ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - บางครั้งโชคชะตาก็เล่นตลก เหมือนเป็นบททดสอบครั้งแล้วครั้งเล่าว่าคุณจะถอดใจหรือไม่ ก่อนจะไปถึงเส้นชัยแห่งความสำเร็จที่รออยู่เบื้องหน้า
กรณี เจสัน เดย์ ก้านเหล็กชาวออสซี น่าจะอธิบายประโยคข้างต้นได้เป็นอย่างดี เพราะ 5 ปีมานี้เฉียดคว้าแชมป์เมเจอร์แรกในชีวิตหลายต่อหลายครั้ง ไล่ตั้งแต่อันดับ 2 “เดอะ มาสเตอร์ส” กับ “ยูเอส โอเพน” ปี 2011, อันดับ 2 “ยูเอส โอเพน” ปี 2013 และสดๆ ร้อนๆ อันดับ 4 “ดิ โอเพน” ปี 2015 เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
แต่ล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา น้ำตาของ เจสัน เดย์ ก็พรั่งพรูที่ วิสต์ลิง สเตรทส์ คอร์ส เพราะก้าวไปคว้าแชมป์เมเจอร์แรกได้สำเร็จในศึก “พีจีเอ แชมเปียนชิป” ด้วยสกอร์ 20 อันเดอร์พาร์เอาชนะ จอร์แดน สปีธ หนุ่มชาวอเมริกัน ที่ปีนี้ก็ฟอร์มแรงใช่ย่อย โดยเบียดไป 3 สโตรก
ก็ไม่แปลกที่ เจสัน เดย์ จะร้องไห้ฟูมฟาย ยิ่งจังหวะ เอลลี ฮาร์วีย์ ภรรยาที่แต่งกันเมื่อปี 2009 กับ แดช เจมส์ ลูกชายเข้ามาร่วมยินดี เพราะที่ผ่านมาเป็นแค่พระรองจนนึกว่าจะไม่มีวาสนาเสียแล้ว นอกจากนี้สกอร์ที่ทำได้ 20 อันเดอร์พาร์ถือเป็นสถิติใหม่ของคนที่คว้าแชมป์เมเจอร์ โดยก่อนหน้านี้ดีที่สุดเป็น ไทเกอร์ วูดส์ ทำไว้ 19 อันเดอร์พาร์ศึก “ดิ โอเพน” เมื่อปี 2000
ปี 2015 ก่อนหน้านี้ เจสัน เดย์ ได้แชมป์ พีจีเอ ทัวร์ 1 รายการคือ “อาร์บีซี แคนาเดียน โอเพน” กับโคแซงชัน พีจีเอ กับ ยูโรเปียน ทัวร์ อีกรายการคือ “ฟาร์เมอร์ส อินซัวแรนซ์ โอเพน”
สำหรับแชมป์ “พีจีเอ แชมเปียนชิป” ส่งให้ เจสัน เดย์ เป็นนักกอล์ฟออสเตรเลียที่คว้าแชมป์เมเจอร์ต่อจาก อดัม สกอตต์ ที่ทำไว้กับ “เดอะ มาสเตอร์ส” เมื่อปี 2013 และเป็นคนที่ 5 ที่ได้แชมป์ “พีจีเอ แชมเปียนชิป” ต่อจาก สตีฟ เอลคิงตัน (1995) เวย์น เกรดี (1990) เดวิด เกรแฮม (1979) และ จิม เฟอร์เรียร์ (1947)
แต่ถ้าพิจารณาจากฟอร์มที่ผ่านมาถือว่าไม่แปลก เนื่องจาก เจสัน เดย์ เล่นได้ค่อนข้างคงเส้นคงวา ดังที่ผู้วิเคราะห์เกมกอล์ฟมักจะเลือกไปติดอันดับคนที่มีลุ้นแชมป์แต่ละรายการเสมอ
ย้อนไปวันที่ เจสัน เดย์ เติบโตขึ้นมาในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ครอบครัวมีฐานะที่ไม่สู้ดีนักไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นต้องใช้วิธีต้มจากกา โดย เดนนิง แม่ที่เป็นชาวฟิลิปิโน มีอาชีพรับตัดหญ้า พ่อชื่อว่า อัลวิน ทำงานที่โรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ พ่อเสียชีวิตด้วยมะเร็งกระเพาะอาหารจากการดื่มเหล้าตอนเขาอายุแค่ 12 ปี
