xs
xsm
sm
md
lg

เลือกตั้งอลเวง / ชมณัฐ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ “TIMEOUT” โดย “ชมณัฐ”

หลายคนคงเบื่อหน่ายกับข่าวการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่ออกมาตอบโต้ พลิกกันไปมาวันต่อวัน หลังจากที่แอบยิ้มกริ่มกันค่อนประเทศไปแล้วเมื่อครั้งที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ “ฟีฟา” ประกาศพักงาน วรวีร์ มะกูดี 90 วัน “ไทม์เอาท์” ฉบับนี้จึงอาสาอัพเดทความคืบหน้า และส่องทิศทางในอนาคตมาฝากกัน

สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ต่อเนื่อง ดักคอเรื่องขอบเขตอำนาจหน้าที่ของ คณะกรรมการกลาง 6 คน ที่ฟีฟาแต่งตั้งเข้ามาดูแลการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ ตลอดจนขู่ฟอดๆ ห้ามแก้ไขที่มาของ30 เสียงโหวตจากลีกภูมิภาค (ดิวิชั่น 2) ซึ่งอยู่ในข้อบังคับฉบับใหม่ของสมาคมฟุตบอลฯที่มีการประชุมรับรองไปเมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา (แก้จากใช้อันดับ 1-5 ของทั้ง 6 โซน เปลี่ยนเป็นให้ทั้ง 6 ภาคโหวตเลือกตัวแทนกันเองโซนละ 5 ทีม) โดยให้เหตุผลว่าสโมสรสมาชิกชงฟีฟารับรองแล้ว

ล่าสุดทางคณะกรรมการกลางที่เคยแย้มว่าอาจจะพิจารณาแก้ไขที่มาที่ไปของเสียงโหวตส่วนนี้ใหม่ ก็เป็นอันต้องไฟเขียวปล่อยตามเดิม เนื่องจากข้อบังคับดังกล่าวฟีฟาไม่ได้ขัดข้อง พร้อมโยนเรื่องให้ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ที่ปล่อยเกียร์ว่างมานานเป็นผู้พิจารณาขั้นสุดท้ายว่าจะต้องแก้หรือว่ายึดตามเดิม

ก่อนหน้านี้ กกท. ได้รับเรื่องการแก้ไขข้อบังคับฉบับใหม่แล้ว เพียงแต่ยังไม่ฟันธงออกมาว่าจะ “รับรอง” หรือ “ไม่รับรอง” แต่เมื่อคณะกรรมการกลางโยนงานมาแล้วก็ถึงเวลาที่องค์กรแม่จะต้องตัดสินให้เด็ดขาด ทว่าไม่ว่าจะออกหน้าไหนก็สุ่มเสี่ยงจะโดนฟ้องร้องทั้งคู่ หากมีมติรับรอง เหล่าฝ่ายค้านที่ยื่นเรื่องประท้วงให้สอบที่มาก็อาจดำเนินคดีตามมาตรา 157 เอาผิดเจ้าพนักงานที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่หากไม่รับรองและต้องมีการแก้ไขข้อบังคับใหม่ ทางสมาคมฟุตบอลฯอาจจะหยิบหลักฐานมาฟ้องร้องได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตามประเด็นสำคัญไม่น่าจะอยู่ที่จุดนี้ เพราะหลายฝ่ายคาดการณ์แล้วว่า กกท. คงจะรับรอง ตามที่ฟีฟาและคณะกรรมการกลางแทงเรื่องมา ดังนั้นคำถามจึงอยู่ที่ว่าถ้าขั้นตอนนี้แล้วเสร็จ จากนั้นจะเป็นอย่างไรต่อ ? จะเดินหน้าจัดการเลือกตั้งโดยมีแคนดิดเดต 3 รายตามเดิมต่อเลยหรือไม่ หรือจะคงสิทธิ์ผู้สมัครทั้ง 3 รายนี้ไว้ แล้วเปิดรับผู้ท้าชิงเพิ่มเติม หรือจะต้องเปิดรับผู้สมัครใหม่ทั้งหมด ตามที่สมาคมฟุตบอลฯได้ระบุไว้ก่อนหน้านี้

ปัญหาที่ต้องตั้งข้อสังเกตก็คือ หากเป็นวิธีที่ 1 และ 2 ชื่อของ วรวีร์ อาจจะยังคงอยู่ในสิทธิ์ ถ้าไม่มีอะไรพลิกโผหรือโดนโทษเพิ่มเติม เจ้าตัวเพียงรอพ้นโทษแบนวันที่ 10 มกราคม ปีหน้า ก็กลับมาลงเลือกตั้งต่อได้ทันเวลาที่ฟีฟากำหนดกรอบห้ามเกินวันที่ 15 กุมภาพันธ์ แต่หากเป็นวิธีที่ 3 ก็สุ่มเสี่ยงที่ “บังยี” จะชวดสิทธิ์ เพราะหากจัดเลือกตั้งวันดังกล่าว การจะเปิดรับผู้สมัครใหม่ก็ต้องนับย้อนขึ้นไปอีก ต้องมีการจัดประชุมใหญ่พิเศษล่วงหน้าก่อน 30 วัน (ราววันที่ 15 มกราคม) ที่สำคัญทาง คณะกรรมการออกมาประกาศแล้วว่าจะจัดการลงคะแนนให้เร็วขึ้นจากกำหนดเดิมอีก 1 สัปดาห์

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องจับตาดูกันต่อไป เพราะถึงแม้วันนี้การดำเนินการต่างๆของคณะกรรมการกลางยังเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ แต่ต้องอย่าลืมว่ากรรมการชุดนี้ก็มีชื่อที่ผู้ลงสมัครชิงเก้าอี้แต่ละรายผลักดันเข้ามาตามโควตา จึงมีบางคนแอบกระซิบว่า ภายในการประชุมวันนี้ยังไม่มีข้อเสนอที่ขัดแย้งกัน แต่อนาคตก็ยังไม่แน่ เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีพรรคมีพวกกันอยู่


กำลังโหลดความคิดเห็น