (เหย้า) ชัยนาท และ (เยือน) บางกอกกล๊าส เอฟซี
เช่นเดียวกับ “ตะหานน้ำ” หลังได้ "เตโก" สเตฟาโน คูกูร์รา เข้ามากู้วิกฤต กำชัยมา 4 เกมรวดก่อนจะสะดุดแพ้ใน 2 นัดล่าสุด แต่โปรแกรมที่เหลือไม่ถึงกับสาหัส (เหย้า) ราชบุรี มิตรผล เอฟซี, (เยือน) แบงค็อก ยูไนเต็ด, (เหย้า) ทีโอที, (เยือน) ชัยนาท และ (เหย้า) อาร์มี่ ยูไนเต็ด
ส่วน ชัยนาท แม้จะต้องเจอทีมท่อนบนตาราง คือ (เยือน) เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ (เหย้า) สุพรรณบุรี เอฟซี แต่ก็ได้เจอทีมในโซนเดียวกันต่อคือ (เยือน) การท่าเรือ และ (เหย้า) ราชนาวี หากเก็บชัยได้นัดใดนัดหนึ่งหรือทั้งสองนัดโอกาสรอดสูง โดยเลกแรก “นกใหญ่” กำราบมาแล้วทั้งคู่ (1-0 และ 4-0 ตามลำดับ) เพียงแค่เสมอก็จะกุมความได้เปรียบในส่วนของ เฮด-ทู-เฮด ก่อนจะปิดท้ายเยือน แบงค็อก
ขณะที่อีก 2 ทีมถือว่างานหนัก โดยเฉพาะ สระบุรี ที่แม้จะไม่แพ้ใครมา 7 เกมติด และเก็บชัยได้ 3 นัด ทว่าคิวที่เหลือต้องเจอของแข็งและเป็นงานยากทุกเกม ไล่ตั้งแต่ (เหย้า) บางกอกกล๊าส, (เยือน) บีอีซี เทโรฯ, (เยือน) บุรีรัมย์, (เหย้า) เอสซีจี เมืองทองฯ และ (เยือน) ชลบุรี เอฟซี ซึ่งผลงานในเลกแรก “ขุนศึก” ชนะ “มังกรไฟ” ได้เพียงทีมเดียว(2-1) ที่เหลือแพ้เรียบ นอกจากนี้การต้องไปเยือน “ปราสาทสายฟ้า” ที่จะได้เล่นในบ้านเป็นเกมสุดท้ายของซีซัน และหมายมั่นปั้นมือว่าจะเก็บชัยฉลองทิ้งทวนให้แฟนคลับ จึงเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีแต้มติดมือกลับมา
ปิดท้ายที่ บีอีซี เทโรศาสน ยักษ์ใหญ่ที่อุดมไปด้วยแข้งดีกรีทีมชาติ แต่ผลงานผิดฟอร์มต้องลงมาลุ้นหนีตาย แม้จะได้ 3 แต้มฟรีจากความผิดพลาดของคู่แข่ง แต่มองโปรแกรมแล้วลากเลือดไม่แพ้กัน โดยเกมหน้าต้องไปเยือน สุพรรณบุรี ที่เพิ่งฮึดไล่ตีเสมอ เอสซีจี เมืองทองฯ 2-2 ด้วยสภาพทีมที่ร่อแร่ ขาด “กัปตันอ้น” รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค, อดิศักดิ์ ไกรษร และ เกร็ก เอ็นโวโคโล ที่พร้อมใจติดโทษแบน จากนั้น (เหย้า) สระบุรี (เยือน) เอสซีจี เมืองทองฯ (เหย้า) บุรีรัมย์ และ (เยือน) เชียงราย
โดยโปรแกรมสำคัญที่ต้องจับตา คือ เกมที่ทั้ง 4 ทีมต้องมาตัดกันเอง คือ บีอีซี เทโรฯ พบ สระบุรี (29 พ.ย.), การท่าเรือ พบ ชัยนาท (6 ธ.ค.) และ ชัยนาท พบ ราชนาวี (9 ธ.ค.) หากทีมไหนชนะจะพลิกสถานการณ์เปลี่ยนอันดับได้ทันควัน