แม่ได้ส่ง เจสัน เดย์ ไปยัง คูรัลบิน อินเตอร์เนชันแนล สคูล ขับรถ 30 นาทีไปทางใต้ของ บิวเดสเซิร์ต ที่ๆ มีสนามกอล์ฟชั้นดี แต่จากนั้นก็ไปต่อที่วิทยาลัย ฮิลส์ อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งก็มีกอล์ฟอะคาเดมีแบบเป็นเรื่องเป็นราว หลังจากที่แรกปิดตัวลง ตามคำสั่งของโค้ชคือ โคลิน สวัตตัน ที่เริ่มจะเห็นแววในตัว
จากนั้น เจสัน เดย์ ได้ยืมหนังสือเกี่ยวกับ ไทเกอร์ วูดส์ โปรตำนานชาวอเมริกัน จากเพื่อนร่วมห้องมาดูเพื่อเป็นแรงบันดาลใจรวมถึงปรับปรุงเกมกอล์ฟของตนเองซ้อมในช่วงเช้า กลางวันและบ่าย จนกระทั่งวัย 13 ปีชัยชนะครั้งแรกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตก็มาถึงในปี 2000 คือแชมป์ “ออสเตรเลียน มาสเตอร์ส จูเนียร์” ที่ โกลด์ โคสต์
นับตั้งแต่วัยเด็กจนถึงได้ชูถ้วยแชมป์เมเจอร์ เจสัน เดย์ ยอมรับว่าไม่นึกไม่ฝันมาก่อนเหมือนกัน “ผมไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะมีวันนี้ รวมถึงคงเป็นไปไม่ได้ถ้าไม่มีพ่อ วันที่ท่านเสียเหมือนประตูปิดลง แต่ว่าประตูอีกบานก็เปิดโดยมีแม่กับพี่น้องเป็นผู้เสียสละ ผมได้ไปยังสถาบันการศึกษากอล์ฟ พบกับ โคลิน สวัตตัน ที่ตอนนี้เป็นทั้งโค้ช, แคดดี และที่ปรึกษาในทุกๆ เรื่อง”
ก้านเหล็กวัย 27 ปีเล่าให้ฟังอีกว่า “โคลิน อยู่กับผมตั้งแต่อายุ 12 ปีจนได้แชมป์เมเจอร์แรก ส่วนแม่ก็ต้องไปหยิบยืมเงินจากลุงกับป้าเพื่อสร้างโอกาสให้ผม ตอนนั้นจำได้แม่นเลยผมนั่งดูแม่ตัดหญ้าด้วยมีดเพราะไม่มีเครื่อง ต้องต้มน้ำเพื่อให้ได้น้ำอุ่น ทุกอย่างเป็นการกระตุ้นให้ผมร้องไห้ออกมาด้วยความตื้นตันในวันนี้”
ส่วนชีวิตคู่นั้น เจสัน เดย์ กับ เอลลี ภรรยา ก็ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาไม่น้อย จนกระทั่งมีวันนี้วันที่โปรออสซีฟันเงินจากแชมป์เมเจอร์ 1.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 63 ล้านบาท) ตอนนี้เธอก็ตั้งท้องอยู่คาดลูกคนที่ 2 น่าจะคลอดช่วงเดือนตุลาคมที่จะถึง
ตอนนี้ เจสัน เดย์ ขยับจากมือ 5 มารั้งมือ 3 ของโลก ก่อนหน้านี้ นิค ฟัลโด โปรชาวอังกฤษเจ้าของ 6 แชมป์เมเจอร์เคยยกย่องว่าจะขึ้นมาเป็น “นิว แกรี เพลเยอร์” ตำนานชาวแอฟริกาใต้วัย 79 ปีเจ้าของ 9 แชมป์เมเจอร์ แต่ตอนนี้ที่แน่ๆ คือเป็น “บิ๊กทรี” ของวงการสวิงโลกรองจาก สปีธ กับ รอรีย์ แม็คอิลรอย (ไอร์แลนด์เหนือ) แล้ว
ในที่สุดความพยายามก็นำมาสู่วันนี้ที่เป็น “วันของ เจสัน” (Jason's day) ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดถือเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนเพื่อที่วันหนึ่งวันของคุณก็สามารถมาถึงได้เช่นกัน
เรื่อง สรเดช เพชรแสงใสกุล
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!***